








ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เรียกประชุมด่วน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ อ.แม่สาย โดยมีรายงานสถานการณ์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ว่า หมู่บ้านปิยะพร บ้านเกาะทราย ในเขตเทศบาลตำบลแม่สาย มวลน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง ทำให้รถใหญ่ที่จะไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ ไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว
โดยคาดว่ามวลน้ำจะไหลเข้าพื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม และ ต.เกาะช้าง ในช่วงเช้า และคาดว่าจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และ ต.โป่งงาม ซึ่งได้เร่งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
ประชาชนส่วนหนึ่ง ที่ได้รับความช่วยเหลือออกจากพื้นที่ประสบภัยโดยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ได้เข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ เทศบาลตำบลแม่สาย 34 ราย และที่ศูนย์พักพิงฯ วัดพรหมวิหาร 37 ราย รวมทั้งหมด 71 ราย
(ข้อมูล ในวันที่ 11 ก.ย. 2567 เวลา 01.00 น.)
สำหรับสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังติดในพื้นที่ คือ "เรือยาง" ซึ่งมีความเบา ท้องเรือสามารถรับมือกับมวลน้ำที่ไหลแรงได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เรือท้องแบน ซึ่งหน่วยงานและอาสาสมัครอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมเรือยางจากภาคส่วนต่างๆ เข้าให้ความช่วยเหลือให้ได้มากที่สุดต่อไป
เพจ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย รายงานอีกว่า อำเภอแม่จัน เกิดฝนตกหนัก ทำให้ในพื้นที่ บริเวณลุ่มน้ำจัน,น้ำคำ มีปริมาณน้ำมาก ส่งผลกระทบกับหมู่บ้านชุมชนบริเวณริมแม่น้ำเริ่มขยายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้เกิดน้ำหลาก น้ำท่วมขัง
ขณะนี้ปริมาณน้ำยังคงมีปริมาณมากและคาดว่าจะเกิดน้ำหลากและท่วมขังเป็นวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ อำเภอแม่จัน ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่สองที่ จ.เชียงราย ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา ที่เพิ่งลดระดับลงไปก่อนหน้านี้ กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำเกินจุดวิกฤตเอ่อล้นเข้าท่วม ริมสองฝั่งลำน้ำ ตั้งแต่บริเวณบ้านหัวฝาย ลงมาถึงตลาดสายลมจอย ย่านเศรษฐกิจหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ร้านค้าต้องหยุดจำหน่ายสินค้าและเก็บสินค้าไว้บนที่สูง
นอกจากนี้ น้ำยังล้นแนวกั้นซึ่งทางเทศบาล ต.แม่สาย ได้ทำไว้บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1โดยน้ำเอ่อเข้าท่วมชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ต.แม่สาย อาทิ ชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขนและชุมชนเมืองแดง ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องระดมเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำในจุดสำคัญ เร่งระบายน้ำออก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน
ขณะเดียวกัน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามลำน้ำสายก็ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมตามริมฝั่งและตลาดท่าล่อเป็นรอบที่ 5-6 ของปีนี้แล้ว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต้องพากันขนย้ายสินค้าและข้าวของหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่นอย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ของแม่น้ำสาย ซึ่งมีต้นน้ำจากเมืองในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ยังคงมีน้ำไหลแรงเชี่ยวกราก เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน คาดการณ์ว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกแม้จะเป็นรอบที่ 7 แล้วของพื้นที่ดังกล่าว และน้ำท่วมครั้งนี้มีปริมาณน้ำมากที่สุดในรอบปี หรืออาจจะหนักสุดในรอบหลายปี โดยจะท่วมนานและกินพื้นที่เป็นวงกว้างด้วย
ปภ.เชียงใหม่ รายงานเหตุดินสไลด์ที่ อ.แม่อาย ล่าสุดเสียชีวิต 2 ราย สูญหายอีก 4 ราย
ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ กลางดึกวันที่ 10 ก.ย.2567 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์สาธารณภัยดินสไลด์ในพื้นที่อำเภอแม่อายทั้ง 2 จุด ว่ามีผู้ประสบภัยจำนวน 7 ราย เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย และอีกสูญหาย 4 ราย
โดย จุดที่ 1 บริเวณบ้านดอยแหลม หมู่ที่ 13 ตำบลดอยแหลม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดเหตุดินสไลด์บริเวณถนนหมายเลข 1314 กิโลเมตรที่ 17 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สูญหาย 4 ราย ส่วนจุดที่ 2 เส้นทางไปบ้านหล่ายอายบริเวณอ่างเก็บน้ำ หมู่ที่ 3 ตำบลดอยแหลม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย
เบื้องต้น ฝ่ายปกครองอำเภอแม่อายร่วมกับกองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก หมวดการทางฝาง หน่วยพิทักษ์ฯ ดป.4 โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม 1 (น้ำยอน) เทศบาลตำบลแม่อาย องค์การบริหารส่วนตำบลดอยลาง ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่อาย และชาวบ้านในพื้นที่ อยู่ระหว่างดำเนินการเร่งค้นหาผู้ประสบภัยเพิ่มเติม
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ขณะนี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเกิดไฟฟ้าขัดข้อง และเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ทำให้ยากต่อการติดต่อสื่อสาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ณ อบต.ดอยลาง และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอแม่อาย ณ กองร้อยอาสา รักษาดินแดนอำเภอแม่อาย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานการปฏิบัติงานในการเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบเหตุในพื้นที่ พร้อมกับแจ้งเตือนทุกอำเภอเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับการร้องขอ
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ภาคเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน