พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าเรื่อง ‘คลิปเสียง’ ซึ่งเชื่อมโยงคดี ‘ดิไอคอน กรุ๊ป’ โดยระบุว่า จากการสอบปากคำ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ ‘บอสพอล’ เมื่อวานนี้ (17 ต.ค. 2567) ได้ให้เจ้าตัวฟังคลิปเสียงที่หลุดออกมา 2-3 คลิป ซึ่ง วรัตน์พล ให้การว่าคลิปดังกล่าวเป็นเสียงของตนเองจริง
ส่วนคลิปสนทนากับ ‘นักการเมือง ส.’ ขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบเพิ่มเติมก่อน แต่คำให้การถือว่ามีประโยชน์มาก แต่เบื้องต้น จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ วรัตน์พล ยังมีคลิปเสียงอีกมาก ซึ่งต้องให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีคลิปเสียงที่ วรัตน์พล บอกว่าถูกบรรดานักร้องรีดไถอีกด้วย

สรุป 9 วันคดี ‘ดิไอคอนฯ’ ผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 2,170 คน - มูลค่าเสียหาย 841 ล้านบาท
ขณะที่ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี ‘ดิไอคอน กรุ๊ป’ โดยการรับแจ้งความรวม 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-17 ต.ค. 2567
- มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ รวม 2,170 คน
- มูลค่าความเสียหาย 841 ล้านบาท
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้จัดทำศูนย์รับแจ้งความทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สามารถเดินทางไปแจ้งความยัง สภ.ในพื้นที่ได้เลย
พล.ต.ต.โสภณ เผยว่า จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้การฝากขังทำตามกรอบกฎหมาย และจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ทั้งจากการสอบปากคำและพยานบุคคล โดยจะนำคำให้การมายังกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ทั้งนี้ ทางตำรวจได้มีการคัดแยกผู้เสียหายออกมาแล้ว ทั้งแม่ทีมและผู้เสียหาย
ส่วนกรณีการโอนสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แจ้งไปยังกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เข้ามาช่วยในการดำเนินคดี ซึ่งมีความชำนาญการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และสินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะนี้ทรัพย์สินสิ่งที่ยึดมาได้ทั้งหมด ได้แก่
- รถยนต์ จำนวน 24 คัน
- เงินสด 7.5 ล้านบาท
- นาฬิกา 51 เรือน
- กระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนม รวมมูลค่า 210 ล้านบาท
ซึ่งยังมีการขยายผลต่อในการสืบทรัพย์พบบางส่วนมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์ และผู้ที่ดำเนินการยักย้ายถ่ายเท อาจมีความผิดฐานฟอกเงินก็ได้ กรณีการใช้นอมินีมาร่วมเป็นผู้เสียหายทางตำรวจก็ได้ทำการตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ ได้มีการทำงานควบคู่ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ โดยขณะนี้ ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินผู้ต้องหาทั้ง 18 คน โดยอยู่ระหว่างการสืบทรัพย์ รวมถึงขณะนี้ได้ประสานงานไปยังผู้เชี่ยวชาญทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค องค์การอาหารและยาในการร่วมตรวจสอบอีกส่วนหนึ่งด้วย
ขณะที่การตรวจสอบเรื่องสินบนและคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องนักการเมือง อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จัดทีมเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการสืบสวน รวบรวบพยานหลักฐาน ซึ่งจะรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ต่อไป