พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีเหตุระเบิดภายในงานกาชาด อะเมซิ่งแผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ประจำปี 2567 นั้น ได้รับรายงานจาก สภ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 23.35น. เกิดเหตุทะเลาะวิวาทปาระเบิดใส่ผู้มาร่วมงานกาชาด อะเมซิ่งแผ่นดินดอยลอยฟ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอุ้มผาง ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 48 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยมีคนร่วมงานประมาณ 8,000-9,000 คน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้ง 2 คน ได้แก่ คนไทย 1 คน คือ เอ (นามสมมติ) และกองกำลังกะเหรี่ยง KNU 1 คน คือ จอริทู มีประวัติเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา จากการสอบสวนเบื้องต้น จอริทู รับว่า เป็นผู้สะพายกระเป๋าใส่ระเบิด สาเหตุเกิดจากมีเหตุโกรธเคืองกับกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีมาตั้งแต่งานลอยกะทง ครั้งนี้จึงมาก่อเหตุเอาคืนคู่กรณี
นอกจากนี้ โฆษก ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชากรตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้เต็มที่ โดยหลังทราบเรื่อง ผบ.ตร.ได้สั่งการตำรวจฝ่ายสืบสวนพื้นที่ และ ภ.6 เร่งจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้ โดยให้บูรณาการกับหน่วยงานทหารเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 2 ราย และได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน กำกับดูแลพื้นที่ ภ. 5 และ ภ.6 ลงไปกำกับติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อขยายผลดำเนินการทุกมิติ
สำหรับตำรวจพื้นที่ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ก่อนการจัดงานได้มีการประชุมหรือวางแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างไรหรือไม่ หากพบว่าเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นทุกปีและไม่มีการกำหนดแผนหรือมาตรการใดๆ รองรับ ให้พิจารณาข้อบกพร่องทางวินัยและการปกครองทันที รวมทั้งสั่งเพิ่มความเข้มทุกพื้นที่ที่มีการจัดงาน ทั้งด้านการหาข่าวและการปฏิบัติ และการระมัดระวังกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นคู่อริ ต้องไม่ให้เกิดเหตุใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ด้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้มอบหมายสุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช รักษาการผู้ตรวจเขตสุขภาพที่ 2 ติดตามดูแลและรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวน 56 ราย แบ่งเป็น
1\. ผู้ป่วยในวาวะวิกฤต (สีแดง) จำนวน 6 ราย
2\. ผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง (สีเหลือง) จำนวน 22 ราย
3\. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง (สีเขียว) จำนวน 25 ราย
- ผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย เสียชีวิตในพื้นที่ 2 ราย และ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากการโดนสะเก็ดระเบิด ในจำนวนนี้ให้กลับบ้านแล้ว 33ราย
สำหรับรายละเอียดการดูแลรักษาขณะนี้
1\. ส่งต่อผู้ป่วย เข้ารับการผ่าตัดด่วนที่ รพ.แม่สอด จำนวน 10 ราย
2\. ให้แอดมิดที่ รพ. อุ้มผาง จำนวน 10 ราย
โดยมีโรงพยาบาลอุ้มผางเป็นหน่วยปฏิบัติกำลังหลัก โรงพยาบาลพบพระ โรงพยาบาลแม่สอด เป็นหน่วยส่งต่อและสนับสนุนการปฏิบัติการ นอกจากนี้ในเบื้องต้น ทีม MCATT ได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปจัดการดูแลสุขภาพจิต ประเมินสุขภาพจิตของผู้เกี่ยวข้อง ที่ได้รับผลกระทบ และจะประเมิน คัดกรอง ช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม ดูแลได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
“ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมที่จะดูแลทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของพี่น้องประชาชน ผมได้มอบหมายให้ สุภโชค เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นสถานการณ์ด้วยความปลอดภัยโดยเร็วที่สุด”
— สมศักดิ์ กล่าว