‘บิ๊กโจ๊ก’ทวงสิทธิ์คืนรัง! ‘นิด-ต่าย’ ขวางเจอแน่

24 มิ.ย. 2567 - 08:24

  • ‘บิ๊กโจ๊ก’ ร้อง ป.ป.ช. สอบ ‘บิ๊กต่าย’ ปมคำสั่งให้ออกมิชอบ

  • ขู่เอาผิด ‘เศรษฐา’ หากคุมตำรวจให้ทำถูกกฎหมายไม่ได้

  • ย้อนหากไม่เชื่อ ‘กฤษฎีกา’ จะเชื่อใคร ขนาด ‘นายกฯ’ ยังต้องขอความเห็นปมเงินดิจิทัล

  • จ่อยื่นหนังสือถึงมือ ‘บิ๊กต่อ’ พรุ่งนี้ (25 มิ.ย.)

police-conflict-suracheat-srettha-wissanu-kittirat-SPACEBAR-Hero.jpg

วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อขอให้ ป.ป.ช. สวบสวนเอาผิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ , ผู้บัญชาการกฎหมาย และผู้บังคับการกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีมีความเห็นเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมิชอบด้วยกฏหมาย เข้าข่ายผิดความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 157  

โดยการปรากฏตัวของ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ วันนี้ ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรก หลัง ‘วิษณุ เครืองาม’ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้แถลงเปิดเผยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ของคณะกรรมการที่มี  ‘ฉัตรชัย พรหมเลิศ’ เป็นประธาน ซึ่งการแถลงครั้งนั้นได้อ้างถึงผลการพิจารณาของกฤษฎีกาที่มีมติเอกฉันท์ว่าคำสั่งให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม

police-conflict-suracheat-srettha-wissanu-kittirat-SPACEBAR-Photo02.jpg

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ย้ำว่า เหตุผลที่ต้องมาร้องเรียนวันนี้ เป็นการปกป้องสิทธิของตัวเองที่ถูกริดรอนไปจากการออกคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย และมองว่าเมื่อ ‘วิษณุ เครืองาม’ ได้แถลงข่าวไปแล้ว ถือว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องรับทราบถึงความบกพร่องแล้ว 

ดังนั้นหากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการออกคำสั่งยังคงเพิกเฉย ไม่แก้ไขคำสั่งให้ถูกต้อง ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม และเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง จนกว่าจะได้กลับมาตำแหน่งเดิมส่วนข้อสังเกตว่าทำงานคู่ขนานกับ ‘ทนายตั้ม’ หรือ ‘ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่ได้คุยกันนานแล้ว

นอกจากนี้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยังเชื่อว่า ความผิดพลาดของการเซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการพาด ที่เกิดจากการรีบเกินไป เพราะมีคนต้องการได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ รวมถึงระบุว่าหาก ‘นายกรัฐมนตรี’ ที่มีสถานะเป็นทั้ง ผู้บังคับบัญชาการตำรวจและประธาน ก.ตร. ยังเพิกเฉยไม่ยอมทำตามที่กฤษฎีกาทักท้วง ก็จะขอใช้สิทธิ์ฟ้องมาตรา 157 กับนายกฯ ด้วย 

ย้ำสิ่งที่พูดไม่ใช่การขู่เพราะที่ผ่านมา พูดจริงทำจริงตลอด เหมือนครั้งที่แล้วก็เคยฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่แล้วในทำนองเดียวกันมาแล้ว และเตรียมฟ้องหมิ่นประมาทกกูรูทางกฎหมายที่ชอบให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างน้อย 2 คน คนหนึ่งเป็นอดีตตำรวจ และอีกคนเป็น 1 ในกรรมการ ก.ตร. ที่เคยร้องห่มร้องไห้เพราะไม่ได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยขณะนั้นตัวเองดำรงตำแหน่งเป็น พล.ต.ต.

police-conflict-suracheat-srettha-wissanu-kittirat-SPACEBAR-Photo03.jpg

 โดยวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.)  ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ บอกว่าจะไปยื่นหนังสือถึง ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล’ ผบ.ตร. เพื่อขอให้พิจารณาเลือกคำสั่งที่ถูกต้อง 

แม้ตลอดการแถลงข่าว ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ จะยืนยันอย่างดุดันว่าพร้อมเดินหน้าเอาผิดทุกคน ที่ทำให้ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยอมรับว่าหาก ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ยอมขอโทษ หรือยอมพูดคุยเจรจา มีเงื่อนไขที่ตรงกัน ก็พร้อมยุติการร้องเรียนต่างๆ ที่เคยฟ้องร้องไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนของคดีอาญาทั้งของตัวเองและของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์  ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’  อธิบายว่า ตอนนี้สำนวนถูกส่งมาให้ทาง ป.ป.ช. แล้ว แต่ยังไม่มีการชี้มูลความผิด ตามหลักจึงถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมเลี่ยงตอบคำถามว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องผิดกฎหมายจริงหรือไม่ โดยบอกว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม 

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยังเปิดเผยว่า ตอนนี้ประเทศไทยถูกโจมตีว่าเป็นฮับของการก่อการร้าย เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงอยากกลับมาทำงานแล้ว อยากทำให้ประเทศไทยดีขึ้น ชาวบ้านเดือดร้อนเยอะ ทั้งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จีนเทา หนี้นอกระบบ รวมถึงปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดหนัก ย้ำที่อยากกลับไปเพราะอยากทำงานเท่านั้น พร้อมบอกว่า “ถ้าตำรวจดี ประเทศดีแน่” 

เมื่อถามว่าตอนนี้พร้อมกลับมาทำงานเต็มร้อยแล้วใช่หรือไม่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ตอบว่า พร้อมทำงานอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เวลาว่างก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากออกกำลังกาย และอ่านหนังสือ ตอนนี้เหมือนชาร์จแบตไปในตัว

เมื่อถามมองอย่างไรที่ความเห็นของกฤษฎีกาสวนทางกับคณะอนุกรรมการวินัย ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ย้อนถามว่า สื่อควรเชื่อใครมากกว่ากัน ระหว่างอนุกรรมการวินัยฯ หรือกฤษฎีกา อย่าลืมว่ากฤษฎีกาเป็นมือกฎหมายของรัฐบาล ขนาด ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ยังต้องขอความเห็นกฤษฎีกาเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์