รัฐสภา (28 ตุลาคม 2567) เอมอร ศรีกงพาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การศาสนา คุณธรรมจริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กรณีพระเมธีวชิโรดม หรือ พระ ว.วชิรเมธี ถูกวิพากษ์วิจารณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป และไร่เชิญตะวัน ว่า ในที่ประชุม กมธ.มีการพูดคุยกันบ้าง เนื่องจากเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีความห่วงใยในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชน
เบื้องต้นได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมารวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดทางพระธรรมวินัย และข้อกฎหมายอย่างไรบ้าง ก่อนเสนอให้ คณะกรรมาธิการชุดใหญ่ พิจารณา เสนอไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณา
“ยืนยันว่า ตอนนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า การกระทำดังกล่าวของ พระ ว. วชิรเมธี มีความผิดหรือไม่
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการชุดใหญ่ก็จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดควบคู่ไปกับการทำงานของคณะอนุกรรมธิการ และหน่วยงานด้านฝ่ายกฎหมาย”
ด้าน สิปป์บวร แก้วงาม ที่ปรึกษา กมธ. กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่พี่น้องให้ความสนใจ โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชน ซึ่งทาง กมธ.ฯได้ให้ความสนใจ เนื่องจากมีหลายเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ขณะนี้เท่าที่ทราบข้อมูลฝ่ายที่เกี่ยวข้องคือคณะผู้ปกครองสงฆ์ ได้ดำเนินการในระดับหนึ่งในการพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความเป็นเหตุเป็นผลทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับพระธรรมวินัยสงฆ์ ส่วนฝ่ายบ้านเมืองหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง
“ทั้งนี้ ในส่วนของ กมธ.ฯ ขณะนี้เรากำลังรวบรวมข้อมูลว่าแท้จริงแล้วเรื่องนี้เป็นอย่างไรทั้งในส่วนพระธรรมวินัยและกฎหมายอาญา”
ขณะที่ วราวุธ ตีระนันทน์ สว.ในฐานะประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ กล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้นั้นได้หารือกันนอกรอบแล้วว่า กรณีของท่าน ว.วชิรเมธี มี 3 หลัก คือ 1. เรื่องพระธรรมวินัย เราคิดว่าคณะสงฆ์ต้องพิจารณา 2. เรื่องกฎหมาย ซึ่งมีตำหน่วยและหลายงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่ จะเป็นอย่างไรเราไม่ทราบ และ 3.ด้านกมธ.ฯ เราตระหนักดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องสำคัญของพุทธศาสนา ซึ่งท่าน ว.วชิรเมธี เป็นพระเถรผู้ใหญ่องค์หนึ่งจะผิดจะถูกเราไม่สามารถรู้ได้ ซึ่งตอนนี้ประธาน กมธ.ได้มอบหมายให้ตนแสวงหาข้อเท็จจริง ก็จะมีการนัดประชุมกัน หากได้ข้อเท็จจริงก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป