วันนี้ (13 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์’ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีกำนันนก ว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา โดยแยกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก คือ คดีหลักที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ ‘พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว’ หรือ ‘สารวัตรแบงค์’ โดยเรื่องนี้มีการออกหมายจับและวิสามัญไปแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานอื่นๆ มาประกอบสำนวนเพิ่มเติม เพื่อให้มีความแน่นหนาและรัดกุมทุกมิติ โดยมอบหมายให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับดูแล
ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีหลัก ที่อาจมี ‘ตำรวจ’ หรือบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม หากพบมีความผิดจะต้องออกหมายจับมาดำเนินคดีเช่นกัน โดยจะรวบรวมข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการกู้ข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ มาประกอบกับข้อมูลจากพยานบุคคล หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ
‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ ยังพูดถึงคดีการเสียชีวิตของ ‘พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์’ หรือ ‘ผกก.เบิ้ม’ ผกก.2 บก.ทล. ที่พบเป็นศพภายในบ้านพัก จากพยานหลักฐานที่ตรวจสอบพบ เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากพยานหลักฐานทุกอย่างบ่งชี้ไปในทิศทางนี้ทั้งหมด
สำหรับปฎิบัติการลงพื้นที่ตรวจค้นที่พัก ‘กำนันนก’ หลายจุด วันนี้ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ อธิบายว่า หากมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ต้องไปตรวจสอบทั้งหมด
ส่วนประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจไปรับใช้ผู้มีอิทธิพล ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ บอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่ออย่างนั้น คิดว่าเป็นเแค่บางพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่เรียกกันว่า ‘บ้านใหญ่’ แต่เชื่อมั่นว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังเป็นตำรวจที่ดี และไม่ได้อิงกับผู้มีอิทธิพล อยากให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทั่วไปด้วย ย้ำว่ายังมีตำรวจจำนวนมากที่ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ขออย่างอย่าพึ่งรีบไปตัดสินแบบนั้น รอให้ผลการสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน
เมื่อถามถึงการเยียวยาครอบครัวของ ‘ผกก.เบิ้ม’ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ บอกว่า ทางต้นสังกัด และเพื่อนๆ รวมถึงตัวเขาได้ช่วยกันออกเงินไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนครอบครัวของ ‘สารวัตรแบงค์’ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์การปฎิบัติหน้าที่ โดยกองสวัสดิการจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ ยังบอกว่า เมื่อมีเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียข้าราชการตำรวจ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจเช่นกัน
ส่วนแรก คือ คดีหลักที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ ‘พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว’ หรือ ‘สารวัตรแบงค์’ โดยเรื่องนี้มีการออกหมายจับและวิสามัญไปแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานอื่นๆ มาประกอบสำนวนเพิ่มเติม เพื่อให้มีความแน่นหนาและรัดกุมทุกมิติ โดยมอบหมายให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับดูแล
ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีหลัก ที่อาจมี ‘ตำรวจ’ หรือบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม หากพบมีความผิดจะต้องออกหมายจับมาดำเนินคดีเช่นกัน โดยจะรวบรวมข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการกู้ข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ มาประกอบกับข้อมูลจากพยานบุคคล หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ
‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ ยังพูดถึงคดีการเสียชีวิตของ ‘พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์’ หรือ ‘ผกก.เบิ้ม’ ผกก.2 บก.ทล. ที่พบเป็นศพภายในบ้านพัก จากพยานหลักฐานที่ตรวจสอบพบ เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากพยานหลักฐานทุกอย่างบ่งชี้ไปในทิศทางนี้ทั้งหมด
สำหรับปฎิบัติการลงพื้นที่ตรวจค้นที่พัก ‘กำนันนก’ หลายจุด วันนี้ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ อธิบายว่า หากมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ต้องไปตรวจสอบทั้งหมด
ส่วนประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจไปรับใช้ผู้มีอิทธิพล ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ บอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่ออย่างนั้น คิดว่าเป็นเแค่บางพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่เรียกกันว่า ‘บ้านใหญ่’ แต่เชื่อมั่นว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังเป็นตำรวจที่ดี และไม่ได้อิงกับผู้มีอิทธิพล อยากให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทั่วไปด้วย ย้ำว่ายังมีตำรวจจำนวนมากที่ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ขออย่างอย่าพึ่งรีบไปตัดสินแบบนั้น รอให้ผลการสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน
เมื่อถามถึงการเยียวยาครอบครัวของ ‘ผกก.เบิ้ม’ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ บอกว่า ทางต้นสังกัด และเพื่อนๆ รวมถึงตัวเขาได้ช่วยกันออกเงินไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนครอบครัวของ ‘สารวัตรแบงค์’ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์การปฎิบัติหน้าที่ โดยกองสวัสดิการจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์’ ยังบอกว่า เมื่อมีเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียข้าราชการตำรวจ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจเช่นกัน