สพฐ.ตั้ง คกก.สอบปม ‘สอบครูสระแก้ว’ แล้ว

13 ก.ย. 2567 - 07:42

  • ‘สิริพงศ์’ แจงปมสอบครู สพม.สระแก้ว เผย สพฐ.ตั้งกรรมการสอบฯ อย่างละเอียด ยันศธ.พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย ขออย่าด่วนตัดสินใครผิด ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

  • ลั่น ไม่มีเส้นสายหลังถูกโยงนามสกุลผู้สอบตรงผอ.โรงเรียน

siripong_13sep2024_SPACEBAR_Hero_0fc8174826.jpg

สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสอบบรรจุพนักงานราชการตำแหน่งครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา หรือ​ สพม.จังหวัดสระแก้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้เข้าสอบรายหนึ่งซึ่งมีรายชื่อลำดับที่ 1 ในการประกาศผลสอบครั้งแรก แต่กลับไม่ปรากฏในรายชื่อในบัญชีเมื่อมีการประกาศผลสอบฉบับใหม่ ทำให้ไม่ได้รับการบรรจุเป็นครูตามลำดับเดิมก่อนหน้านี้

สิริพงศ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญต่อกรณีนี้เป็นอย่างมาก โดยได้กำชับให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกป้องใคร และยึดหลักความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น เพื่อพิจารณาและตรวจสอบทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดย ศธ.ยืนยันว่า จะทำงานอย่างโปร่งใส หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดพลาดหรือมีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินการลงโทษตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ศธ.ได้กำชับให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ทำงานอย่างรอบคอบและตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้มีการละเลยรายละเอียดใดๆ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ.ได้ให้ความสำคัญในการดูแลผู้เสียหาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการเยียวยาและหาทางออกที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างเร่งด่วนที่สุด พร้อมยืนยันว่า จะไม่ทอดทิ้งผู้เสียหาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง

สิริพงศ์ กล่าวว่า ขอให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยกันตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ และอย่าด่วนสรุปว่ามีการใช้วิธีแทรกแซงหรือทุจริตใดๆ เกิดขึ้นในการประกาศรายชื่อรอบใหม่ ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับนามสกุลของผู้สอบที่ตรงกับชื่อผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัด อาจเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบครั้งนี้ เนื่องจากเป็นคนละเขตพื้นที่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งจะดำเนินการอย่างละเอียด โปร่งใส เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นสะท้อนถึงความเป็นธรรม และความชัดเจนในทุกประเด็น 

โดยสิริพงศ์​ ยังระบุอีกว่า​ จะไม่เข้าข้างคนผิด และหากมีการกระทำที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้นจริง ผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับการลงโทษตามนโยบายของกระทรวงที่เน้นความยุติธรรมและโปร่งใส และจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบและการแก้ไขปัญหานี้ และจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีความเชื่อมโยงกับเรื่องของการใช้เส้นสายหรือไม่ สิริพงศ์​ กล่าวว่า​ จากข่าวที่ปรากฏพบว่านามสกุลของผู้ที่สอบได้ กับนามสกุลของผอ.โรงเรียนบางโรงเรียน ในทางปฏิบัติไม่มีทางเกี่ยวข้อง ข่าวที่เขาแชร์กันอาจเป็นคนละเขต แต่ในความเป็นจริง ในรอบนี้ไม่ใช่รอบที่โรงเรียนเปิดรับสมัครลูกจ้างโดยตรง เป็นการดำเนินการของเขตพื้นที่การศึกษา ฉะนั้น การที่จะบอกว่า นามสกุลของผู้สอบ กับผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวเชื่อมโยง เป็นคนละประเด็น เพราะเป็นการดำเนินการของเขต ไม่ใช่เป็นการดำเนินการของโรงเรียนโดยตรง​ พร้อมยืนยันว่า จะทราบผลสอบสวนภายใน 7 วัน หลังจากที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบ​ และขออย่าด่วนตัดสิน​ รวมถึงขอเวลาในการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรม ถ้าเข้าข่ายการกระทำความผิด ยืนยันว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่เอาไว้ ไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และที่สำคัญขออย่าด่วนตัดสินใคร หรือเพราะเขาใช้นามสกุลอะไร หรือเพราะเขาเป็นใคร ตรงนั้นไม่ใช่คำตอบ อยากให้ดูความสามารถของเขา พร้อมกล่าวย้ำว่า เราตรงไปตรงมา​ ไม่มีนโยบายว่าต้องช่วยใคร​ นามสกุลอะไร​ หรือต้องเป็นบุคคลไหนฝาก​ คะแนนเป็นวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์