เล็งย้าย ‘อาชีวะคู่ขัดแย้ง’ ออกนอกเมือง ลดปัญหา ‘ตีกัน’

30 มกราคม 2567 - 07:59

Srettha-reveals-idea-aiming-to-move-conflicting-vocational-college-out-of-the-city-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘เศรษฐา’ เผยไอเดียเล็งย้ายอาชีวะคู่ขัดแย้ง ออกนอกเมืองลดปัญหา ‘ตีกัน’

  • สั่ง ‘อว.-ตร.’ เข้มงวดมาตรการความปลอดภัย

กรณีนักศึกษาอาชีวศึกษาต่างสถาบัน เปิดศึกถล่มกัน สร้างความเหนื่อยหน่ายให้สังคมมาช้านาน และยังไม่มีวี่แววว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน ทุกฝ่ายจึงพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลให้เร่งสะสาง ล่าสุด ได้เกิดแนวคิดย้ายสถาบันอาชีวศึกษาคู่ขัดแย้งออกนอกเมือง เพื่อลดปัญหาตีกัน

โดยทาง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้หยิบยกปัญหาทางสังคมและเยาวชนมาหารือ ซึ่งที่ประชุม ครม. ได้มีการพูดคุยกัน และตนก็ได้เน้นถึงมาตรการความปลอดภัยทางสังคม เพื่อจัดการดูแลประชาชนในเชิงลึก รวมถึงได้สั่งการให้ดูในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของอาชีวศึกษาที่มีปัญหาทะเลาะกัน จึงได้มีการพิจารณาว่า ในระยะยาวอาจจะต้องมีการย้ายสถาบันออกไปนอกเมือง เพื่อดูว่าสถาบันที่มีความขัดแย้งอยู่ไกลห่างกันยังมีเกิดปัญหาขัดแข้งกันหรือไม่

ได้สั่งให้ อว.และสำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน และให้แต่ละโรงเรียนมีมาตรการอย่างรัดกุมร่วมกับผู้ปกครอง

เศรษฐา ทวีสิน

สั่ง ‘อธิการบดีอุเทนถวาย’ ห้ามรับเด็กปี 1 ปีการศึกษา 67 เหตุต้องเร่งย้ายสถานที่เรียนไปวิทยาเขตอื่น ตามคำสั่งศาลปกครอง รับแผนล่าช้า แต่กำชับให้ทำเร็วที่สุดแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้

ส่วนกรณีเหตุปะทะกันของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จนทำให้โรงเรียนรอบข้างต้องสั่งหยุดการเรียนการสอน และนำมาซึ่งการตั้งคำถามถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยนักเรียนและนักศึกษานั้น

ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยย้ำว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และมีการพูดคุยกับ อว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด ซึ่งทาง ‘อุเทนถวาย’ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ต้องย้ายไปวิทยาเขตอื่น เพื่อลดความรุนแรงในการปะทะกัน และทางตำรวจก็จะเป็นเจ้าภาพในการนัดคุยกับทุกหน่วยงาน

เมื่อถามว่า ศิษย์เก่าได้มีการพูดคุยกับทางกระทรวง อว.หรือไม่ ศุภมาส กล่าวว่า มีการพูดคุยกันตลอด ศิษย์เก่าก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ออกมา เพียงแต่คิดว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนผ่านย้ายโรงเรียน ไม่สามารถทำเพียงช่วงข้ามคืนได้ แต่ยอมรับว่า แผนตอนนี้อาจจะล่าช้า ต้องไปเร่งให้ทำเร็วขึ้น เพราะนักศึกษาไม่ได้มีเยอะ ไม่ได้ยากมากที่จะเร่งแผนในการย้ายได้

เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทุกคนต้องตระหนักว่า เป็นเรื่องที่จะลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการรับเด็กใหม่ มีการรับน้องก็อาจจะทำให้มีปัญหาขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้น ทุกคนยินดีที่จะให้ความร่วมมือ และทางตำรวจก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ในการป้องกันเหตุ ทางสถาบัน และทุกคนก็มีความเป็นห่วงชีวิตนักเรียน จึงเชื่อว่า อะไรที่ติดขัด ทุกคนก็จะช่วยกันแก้ออก และการใช้ความรุนแรงไม่ได้เกิดประโยชน์ ต้องใช้ความนุ่มนวลไม่ให้เกิดการปะทะกัน

ส่วนที่กรณีศิษย์เก่ามีการปลุกระดมไม่ให้มีการย้ายสถานที่เรียนนั้น ศุภมาส ระบุว่า เป็นเพียงข่าว แต่ศิษย์เก่าที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกอย่างต้องมีช่วงเวลาขนย้ายและเปลี่ยนผ่าน เตรียมตัวไปที่ใหม่ และสถานที่ใหม่ก็ต้องมีมาตรการรองรับในเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะวันสถาปนาสถาบันอุเทนถวาย ต้องดูแลเป็นพิเศษ

สำหรับกรอบเวลาในการย้ายอุเทนถวาย ก็ต้องทำให้เร็วที่สุด และขณะนี้ ได้มีคำสั่งไปยังอธิการบดีอุเทนถวาย ขอให้งดรับเด็กปี 1 ในปีการศึกษา 2567 เพื่อลดปริมาณนักศึกษา มิเช่นนั้น จะแก้ปัญหาไม่ได้ โดยได้มีการแจ้งทางอธิการบดีไปแล้วว่า ให้งดรับนักศึกษาปี 1 ในปีนี้ รวมทั้งต้องมาพิจารณาดูกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณที่ส่งไปถึงอุเทนถวาย ว่าถูกระเบียบหรือไม่ ถ้ามีคำสั่งศาลออกมาแบบนี้แล้ว

ศุภมาส อิศรภักดี

ส่วนประเด็นนี้ถือเป็นข้อเสนอของทาง อว.ใช่หรือไม่ ที่ให้งดรับนักศึกษาปี 1 ศุภมาส ระบุว่า “ถือเป็นคำสั่งของรัฐมนตรีที่แจ้งไปถึงอธิการบดีแล้ว ซึ่งรอดูอยู่ว่า อธิการบดีจะปฏิบัติตามคำสั่งหรือไม่” อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเรื่องนี้และให้คณะกรรมการทุกคนจัดการเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดการสูญเสียอีก โดยดำเนินการให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากไม่มีการรับนักศึกษาปีหนึ่งใหม่ ก็จะทำให้การย้ายสถานศึกษาไปวิทยาเขตอื่นง่ายขึ้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์