เช้าวันนี้ (1 เม.ย.) ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเครือข่ายพรีมูฟ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พร.) ในเวลา 10.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยบอกกับสื่อมวลชนว่าจะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในช่วงเช้าก่อนเริ่มการประชุม
แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่เดินทางมา ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถาม โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แจ้งว่าเลื่อนประชุมไปเป็นเวลา 15.30 น. ของวันนี้ เนื่องจากติดประชุมข้างนอก แต่ไม่บอกว่าเป็นที่ไหน
สำหรับการออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในข้อหาสมคบและร่วมกันฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ หลังพบมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนัน BNK MASTER ครั้งนี้ ถือเป็นหมายเรียกครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 17 มี.ค. และให้ไปรายงานตัวภายในวันที่ 21 มี.ค. , ครั้งที่ 2 ออกหมายเรียกวันที่ 22 มี.ค. และให้ไปรายงานตัวภายในวันที่ 26 มี.ค. และครั้งที่ 3 ออกหมายเรียกวันที่ 27 มี.ค. และมีกำหนดให้ให้ไปรายงานตัวต่อกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ภายในวันที่ 1 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ หากครบกำหนดนัดหมายแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่มารายงานตัว จนเลยเวลาราชการการ หรือเลย 16.30 น. คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดีจะประชุมพิจารณาเรื่องการขอศาลออกหมายจับอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้านี้ได้แจ้งไว้ในหมายเรียกครั้งที่ 3 ว่าการออกหมายเรียกครั้งสุดท้ายแล้ว
เมื่อย้อนไปดูสาเหตุที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้เดินทางไปรายงานตัวตามหมายเรียกในครั้งที่ผ่านๆ มา ปรากฎว่า ในการออกหมายเรียกครั้งแรก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่าคดีดังกล่าวได้ถูกส่งไปที่ ป.ป.ช. แล้ว จึงไม่ต้องไปรายงานตัว โดยเป็นการพูดระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันกับ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล’ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกเด้งให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
และในการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ลาพักร้อนยาว ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. โดยจะกลับมาเริ่มงานในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ครบกำหนดให้ไปรายงานตัวตามหมายเรียกครั้งที่ 3 จึงน่าสนใจว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกหรือไม่ และสุดท้ายจะมีการออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่
ขณะที่วันนี้ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินสายยื่นหนังสือคัดค้านการออกหมายจับ โดยให้เหตุผลว่าคดีนี้อยู่ในมือ ป.ป.ช. แล้ว พนักงานสอบสวนไม่มีสิทธิ์ทำคดีต่อ แต่ตำรวจที่เป็นชุดทำคดีพยายามชี้ให้เห็นว่าคดีนี้เป็นอำนาจของตำรวจโดยตรง เนื่องจากข้อกล่าวหาที่ตำรวจแจ้งเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ใช่การทำความผิดในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หมายความว่า ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจรับผิดชอบคดีนี้
