จุดต่ำสุดของตำรวจ! สมาคมตำรวจฯ จี้ปฏิรูป-ก.ตร.ต้องไม่มีนายกฯ

16 พ.ค. 2567 - 03:38

  • สมาคมตำรวจฯ ลั่น ถึงเวลาต้อง ‘ปฏิรูปตำรวจ’ ฉุดองค์กรขึ้นจากเหว ชี้เป็นจุดต่ำสุดของตำรวจไทย ปมผู้บริหารสูงสุดของตำรวจ 2 คน พัวพันเว็บพนัน

  • ย้ำต้องเร่งฟื้นศรัทธา ชวน ปชช. ลงชื่อแก้กฎหมาย 5 ประเด็น ‘ก.ตร.’ ต้องไม่มีนายกฯ ขจัดการเมือง

police-association-calls-for-police-reform-SPACEBAR-Hero.jpg

วันนี้ ( 16 พ.ค.) ที่โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ สมาคมตำรวจ ร่วมกับ  สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ชมรมพนักงานสอบสวน แถลงข่าว รณรงค์ปฏิรูปตำรวจ2567 โดมี พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวน, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ, พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ, พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวน, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ฯ ม.รังสิต, ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ก่อตั้ง สำนักวิจัย Superpoll และ ยิ่งชีพ อัชฌาสัย ผู้จัดการ ILaw ร่วมแถลง

สมาคมตำรวจและภาคีเครือข่าย แถลงร่วมกันว่า วิกฤตศรัทธาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุดนับแต่มีการจัดตั้งองค์กร ตำรวจมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการรักษากฎหมาย ดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย  และทำหน้าที่ต้นทาง ต้นธารกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เกี่ยวพันชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง แต่กำลังถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรงตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมาจากหลากหลายพฤติกรรมด้านลบของบุคคลในองค์กร ที่สะท้อนมาจากความล้มเหลวในการบริหารงานภายในองค์กรอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

“จนถึงจุดต่ำสุดเมื่อผู้บริหารสูงสุดขององค์กร 2 คน ถูกกล่าวหา และถูกดำเนินคดีอาญาในข้อกล่าวหาว่าได้เรียกรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์ และฟอกเงินหลักร้อยล้านบาท นอกจากนี้ยังปรากฏข่าวในทำนองว่าทั้งสองมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นมีการฟ้องร้องดำเนินคดีและกล่าวหากันไปมา จนถึงขนาดที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีต้องออกคำสั่งให้ทั้งคู่ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายในกรณีที่เกิดขึ้น”

สมาคมตำรวจและภาคีเครือข่าย เห็นพ้องว่า เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของระบบการบริหารภายในองค์กรที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสภาวะการณ์แบบนี้ขึ้นมา และขณะนี้อาการขั้นรุนแรง ซึ่งเกิดจากการสะสมของโรคมาเป็นระยะเวลายาวนาน หากไม่ได้รับการผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วนแล้ว องค์กรตำรวจของไทยคงจะต้องเสื่อมสลายทางความเชื่อถือ ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมและนานาอารยะประเทศ ให้รับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้รักษากฎหมาย และเป็นกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของบ้านเมืองและสังคมให้อยู่โดยปกติสุขได้  ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศในท้ายที่สุด

“การปฏิรูปตำรวจที่ผ่านมา มีการศึกษาและดำเนินการกันมาระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุดมีการตรากฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ขึ้นมาบังคับใช้แต่ก็ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจได้อย่างเห็นผล เนื่องมาจากว่าในขั้นตอนการตรากฎหมายนั้น มีการแก้ไขสาระสำคัญในหลาย ๆ เรื่องที่ไม่ตรงกับที่ได้มีการศึกษากันมาก่อนหน้านั้น ทำให้กฎหมายที่ตราออกมาไม่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเดิม ๆ ที่สะสมอยู่ได้อย่างเห็นผล ดังนั้น จึงสมควรที่จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อที่จะให้การแก้ไขปัญหาในองค์กรตำรวจสำเร็จตามเจตนารมณ์ของสังคมได้”

สำหรับประเด็นที่จะเสนอเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในการบริหารงานบุคคล ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน มี ดังนี้

  1. แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ( ก.ตร. ) โดยไม่ต้องกำหนดให้มี ‘นายกรัฐมนตรี’ เป็นประธาน ก.ตร. แต่ให้ประธาน ก.ตร. มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจขณะที่เสนอให้มี ก.ตร.โดยตำแหน่งที่เป็นข้าราชการประจำ และ ก.ตร.ที่มาจากการเลือกตั้งในจำนวนที่เท่ากัน ปรับลดจำนวน ก.ตร.จากเดิม 16 คน เหลือ 14 คน ประกอบด้วย 1.ประธาน ก.ตร.มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจ  2.ผบ.ตร.เป็น รองประธาน ก.ตร. 3.รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ รวม 6 คน 4.ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจ จำนวน 6 คน รวมเป็น 14 คน เพื่อป้องกันการแทรกแซงการบริหารงานบุคคล จากฝ่ายการเมืองและผู้มีอิทธิพลภายนอกองค์กร
  2. จัดตั้งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการ ( ก.ตร.บช. ) ให้มี ก.ตร.บช.ขึ้นในกองบัญชาการต่าง ๆ เพื่อกำกับดูแลการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจภายในอำนาจของกองบัญชาการนั้น ๆ โดย ก.ตร.บช. ประกอบด้วย 1.ประธาน ก.ตร.บช.มาจากการเลือกตั้ง ของข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้น ๆ 2.ผบช.เป็น รองประธาน ก.ตร.บช. 3.รอง ผบช.เป็นกรรมการ และ 4.ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจ 6 คน รวม 14 คน
  3. ปรับปรุงกฎหมายในส่วนของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ( ก.พ.ค.ตร. ) โดยให้มีการจัดตั้ง สำนักงาน ก.พ.ค.ตร.ขี้น เพื่อรองรับการทำงานของ ก.พ.ค.ตร. แทนจากเดิมที่ใช้ สง.ก.ตร.เป็นหน่วยสนับสนุนการทำงาน  เนื่องจาก สง.ก.ตร.มีภารกิจมาก และไม่มีความถนัดเฉพาะทางต่องานในความรับผิดชอบของ ก.พ.ค.ตร.ซึ่งเปรียบเสมือนศาลปกครองชั้นต้น ซี่งจำเป็นที่จะต้องมีบุคคลากรที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านในเรื่องดังกล่าวมารองรับ สนับสนุนการทำงานของ ก.พ.ค.ตร.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ปรับปรุงกฎหมายในส่วนของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ( ก.ร.ตร.) โดยแก้ไขที่มาและองค์ประกอบของ ก.ร.ตร. ให้มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการพิจารณาคดีวินัย การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน การวินิจฉัยข้อกฎหมาย เพื่อให้ตรงกับภารกิจหน้าที่ของ ก.ร.ตร. และให้มีการจัดตั้ง สำนักงาน ก.ร.ตร.ขี้น โดยไม่ใช้บุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรองรับการทำงานของ ก.ร.ตร. แทนจากเดิมที่ใช้สำนักงานจเรตำรวจ เป็นหน่วยสนับสนุนการทำงาน
  5. ฟื้นแท่งงานสอบสวน เพื่อแก้ไขปัญหาความการบริหารงานบุคคลสายงานสอบสวน ที่ขาดโอกาสในการเจริญก้าวหน้า โดย ให้พนักงานสอบสวนมีเส้นทางการเจริญเติบโตได้โดยการประเมิน ทำตำแหน่งควบเลื่อนไหลในตัวเอง เติบหน้าได้จนถึงระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ สมาคมตำรวจฯ ได้ร่วมกับ ILAW เปิดให้ร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมลงชื่อร่วม ‘ปฏิรูปตำรวจ 2567’ แสดงความเห็นต่อ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ( ฉบับแก้ไข ) ...ผ่านเว็บไซต์ โดยจะเสนอเข้าสภา....

นอกจากนี้ สมาคมตำรวจและภาคีเครือข่าย เห็นพ้องกันว่า ปัญหาขององค์กรตำรวจนอกจากเรื่องการบริหารบุคคลแล้ว เห็นว่าควรปฏิรูปเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น 

  • เรื่องกำลังพล 
  • การจัดสรรงบประมาณ 
  • ค่าตอบแทน ที่ไม่สอดคล้องกับภาระ หน้าที่ ความรับผิดชอบ 
  • ปริมาณงาน ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนองค์กรตำรวจ นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น งานล้น เป่าคดี การคอร์รัปชัน เรียกรับ ยอมรับผลประโยชน์
  • ค่าตอบแทนตำรวจ

ย้ำว่า การปฏิรูปตำรวจเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องทำให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อทำให้ตำรวจสามารถทำงานดูแล บริการประชาชนอย่างเป็นตำรวจอาชีพ มีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาต่อองค์กรตำรวจและกระบวนการยุติธรรรมโดยรวม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์