หลัง ‘ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ หรือ ‘ทนายตั้ม’ ออกมาพาดพิงว่า ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล’ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าและส่วยตำรวจ และต่อมาได้นำข้อมูลดังกล่าวไปยื่นให้ ‘พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว’ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.)
ล่าสุดวันนี้ (29 มี.ค.) ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีความเคลื่อนไหวจากทีมทนายความของ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ที่เดินทางมายื่นฟ้อง ‘ทนายตั้ม’ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และคดีเเพ่งโดยฟ้องเรียกค่าเสียหาย จำนวน 5,000,000 บาท
โดย ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ได้มอบอำนาจให้ ‘อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์’ เป็นผู้จัดหาทีมทนายและทำหน้าที่แถลงข่าวแทนตัวเอง ส่วนหัวหน้าทีมทนายความที่อัจฉริยะจัดหามา คือ ‘ศิริพงษ์ พงศ์พันธุ์สุข’ อดีตอัยการศาลสูงภาค 1
‘ศิริพงษ์’ มั่นใจว่าจากพยานหลักฐานที่เห็น ชัดเจนว่าเป็นหมิ่นประมาทและข้อมูลที่กล่าวหาไม่มีอะไรที่เป็นความจริง เชื่อจะไม่มีการเพลี่ยงพล้ำให้คู่กรณีแน่นอน และจากที่ได้พูดคุยกับ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร มั่นใจว่าข้อมูลที่กล่าวหาเป็นเท็จทั้งหมด
ส่วนข้อมูลที่ ‘ทนายตั้ม’ กล่าวหา แม้จะบอกว่าได้หลักฐานมาจากตำรวจ แต่กระบวนการที่ได้มาถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้รับมอบอำนาจอย่างถูกต้อง จึงถือว่าหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ ดังนั้นหากจะนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เป็นหลักฐานต่อสู้ทางคดี ต้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจรับผิดชอบออกเอกสารหลักฐานทั้งหมดใหม่ อย่างถูกต้องตามกระบวนการ
เช่นเดียวกับ ‘อัจฉริยะ’ ที่แสดงความมั่นใจว่าจะชนะคดีนี้แน่อน ยืนยัน ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ จะไม่มีการถอนฟ้องในอนาคต และการยื่นฟ้องครั้งนี้ ไม่ใช่การทำเพื่อต่อรองผลประโยชน์ใดๆ หรือฟ้องเเก้เกี้ยวอะไรแน่นอน
“ไม่มีการถอนฟ้อง ไม่มีการไกล่เกลี่ย หรือเกลียเซี้ ยะ หรือมาฟ้องเพื่อหาสาเหตุในการต่อรอง หรือหาเหตุในการโกรธแค้น ท่านยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
อัจฉริยะ กล่าว
นอกจากนี้ ‘อัจฉริยะ’ ยังบอกว่า ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ รู้สึกขอบคุณทนายตั้มที่นำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดเผย เพราะจะได้นำเรื่องนี้มาเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ซึ่ง ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ และเครือญาติที่ถูกทนายตั้มพาดพิงยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่า ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ และครอบครัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทำผิดกฎหมายแน่นอน แต่หากมีหลักฐานชัดเจนว่าทำผิดจริงก็พร้อมยอมรับ
โดยวันที่ 10 มิ.ย.67 เวลา 13.30 น. ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ และครอบครัว จะเดินทางมาเบิกความไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้ด้วยตัวเอง
‘อัจฉริยะ’ ยังอธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุผลที่ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ต้องการฟ้องหมิ่นประมาท เพราะต้องการให้เรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทนายตั้มยังสามารถนำข้อมูลมาซักค้านในชั้นศาลได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งข้อมูลทั้งหมดที่ว่ากันในชั้นศาลยังสามารถใช้เป็นหลักฐานต่อสู่เอาผิดกันในทางคดีได้ด้วย และเชื่อว่าการที่ ‘ทนายตั้ม’ ยังไม่มีการแจ้งความแม้จะมั่นใจว่าตัวเองมีข้อมูลครบถ้วน เป็นเพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดที่ชัดเจน เป็นการพูดลอยๆ
ส่วนบุคคลที่นำข้อมูลเส้นทางการเงิน และข้อมูลส่วนตัวทางทะเบียนราษฎร์ ของ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ และครอบครัว มาให้ทนายตั้ม ตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใครบ้าง โดยพบว่ามีตั้งเจ้าหน้าที่เขตและตำรวจ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมทำเป็นขบวนการ รับจ้างหาข้อมูลในทางมิชอบให้ผู้ว่าจ้าง โดยพบว่ามีการเข้าสถึงข้อมูลของ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ตั้งแต่ปี 66 -67 นอกจากนี้ ยังมี รอง ผบ.ตร. คนอื่นๆ ถูกละเมิดข้อมูลในลักษณะเดียวกัน หนึ่งในนั้นพบว่ามี ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ตอนนี้ทำหน้าที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ถูกละเมิดข้อมูลเช่นกัน
สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้ ‘อัจฉริยะ’ เปิดเผยว่า ทีมงานกำลังเตรียมส่งหนังสื่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบุคคลดังกล่าวชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันจะเอาผิดเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ด้วย ฐานละเมิดข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นโดยมิชอบ
