



ความคืบหน้าเหตุชาวเวียดนาม 6 ราย เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา อยู่ภายในห้องพักของโรงแรมดังย่านราชประสงค์ ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง และญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงได้ตรวจสอบหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ เป็นกระเป๋าเดินทางของผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ใบ กระเป๋าเป้ 1 ใบ ของใช้ส่วนตัว และหลักฐานอื่นๆ
ล่าสุด วันนี้ (17 ก.ค.) เวลา 09.40 น. ที่ สน.ลุมพินี ‘พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์’ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ‘ผู้การจ๋อ’ ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี
‘พล.ต.ต.ธีรเดช’ เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ได้เรียกลูกสาวของ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ รวมถึงเรียกสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนให้การเป็นประโยชน์ เชื่อว่ามูลเหตุน่าจะมาจากปัญหาหนี้สินไม่มีประเด็นอื่น และมีแนวโน้มว่าอาจเป็นมาจากฆ่าล้างหนี้ แต่ยังต้องขอประชุมและให้ทางเจ้าหน้าที่รวบร่วมหลักฐานเพิ่มเติ่มก่อน
ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นนอกเหนือจาก 6 คนที่เสียชีวิต เพราะจากการตรวจสอบการเข้าออกห้องนี้ พบว่ามีแค่กลุ่มผู้เสียชีวิตเท่านั้น
ส่วนเรื่องสารพิษที่ทำให้เสียชีวิต ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นสารชนิดใด ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบก่อน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตมีหมายจับสากลติดตัว ยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้
ย้ำว่าสาเหตุการเสียชีวิต ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้ จึงต้องทำอย่างรอบคอบ
ด้าน ‘พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่เดินทางมาร่วมประชุมติดตามคดีเช่นกัน เปิดเผยว่า ตำรวจได้ส่งกระติกเก็บความร้อนอะลูมิเนียม ที่คาดว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตนำมาเอง เพราะไม่ใช่ของโรงแรมและพบว่ามีของเหลว ที่คาดว่าเป็นกาแฟอเมริกาโน่อยู่ภายใน รงมถึงแก้วกาแฟ และอาหารที่เปิดแล้วไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเที่ยงวันนี้
แต่เบื้องต้น การตรวจวัตถุพยานของเหลวในกระติก 1 กระติก พบว่ามีสารพิษชนิดหนึ่ง แต่ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนแล้วจะชี้แจงให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่า สารที่พบในแก้วมีลักษณะคล้ายกับไซยาไนด์ แต่มีฤทธิ์ที่แรงกว่า ทำให้เสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน
รายงานข่าว ยังระบุถึงประเด็นที่ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้เรื่องบุคคลที่ 7 ที่หายไป สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบหาเบาะแสบุคคลที่ 7 พบแล้ว คาดว่าเป็นน้องสาวของ 1 ใน 6 คนที่เสียชีวิต ซึ่งบุคคลนี้ได้บินกลับประเทศไปตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต และการเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นผู้กระทำให้คนวางยาทั้งหมด ก่อนจะเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย
ขณะที่บรรยากาศที่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ พบว่ามีการเปิดให้บริการตามปกติ