นายกฯ ห่วงไฟไหม้โกดังสารเคมีระยอง สั่งระดมทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือ

23 เมษายน 2567 - 10:11

Prime Minister-Srettha-orders-the-cause-to-be-urgently-found-Fire-at-Rayong-chemical-warehouse-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘นายกฯ’ ห่วงไฟไหม้โกดังสารเคมีระยอง สั่งระดมทุกหน่วยช่วยลดผลกระทบประชาชน เร่งหาสาเหตุหากจงใจทำผิดต้องถูกลงโทษ

  • ‘รมว.อุตฯ’ เชื่อไฟไหม้โยงเหตุโรงงานกรุงเก่า มีพิรุธ

  • ‘พัชรวาท’ ส่ง คพ.ตรวจคุณภาพอากาศ ยังไม่พบอันตราย

ทำเนียบรัฐบาล (23 เมษายน 2567) เศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีของบริษัท วิน โพรเสส  จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่า  มีความเป็นห่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้หน่วยงานต่างๆอระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกระทรวงอุตสาหกรรม ไปดำเนินการ  และกำชับให้หาสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หากเป็นเหตุที่มีความจงใจให้เกิดขึ้น ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเร่งจัดการกับสารเคมีที่ตกค้าง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยมอบหมายให้นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ไปวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา รวมถึงมีอำนาจกำกับดูแลการกำจัดกากของเสียจากภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นความจงใจที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องคอยฟังรายงานก่อน

‘รมว.อุตฯ’ เชื่อเหตุไฟไหม้โรงงานสารเคมีระยอง โยงเหตุโรงงานกรุงเก่า มีพิรุธ

พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมีจังหวัดระยอง ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับโรงงานที่เกิดเหตุไฟไหม้ก่อนหน้านี้ที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ได้รับรายงานจากอุตสาหกรรมจังหวัดแล้ว ซึ่งได้สั่งการปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าไปดูเรื่องนี้โดยด่วน

เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้ระหว่างสองพื้นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำลายหลักฐานหรือไม่ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ที่มีการกล่าวถึงว่าทั้งสองพื้นที่มีความเชื่อมโยงกันเรื่องของเจ้าของโรงงาน และการเผาเพื่อทำลายหลักฐาน เรื่องนี้ขอให้รอผลสรุปจากทางตำรวจก่อน

“เรื่องนี้เป็นมหากาพย์จริงๆ ไม่ใช่พื้นที่ในอำเภอภาชีและพื้นที่จังหวัดระยองเท่านั้น รวมไปถึงพื้นที่จังหวัดราชบุรีด้วย ซึ่งได้สั่งให้กรมอุตสาหกรรมรับผิดชอบต่อประเด็นนี้ด้วย ต้องนำความจริงมาตอบสังคมให้ได้ มันเป็นจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งต้องลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสารตกค้าง ดูคุณภาพอากาศว่ามีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่ รวมถึงน้ำมีการรั่วไหลลงพื้นที่คลองที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือไม่”

ส่วนเหตุการณ์นี้ดูมีพิรุธเกิดขึ้นหรือไม่ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า มีแน่นอน แต่ขอให้ทางตำรวจเป็นผู้สรุปเรื่องของคดี แต่ในส่วนของตัวเองจะดูแลเรื่องของการกำจัดกากสารเคมีที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ว่าจากนี้ไปการกำจัดกากที่เหลืออยู่จะทำอย่างไร 

ส่วนความคืบหน้าในการกำจัดกากสารเคมีในอำเภอภาชีได้รับงบกลางที่ ครม.เพิ่งอนุมัติไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 45 วันเนื่องจากอยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง

‘พัชรวาท’ ส่ง คพ.ตรวจคุณภาพอากาศเหตุเพลิงไหม้โกดังสารเคมีระยอง ยังไม่พบอันตราย

วันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุเพลิงไหม้โกดังสารเคมีจังหวัดระยอง ว่า สถานการณ์ล่าสุดไฟดับแล้ว และได้ให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศตั้งแต่ระยะ 300 เมตร ถึงประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีผลกระทบต่อประชาชน

ส่วนจะมีการตรวจสอบสาเหตุเนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติหรือไม่นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ให้กรม คพ.ไปร่วมตรวจสอบ ซึ่งยังไม่มีการรายงานอะไรเข้ามาถึงความผิดสังเกต 

เมื่อถามถึงกรณีสารแอมโมเนียรั่วจากโรงงานน้ำแข็งที่ชลบุรีและควันสีเหลืองฟุ้งกระจายบริเวณ อ.ภาชี อยุธยา พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ก็ยังไม่มีการรายงานอะไรเข้ามา แต่ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ คพ.ตรวจสอบ หากมีอะไรผิดปกติก็จะต้องรายงานเข้ามา

ส่วนการตรวจสอบโรงงานต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า สั่งการ คพ. เข้าไปตรวจสอบว่ามีสารอันตรายหรือไม่อันตราย แต่ยอมรับว่าโรงงานมีจำนวนมาก แต่เรื่องการดูแลประชาชน คพ.ได้มีการแจ้งเตือนอยู่แล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์