ตั้งแต่เข้าเดือนเมษายน ประเทศไทยเจอกับอุณหภูมิสุดพีคสมชื่อฤดูร้อนกันไปแล้ว หลายพื้นที่อุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส มาดูกันว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาวนี้ที่หลายคนเดินทางไปต่างจังหวัด หรือมีแผนไปเยี่ยมครอบครัว ไหว้พระ ทำบุญ หรือเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆทั่วไทย อากาศจะเป็นอย่างไรบ้าง
ความร้อนค่อยๆพุ่งทะยานถึงช่วงปลายเทศกาล
นายสุรพงษ์ สารปะ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้อาจไม่ร้อนเท่าช่วงวันที่ 7 – 9 เมษายนที่ผ่านมา แต่อากาศจะกลับมาร้อนเท่าช่วงนั้นได้หลังจากผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว ประมาณปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ช่วงต้นของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ยังได้อานิสงส์จากพายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ช่วงวันที่ 9-11 เมษายน เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เข้ามาผ่านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ขณะที่ภาคเหนือก็ได้รับอิทธิพลจากกระแสลมตะวันตก (ลมระดับบน) เข้ามาทำให้มีฝนตกในบางพื้นที่ แต่ฝนที่ตกนั้นปริมาณไม่มาก และพื้นที่ไม่กว้าง สำหรับพื้นที่ที่อากาศร้อนที่สุดยังคงเป็นภาคเหนือ
ส่งผลให้วันที่ 12-13 เมษายน มีบางพื้นที่อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 40 องศาเซลเซียส และไม่กินพื้นที่มาก
ส่วนวันที่ 13-14 เมษายน อาจมีฝนเล็กน้อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากกระแสลมตะวันตกที่พัดเข้ามาจากทางภาคเหนือและมวลอากาศเย็นอ่อนกำลังลง ส่วนพื้นที่ไหนไม่มีฝนอากาศก็ร้อนอบอ้าวเหมือนเดิม
ขณะที่วันที่ 14-15 เมษายน อุณหภูมิสูงสุดจะกลับมาสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 41-42 องศาเซลเซียส
และหลังวันที่ 16 เมษายน อุณหภูมิสูงสุดจะพุ่งสูงไปถึง 42-43 องศาเซลเซียสได้ในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดตาก ลำพูน ลำปาง และภาคกลางอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 42 องศาเซลเซียส โดยก่อนหน้านี้หากพื้นที่ไหนที่อุณหภูมิสูงสุดยังไม่แตะ 40 องศาเซลเซียสก็อาจจะสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสได้ในหลายพื้นที่
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศจะร้อนช้ากว่าภาคเหนือประมาณหนึ่งวันและอุณหภูมิสูงสุดอาจต่ำกว่าภาคเหนือเล็กน้อยรวมไปถึงภาคตะวันออก เนื่องจากภูมิประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากลมทะเลเข้ามาปกคลุม ทำให้อาจมีฝนตกเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขา โดยอุณหภูมิสูงสุดของทั้งสองภาคนี้ ประมาณ 41 องศาเซลเซียส
ส่วนภาคใต้แม้จะได้รับลมทะเล แต่ระยะหลังมานี้ฝนตกน้อยประกอบกับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้อุณหภูมิสูงสุดแตะ 40 องศาเซลเซียสได้
ช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่น่าจะไม่มีปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนตกโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง ทำให้อากาศจะร้อนจัดต่อเนื่องประมาณ 10 วัน
โดยคาดว่าประมาณวันที่ 26-27 เมษายน ดวงอาทิตย์จะอยู่ในแนวตั้งฉากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นจะเป็นภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ซึ่งจะทำให้ความเข้มของแสงมากขึ้น จึงเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้อากาศร้อนมากยิ่งขึ้น
ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญ IPCC และประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า “เข้าสัปดาห์แรกของเดือนเมษายนว่าร้อนสุดสุด (2 สุด) ช่วงวันสงกรานต์ร้อนต่อ แม้ว่าบางจังหวัดจะได้รับความชุ่มฉ่ำจากพายุฤดูร้อน แต่หลังสงกรานต์จะร้อนยิ่งขึ้นอีกแบบสุดสุดสุด (3 สุด) จนถึงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม (ดูในรูปแนบ) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะร้อนทุกพื้นที่ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ก็เช่นกันร้อนหลายจังหวัดครับ ไม่ได้หมายความว่าภาคเหนือจะไม่ร้อนน่ะครับ เพราะเฉดสีต่างๆแสดงอุณหภูมิที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากอดีต (ประมาณ 20 ปี) ถ้าอดีตจังหวัดใดมีอุณหภูมิสูงอยู่แล้ว ก็จะสูงขึ้นไปตามเฉดสี ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าจังหวัดใดจะร้อนที่สุด เอาเป็นว่าร้อนทุกหย่อมหญ้าก็แล้วกันน่ะครับ”