ผบ.ตร.รับใช้กระสุนจริงคุมสถานการณ์ ยันทำตามยุทธวิธี เสียใจไม่อยากให้สูญเสีย

16 มีนาคม 2566 - 06:39

police-chief-admits-to-using-live-ammunition-to-control-situation-SPACEBAR-Hero
  • ผบ.ตร.ยอมรับใช้กระสุนจริงคุมสถานการณ์ ยันทำตามยุทธวิธี คาดผู้ตายไม่ได้เครียดเรื่องงาน รอความเห็นแพทย์ปมกัญชามีผลต่ออาการทางจิตของ ‘สารวัตรกานต์’ หรือไม่

เหตุ​ ‘สารวัตร​สันติ​บาล’​ เกิดอาการคลุ้มคลั่ง​ ใช้ปืนยิงออกมาจากภายในตัวบ้าน ย่านสายไหม จนนำมาสู่การปิดล้อมพื้นที่ นานกว่า 28 ชม. ก่อนที่ชุดปฎิบัติการจะเริ่มภารกิจสยบ ‘สารวัตรคลั่ง’ ด้วยการบุกเข้าจู่โจมและเกิดการยิงปะทะกัน เป็นเหตุให้ตัว ‘สารวัตรสันติบาล’ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา  

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์สูญเสียครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ ‘พ.ต.ท.กิตติกานต์’ หรือ ‘สารวัตรกานต์’ สารวัตรฝ่ายปกครอง ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตด้วย  

ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยืนยันว่าขั้นตอนการตัดสินใจทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี มีเป้าหมายต้องการควบคุมตัว ไม่ใช่การหมายเอาชีวิต และเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย แต่เนื่องจากจิตแพทย์และทีมตำรวจประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่ายากที่จะเจรจา อีกทั้งผู้ก่อเหตุยืนยันว่าจะไม่วางปืนเด็ดขาด จึงจำเป็นต้องบุกเข้าไปเพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์ ส่วนระยะเวลาที่ในการควบคุมสถานการณ์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้เวลานานเกินไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ขอไม่แสดงความเห็นในประเด็นนี้ แต่เชื่อว่าตำรวจทำดีที่สุดแล้ว  

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังยอมรับว่าปฏิบัติการที่เกิดขึ้น มีคำสั่งให้ใช้กระสุนจริง เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน เพราะตัวผู้ก่อเหตุใช้กระสุนจริงในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมกระสุนยางและปืนไฟฟ้า เตรียมพร้อมไว้ในกรณีที่เห็นว่าสถานการณ์เอื้ออำนวย  

ส่วนสาเหตุที่ ‘สารวัตรกานต์’ คลุ้มคลั่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เชื่อว่าน่าจะมาจากสภาวะจิตใจที่ไม่ปกติ ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน เพราะเป็นการย้ายงานอย่างสมัครใจ และหลังจากย้ายงานมาแล้วไม่พบว่ามีอาการผิดปกติ จนกระทั้งก่อนเกิดเหตุ 5 วัน ถึงเพิ่งเริ่มมีอาการ ไม่ยอมไปทำงาน ผู้บังคับบัญชาฯ จึงได้โทรไปสอบถามและให้แพทย์ไปรับตัวที่บ้านเพื่อไปรักษาตัว แต่ถูกปฎิเสธและตอบโต้ด้วยการใช้ปืนยิงสวนออกมา  

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า ผู้เสียชีวิต เคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิต ที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่มาก่อน แต่ได้ปกปิดเรื่องนี้ไว้ อีกทั้ง ผู้เสียชีวิต ยังทำแบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงอาการทางจิตผ่านเกณฑ์ด้วย จึงเชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวเรื่องงาน ส่วนอาการคลุ้มคลั่งจะเกี่ยวข้องกับการเสพกัญชาหรื่อไม่ หลังพบว่ามีอุปกรณ์​เสพกัญชาและต้นกัญชา อยู่ภายในบ้านผู้เสียชีวิตด้วยนั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบต้องรอความเห็นของแพทย​์ก่อน รวมถึงรอแพทย์​ยืนยันว่ามีบาดแผลบนตัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดกี่จุด 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังยอมรับว่า หลังจากที่เกิดเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู และมีการคัดกรองสภาพจิตของตำรวจทั่วประเทศไปแล้ว ยังพบว่ามีตำรวจที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เข้าข่ายมีอาการทางจิตและประสาท หลังจากนี้ก็จะกำหนดมาตรการให้เข้มข้นขึ้น รวมทั้งให้ประชุมเพื่อสำรวจ คัดกรองตำรวจกลุ่มเสี่ยงในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคมนี้  

ส่วนการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ตำรวจในพื้นที่สำรวจความเสียหายและพร้อมที่จะให้เงินช่วยเหลือกับบ้านข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบทุกราย และให้ความช่วยเหลือกับญาติผู้เสียชีวิตตามสิทธิที่จะได้รับอย่างเต็มที่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์