ลุย ‘เชียงราย-เชียงใหม่’ เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม

26 ก.ย. 2567 - 07:38

  • นายกฯ ‘แพทองธาร’ บินประชุมส่วนราชการ ‘เชียงราย’ พรุ่งนี้ วางกรอบแผนเผชิญเหตุและป้องกันภัยของชาติ ต้องรับมืออุทกภัย วาตภัยอย่างเป็นระบบ ในอนาคตให้ได้ทุกภาคของประเทศ

  • ชี้ หากได้ข้อสรุปป้องกันภัยได้จะสรุปเป็น ‘แม่สายโมเดล’

  • ก่อนเดินทางไป ‘เชียงใหม่’ เสาร์นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยเช่นกัน

pm_ing_flood_26sep2024_SPACEBAR_Hero_aaae4e0028.jpg

จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เช้าวันนี้ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี  ได้รับรายงานสรุปจากรองนายกรัฐมนตรี ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ และรัฐมนตรีที่อำนวยการสั่งการในศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) โดยให้ดำเนินการแผนการป้องกันจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือนอกจากนี้ ศปช.ได้รายงานแผนฟื้นฟูของจังหวัดเชียงราย จังหวัดหนองคาย และจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วม และดินโคลนถล่มโดยกำชับนโยบายที่เคยสั่งการไว้ให้เร่งจ่ายเงินเยียวยาให้รวดเร็วลดขั้นตอนทางด้านเอกสารให้มากที่สุด

ซึ่งที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องนำมาประมวลหาข้อสรุปในเชิงป้องกันให้ครบถ้วน

“เราไม่เคยเจอปัญหาน้ำป่าพัดโคลนจำนวนมากเข้าเมืองอย่างนี้มาก่อน ซึ่งต้องวางกรอบแผนเผชิญเหตุและป้องกันภัยของชาติ ต้องรับมืออุทกภัย วาตภัยอย่างเป็นระบบ ในอนาคตให้ได้ทุกภาคของประเทศ หากได้ข้อสรุปที่ป้องกันภัยได้ ก็จะสรุปเป็น ‘แม่สายโมเดล’ เป็นต้นแบบการทำงานแก้ไขปัญหา เพราะหากเกิดปัญหาอุทกภัยในลักษณะนี้ขึ้นอีกในประเทศไทย จะได้มีแผนการรับมืออย่างครอบคลุมในทุกจังหวัด ทุกภาคของประเทศไทย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

จิรายุ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมีความจำเป็นจะต้องรับฟังปัญหาเพิ่มเติม และรับรู้แนวทางป้องกัน จากส่วนราชการในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน มูลนิธิ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อนำมากำหนดนโยบายในการป้องกัน โดยวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เป็นกรรมการ ศปช. จะเดินทางไปที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ติดตามการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พร้อมประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อกำหนดทิศทาง และหาข้อสรุป นำมาเขียนเป็นแผนยุทธศาสตร์ เพื่อรับมือกับการเกิดอุทกภัย และวาตภัยของประเทศอีกครั้ง  โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะพักค้างคืนที่จังหวัดเชียงรายและเดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ในพื้นที่ ประสบอุทกภัย พบ พี่น้อง ประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาหลังการเข้าฟื้นฟูต่อไป

“ในเดือนตุลาคม แม้จะเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งคาดว่าจะผ่านฤดูฝนไป ในกลางเดือนตุลาคม แต่ระหว่างนี้ ขอให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และทุกส่วนราชการ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เนื่องจาก ในสัปดาห์หน้านี้ ยังมีหลายพื้นที่ของประเทศไทยยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องหากเกิดวาตภัย หรืออุทกภัยฉับพลันจะได้เข้าแก้ไขได้ทัน” จิรายุ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี  มีกำหนดการลงพื้นที่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่  27-28 ก.ย.นี้ โดยวันที่ 27 ก.ย. เวลา 13.45 น.นายกฯ และคณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยเมื่อนายกฯ เดินทางถึงสนามบินฯ จะเป็นประธานการประชุมบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ต่อมาเวลา 16.30 น. นายกฯ เดินทางลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยและให้กำลังใจผู้ประสบภัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ก่อนนายกฯเดินทางเข้าที่พักค้างคืนที่จังหวัดเชียงราย 1 คืน

จากนั้น วันที่ 28 ก.ย. เวลา 08.30 น. นายกฯ และคณะเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอแม่สาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยนายกฯ จะลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ ฟื้นฟู พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ หลังจากเหตุการณ์อุทกภัย ก่อนที่นายกฯ และคณะ จะขึ้นรถบรรทุกทหาร เพื่อเข้าไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่บ้านเกาะทราย บ้านไม้ลุงขน บ้านเหมืองแดง อ.แม่สาย และเดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร อ.แม่สาย เพื่อพบปะให้กำลังใจ มอบเงินเยียวยาให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

ขณะที่ช่วงบ่าย นายกฯ และคณะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในเขตชุมชน อ.เมืองเชียงใหม่ บริเวณสถานีวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ และพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครและผู้ปฏิบัติงาน ที่สำนักงานแขวงกาวิละ และมอบถุงยังชีพ พบกับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย บริเวณพื้นที่ย่านถนนช้างคลาน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพกรุงเทพฯ เวลา 15.30 น.

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์