ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปคและในฤดูการท่องเที่ยว หน่วยงานด้านคมนาคมได้มีการบูรณาการการทำงานและรายงานผลดำเนินงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ
ทั้งนี้ หลังรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ทาง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานบูรณาการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน พร้อมกับตั้งศูนย์สั่งการร่วม (Single Command Center) เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมท่าอากาศยาน บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ความคืบหน้าการดำเนินงาน ล่าสุด รมว.คมนาคม ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า สามารถบรรเทาความแออัดบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ (ด่าน ตม.) ได้แล้ว โดยในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินคับคั่ง สามารถระบายผู้โดยสารได้ภายใน 30 นาที ผู้โดยสารใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน และใช้เวลาหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง 1 นาทีต่อคน
“การแก้ไขปัญหาข้อจำกัดเรื่องบุคลากร ณ จุดตรวจหนังสือเดินทาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ดึงเจ้าหน้าที่จากท่าอากาศยานที่นักท่องเที่ยวยังไม่มาก เข้ามาสนับสนุนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง แต่เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว ศักดิ์สยาม ได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบปัญหา และนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนเรื่องอัตรากำลังที่เพียงพอเพื่อรองรับการทำงานในระยะยาวต่อไป” ไตรศุลี กล่าว
ส่วนปัญหาที่ยังพบอยู่ขณะนี้ คือผู้โดยสารยังใช้เวลานานสำหรับการรอรับกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องจากช่วงโควิด-19 ที่บริษัทผู้ให้บริการได้ลดกำลังคนลง และขณะนี้ยังเพิ่มกลับเข้ามาไม่เพียงพอ โดย รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือในสัปดาห์หน้า เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้ภาพรวมการให้บริการทุกจุดภายในท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่ง สามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ทั้งนี้ หลังรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ทาง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานบูรณาการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน พร้อมกับตั้งศูนย์สั่งการร่วม (Single Command Center) เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมท่าอากาศยาน บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ความคืบหน้าการดำเนินงาน ล่าสุด รมว.คมนาคม ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า สามารถบรรเทาความแออัดบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ (ด่าน ตม.) ได้แล้ว โดยในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินคับคั่ง สามารถระบายผู้โดยสารได้ภายใน 30 นาที ผู้โดยสารใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน และใช้เวลาหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง 1 นาทีต่อคน
“การแก้ไขปัญหาข้อจำกัดเรื่องบุคลากร ณ จุดตรวจหนังสือเดินทาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ดึงเจ้าหน้าที่จากท่าอากาศยานที่นักท่องเที่ยวยังไม่มาก เข้ามาสนับสนุนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง แต่เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว ศักดิ์สยาม ได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบปัญหา และนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนเรื่องอัตรากำลังที่เพียงพอเพื่อรองรับการทำงานในระยะยาวต่อไป” ไตรศุลี กล่าว
ส่วนปัญหาที่ยังพบอยู่ขณะนี้ คือผู้โดยสารยังใช้เวลานานสำหรับการรอรับกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องจากช่วงโควิด-19 ที่บริษัทผู้ให้บริการได้ลดกำลังคนลง และขณะนี้ยังเพิ่มกลับเข้ามาไม่เพียงพอ โดย รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือในสัปดาห์หน้า เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้ภาพรวมการให้บริการทุกจุดภายในท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่ง สามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป