กรณี ‘คณะรัฐมนตรี’ มีมติยกเลิกการอยู่เวรของครูในโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุครูสาวถูกทำร้ายร่างกาย ขณะเข้าเวรเฝ้าโรงเรียนในวันหยุด ที่ จ.เชียงราย
ล่าสุดวันนี้ (25 ม.ค.) ‘พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง’ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือมาถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอความร่วมมือจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจดูแลความปลอดภัยและติดตั้งตู้แดงประจำสถานศึกษาแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมอบหมายให้ฝ่ายป้องกันปราบปราม ไปประชุมหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดรูปแบบการทำงานร่วมกันในการดูแลความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับครู อาจารย์ นักเรียนต่อไป
เบื้องต้นในมาตรการระยะสั้น คงเป็นการออกตรวจของตำรวจร่วมกับ อปพร. อาสาสมัครชุมชน หมู่บ้าน ส่วนมาตรการระยาว คงต้องติดตั้งกล้อง CCTV และเพิ่มงบประมาณต่างๆ เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมยั่งยืนต่อไป
‘พล.ต.ท.อาชยน’ ยังระบุ ต้องยอมรับว่าตำรวจทั่วประเทศมีเพียง 1,400 กว่าสถานีตำรวจ ขณะที่โรงเรียน สถานศึกษา มีหลายหมื่นแห่ง กำลังตำรวจเพียงหน่วยเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ต้องอาศัยความร่วมมือหลายๆภาคส่วน โดยเฉพาะ อปพร. อาสาสมัครชุมชน หมู่บ้าน ที่ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย
นอกจากนี้ ‘พล.ต.ท.อาชยน’ ยังชี้แจงว่า การทำหน้าที่ดังกล่าว ไม่ใช่การไปเข้าเวรประจำโรงเรียนแทนครู ส่วนรูปแบบแนวทางการทำงาน การปฏิบัติหน้าที่ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องรอความชัดเจนของการประชุมหารือร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตาม หน้าที่การรักษาความสงบเรียบร้อย การดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน เป็นหน้าที่โดยตรงของตำรวจอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะสถานศึกษา สถานที่ราชการอื่นๆ แม้กระทั่งบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ตำรวจก็ต้องเข้าไปตรวจตราดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าในส่วนของสถานศึกษาคงจะมีการกำหนดเพิ่มความเข้มในการดำเนินการ ตามแนวทางที่จะต้องมีการหารือกับกระทรวงศึกษา และกระทรวงมหาดไทยต่อไป เพื่อบูรณาการร่วมปฏิบัติ