วันที่ 26 มีนาคม 2567 ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าก่อนการประชุม ก.ตร. นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงกรณีมีคำสั่งย้ายสองนายตำรวจใหญ่ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่ายปราศจากข้อความกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่การลงโทษแต่อย่างใด ยังถือว่าทั้งสองคนเป็นผู้บริสุทธิ์
ส่วนผลการดำเนินการจะนำไปสู่ขั้นตอนทางกฎหมายทางวินัยหรือปกครองหรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย พร้อมย้ำว่า หาก ก.ตร.ข้อเสนอแนะใดใดที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยินดีรับข้อเสนอด้วยความยินดียิ่ง
สำหรับการประชุมดังกล่างมีวาระที่น่าสนใจ อาทิ รายงานผลการดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, การเสนอพิจารณาการเลื่อนเงินเดือนประจำปี 2566 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง (1 ต.ค.66 ) ในโควตาผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือนระดับ ส.6 ขึ้นไป, ร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือส่วนราชการใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสำรองราชการในส่วนราชการใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ..... และร่างข้อบังคับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยวิธีการดำเนินการในระหว่างข้าราชการตำรวจสำรองราชการ, ร่างระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสัตวแพทย์และสัตวบาล พ.ศ.....การขออนุมัติกำหนดเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร. กำหนด ตามมาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งในสังกัดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ก.ตร.วันนี้ เป็นนัดแรกหลังมีการแต่งตั้ง ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นายกฯ ขอ สตช. มูฟออนได้แล้ว ระบุปมบิ๊กต่อ - บิ๊กโจ๊กขัดแย้ง ให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม - กรรมการสอบข้อเท็จจริง บอก ลั่น ทักษิณ เข้าพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวครอบงำรัฐบาล ก่อนทิ้งท้ายอย่าลืมเชียร์ทีมช้างศึกเย็นนี้
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีได้กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2567 ถึงที่ประชุมได้มีการกำชับเรื่องความขัดแย้งระหว่าง 'พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล' ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและ 'พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล' รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังนายกรัฐมนตรี กำชับก่อนหน้านี้ให้ยุติการให้ข่าว แต่ขณะนี้ยังมีการตอบโต้กันไปมาผ่านหน้าสื่อฯ ว่า ผมไม่ได้ยินเรื่องดังกล่าว แต่ในที่ประชุมวันนี้ตนย้ำชัดเจน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนกลับไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนเป็นหลัก ให้เรื่องของคดีทั้งสองท่านดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีการแทรกแซง ซึ่งระหว่างการหารือได้มีการเชิญ 'ฉัตรชัย พรหมเลิศ' อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ 'พล ต.อ.วินัย ทองสอง' อดีตรองผบ. ตร. - กตร.ซึ่งเป็นสองในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ออกจากห้องประชุม
นอกจากนี้อยู่ที่ประชุม ยังมีการพูดคุยถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากร และหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องที่แล้วมา ซึ่งตนกำชับชัดเจน ทุกท่านก็เห็นด้วยว่าเราควรจะมูฟออนได้แล้ว
ส่วนที่ 'ษิทรา เบี้ยบังเกิด' ออกมาแฉข้อมูล ต่างๆจะต้องนำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาในคณะกรรมการตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า วันนี้ผมมาในฐานะประธานก.ตร.เรื่องนี้ผมไม่ยุ่งแล้ว เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบความจริงแล้ว เป็นหน้าที่ของท่าน พี่จะพิจารณาว่าข้อมูลเหมาะสมหรือไม่ เพื่อพิจารณาต่อไป
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากนายกรัฐมนตรี จึงยกเลิกการเดินทางไปสยามประเทศอังกฤษ คือเรื่องอะไรนั้น นายเศรษฐาระบุว่า ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไรบ้าง เป็นเรื่องของท่าน ท่านลาไว้ก่อนแล้ว เมื่อมีการสั่งการไปท่านก็สามารถจะลาได้ เพราะท่านอยากจะทำงานก็ทำได้อยู่แล้ว เรื่องพวกนี้สามารถยกเลิกหรือขอไปใหม่ได้อยู่แล้ว ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตนไม่มีเวลาไปดูรายละเอียดว่ายกเลิกหรือไม่ยกเลิก เราก็เป็นข้าราชการคนหนึ่ง อีกหลายภาคส่วนที่นายกฯต้องไปดูแล เชื่อว่าทุกท่านทำตามกฎ