









วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ สำนักงานจเรตำรวจ พล.ต.ต.เจนกมล คำนวล ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณี ตำรวจขับรถเปิดไซเรนนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ได้เรียก ร.ต.อ.สมพล ภิญโญสโมสร รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1, ด.ต.ขจรศักดิ์ แผ่นผา ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1, ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร ที่ปรากฎในคลิปของนักท่องเที่ยวจีน มาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาฐานผิดวินัยร้ายแรง
นอกจากนี้ยังให้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ รถเก๋ง โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นเทรเชอร์ สีขาว และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอฟเซด 1 สีขาว ทะเบียนตราโล่ ที่ปรากฎในคลิปมาตรวจสอบยืนยันว่าเป็นรถที่ปรากฎในคลิปหรือไม่ โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบครั้งแรก เบื้องต้นไม่พบสติกเกอร์โล่ตำรวจติดอยู่ที่รถ อย่างที่ปรากฎในคลิปแล้ว เนื่องจากเจ้าของรถเป็นคนลอกออกไปเอง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์
พล.ต.ต.เจนกมล ยังบอกว่าจากการสอบปากคำตำรวจ ทั้ง 4 นาย ทุกคนยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าอยู่ในคลิปจริง แต่ไม่มีการเรียกรับเงินหรือสร้างความเสียหายต่อราชการ ส่วนจะมีตำรวจคนอื่น หรือบริษัททัวร์ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผล รวมถึงเรื่องเส้นทางการเงินที่จะต้องมีการตรวจสอบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการประสานงานกับนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นเจ้าของคลิป เรื่องการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งอาจระบบออนไลน์แทนการเชิญตัวมาประเทศไทย
ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดจริง จะมีโทษ 2 สถาน คือ ไล่ออกจากราชการหรือปลดออกจากราชการ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 60 วัน
นอกจากนี้ยังให้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ รถเก๋ง โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นเทรเชอร์ สีขาว และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอฟเซด 1 สีขาว ทะเบียนตราโล่ ที่ปรากฎในคลิปมาตรวจสอบยืนยันว่าเป็นรถที่ปรากฎในคลิปหรือไม่ โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบครั้งแรก เบื้องต้นไม่พบสติกเกอร์โล่ตำรวจติดอยู่ที่รถ อย่างที่ปรากฎในคลิปแล้ว เนื่องจากเจ้าของรถเป็นคนลอกออกไปเอง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์
พล.ต.ต.เจนกมล ยังบอกว่าจากการสอบปากคำตำรวจ ทั้ง 4 นาย ทุกคนยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าอยู่ในคลิปจริง แต่ไม่มีการเรียกรับเงินหรือสร้างความเสียหายต่อราชการ ส่วนจะมีตำรวจคนอื่น หรือบริษัททัวร์ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผล รวมถึงเรื่องเส้นทางการเงินที่จะต้องมีการตรวจสอบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการประสานงานกับนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นเจ้าของคลิป เรื่องการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งอาจระบบออนไลน์แทนการเชิญตัวมาประเทศไทย
ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดจริง จะมีโทษ 2 สถาน คือ ไล่ออกจากราชการหรือปลดออกจากราชการ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 60 วัน