ประเด็นเด็กไทยหลุดระบบการศึกษาเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้รูปแบบการเรียนการสอนเปลี่ยนไปด้วยการเรียนออนไลน์ เป็นเหตุให้เด็กหลายแสนคนต้องหลุดจากระบบการศึกษา เนื่องจากขาดทุนทรัพทย์เรื่องการเรียน และความพร้อมของผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาและมีความรู้ไม่เพียงพอที่จะมาสอนชดเชยในส่วนที่หายไปจากการเรียนรู้ที่โรงเรียน
ยังไม่นับรวมปัญทางสังคมอื่นๆ ที่ทำให้เด็กต้องหลุดจากการศึกษา เช่น ปัญหาท้องในวัยเรียน และปัญหาความยากจน
โดยข้อมูลล่าสุดจาก กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) พบว่าในปี 2566 มีเด็กหลุดระบบการศึกษาหรือต้องออกเรียนกลางคัน ประมาณ 1,025,514 คน
ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค.) ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงความวิกฤตเกี่ยวกับการศึกษาไทย โดยระบุว่า ใจความว่า ขณะนี้ถือเป็นเรื่องวิกฤต ที่มีเด็กไทยหลุดระบบการศึกาษาทะลุ 1 ล้านคน และเป็นวิกฤติที่ซ้อนทับกับจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงเช่นกัน แต่ผู้นำยังละเลย โดยมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบหลายด้านดังนี้
- ที่นั่งในมหาวิทยาลัย จะยิ่งว่างมากขึ้น เพราะเราส่งเด็กไทยไปไม่ถึงชั้นมหาวิทยาลัย ถือเป็น ความสูญเสียทั้งเสียโอกาสในการเสริมศักยภาพ คนรุ่นใหม่ และ เสียโอกาส การลงทุน ที่รัฐทุ่มไปกับการพัฒนามหาวิทยาลัยทุกปีๆ แต่มีเด็กเรียนน้อยลง ขณะที่เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มุ่งเป้าส่งเด็ก เรียนไปถึงมหาวิทยาลัย ได้เกือบ 100%
- แรงงานทักษะต่ำเพิ่ม แรงงานทักษะสูงลด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ยิ่งกว่าสึนามิเพราะโลกยุคดิสรัปชั่น ไม่ได้แข่งที่ทำของถูกไม่ได้แข่งกันที่ภาคการผลิตของพื้นๆง่ายๆ เท่านั้น แต่แข่งกันที่สินค้ามูลค่าสูงที่ต้องใช้แรงงานทักษะระดับปัญญา มาเอาชนะกัน ทุกวันนี้ ประเทศไทยตกหลุมลึกเรื่องการยกระดับทักษะพลเมือง การทำ Upskill และ Reskill เป็นเพียงวาทกรรมให้มาผลาญงบประมาณ หากผู้นำไม่ลงไปกำกับจริงจัง อาจทำให้อนาคตไทย หมดสภาพการแข่งขันน่าห่วงที่สุด
- ปัญหาสังคมทุกเรื่อง กำลังตามมา เด็กไทย อยู่ในวัยเยาว์จนถึงวัยรุ่น ออกจากโรงเรียนก่อนเวลา ขาดการดูแล ทำให้สังคมไทยต้องเผชิญปัญหา แม่วัยใส , เด็กติดยาเสพติด , เด็กติดการพนัน และ สุขภาพทรุดโทรม เร็วกว่าคนที่มีความรู้มากกว่า ปัญหาสังคมจากพลเมืองไม่มีความรู้ หรือเรียนน้อยจะเป็นปัญหาที่รัฐต้องมาตามแก้ไม่รู้จบอันตรายมาก
ดร.สุชัชวีร์ ยังมองว่า สาเหตุการ ออกจากโรงเรียนมีหลายสาเหตุ ที่ต้องมาคิดวิเคราะห์ ด้วยข้อมูลรอบด้านแม้ว่าสาเหตุใหญ่อาจจะมาจาก "ความยากจน" แต่ก็มีอีกหลายปัจจัย รุมเร้า เร่งให้ผู้ปกครองยอมแพ้ไม่สู้ ไม่ส่งลูกเรียนต่อ
พร้อมมองว่า ผู้นำ ต้องทำจริงจังเรื่องการพัฒนาคนให้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด อย่าเพิกเฉยปล่อยปัญหาให้หนักหนา ไม่เช่นนั้น ไม่นาน ไทยเราอาจซบเซา สู้เขาไม่ได้ น่าเสียดาย