ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กก.5 บก.ปปป.) ได้คุมตัว แย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ ‘ทิดแย้ม’ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมด้วย อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ (คนสนิท) สองผู้ต้องหาในคดี “ยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท” จากห้องคุมขัง ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ไปส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ขณะเจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งสองเดินออกจากตัวอาคารไปยังลานจอดรถ ภาษากายของผู้ต้องหาทั้งสองรายบ่งบอกว่าอิดโรยและเคร่งเครียด โดยไม่ยอมตอบคำถามของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
ในการยื่นขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งสอง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง มีกำหนด 12 วัน
ต่อมา อรัญญาวรรณ (ผู้ต้องหาที่ 2) ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ระบุเหตุผลว่าเนื่องจากพยานหลักฐานเป็นอิเล็กทรอนิกส์ หากได้ประกันตัวอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้ง อรัญญาวรรณ ยังถูกฝากขังในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ฝ.2739/2568 ของศาลอาญาด้วย ซึ่งข้อหาดังกล่าวก็มีอัตราโทษสูงเช่นกัน หากคดีนี้ได้ประกันตัว เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ 2 จะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ส่วน ทิดแย้ม ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะที่แยก อรัญญาวรรณ ผู้ต้องหาที่ 2 ไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลาง
ทั้งนี้ ทิดแย้ม ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกแจ้งข้อหา เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อหรือจัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตนเอง, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ขณะที่ อรัญญาวรรณ ผู้ต้องหาที่ 2 ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฯ ตลอดจนข้อหาคล้ายกัน อาทิ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีความเชื่อมโยงในฐานะโบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ซึ่งตำรวจคาดว่าเงินบางส่วนที่ถูกยักยอก อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมการพนันหรือถ่ายเทผ่านช่องทางดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติม
วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (สอท.3) ได้คุมตัว เอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ อีกหนึ่งคนสนิททิดแย้ม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค. 2568 ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง ผัดแรก
โดยระหว่าง เอกพจน์ ถูกคุมตัวขึ้นรถได้เปิดเผยในทำนองว่า รู้จักกับทิดแย้ม ช่วงที่เข้าไปบวชอยู่ที่วัดช่วงปี 2561 ไม่รู้ว่าเงินที่โอนเป็นเงินอะไร เป็นเพียงคนสนิทใช้เราให้กดเงิน โอนเงินก็ต้องไปเพราะเป็นพระผู้น้อย ยอมรับโอนให้หลายครั้งแต่ละครั้งแต่ละครั้งก็หลักล้าน โดยโอนให้ ธัญญาวรรณ เป็นการทำโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ก่อนฝากถึงอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ว่า ตอนนี้ตัวใครตัวมัน
ทั้งนี้ เอกพจน์ ถูกแจ้งข้อหา ร่วมจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาต และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงิน ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ
