surachate-hakparn-warn-police-to-be-careful-of-going-to-jail-SPACEBAR-Photo00.jpg

Photo Story: เตือนระวังติดคุก! ฟาดตำรวจ ‘อีแอบ’ อย่าใช้วิธีสกปรก

22 กุมภาพันธ์ 2567 - 07:52

  • ‘บิ๊กโจ๊ก’เดือด! ฟาดตำรวจ ‘อีแอบ’ อย่าใช้วิธีสกปรก

  • ยันบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ เตือนไม่มีอำนาจทำคดีระวังติดคุก

  • แฉตำรวจถือบัญชีม้าอื้อ ปัดใช้เส้นใน ‘ป.ป.ช.-จันทร์ส่องหล้า’ ช่วยเหลือ ยันเป็นนักสู้ไม่เคยร้องขอใคร

surachate-hakparn-warn-police-to-be-careful-of-going-to-jail-SPACEBAR-Photo00.jpg

หลังมีการนำเสนอข่าวว่า ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูก ‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ แจ้งข้อหาในฐานความผิดตามมาตรา 157 และ 149 ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และการเรียกรับผลประโยชน์ ปมเอี่ยวเว็บพนัน 

ล่าสุดวันนี้ (22 ก.พ.) ที่สโมสรตำรวจ วิภาวดี ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวชี้แจงต่อประเด็นที่ถูกพาดพิงอย่างดุเดือด และตอบคำถามนักข่าวในทุกประเด็น โดยใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 2 ชั่วโมง และมีใจความสำคัญ 4 ประเด็น

surachate-hakparn-warn-police-to-be-careful-of-going-to-jail-SPACEBAR-Photo01.jpg

ประเด็นที่ 1 บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ชี้แจงว่าตัวเองยังไม่ถูกเเจ้งข้อหาอย่างที่มีการนำเสนอข่าว เนื่องจากสำนวนยังอยู่ในความดูแลของ ป.ป.ช. ย้ำว่าตัวเองบริสุทธิ์ และไม่มีเส้นเงินจากเว็บพนันสักเส้นที่เชื่อมโยงกับตัวเอง ส่วนการที่ลูกน้องของตัวเองมีบัญชีม้าและถูกแจ้งข้อหาไปแล้วนั้น หากผิดจริงต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน 

แต่การที่ลูกน้องมีบัญชีม้าและมีการนำเงินไปใช้จ่ายเรื่องส่วนตัวให้นั้น ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ชี้แจงว่าเขาเพียงฝากให้ลูกน้องจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้เท่านั้น ไม่ได้รู้ว่าเงินที่นำมาใช้เป็นเงินจากบัญชีม้า อีกทั้งการมีบัญชีม้า ไม่ได้หมายความว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันเสมอไป เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน 

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าจริงๆ แล้ว มีตำรวจจำนวนมากที่มีบัญชีม้าในมือ เหตุใดผู้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ถึงไม่ไปขยายผลเอาผิดด้วย

surachate-hakparn-warn-police-to-be-careful-of-going-to-jail-SPACEBAR-Photo02.jpg

ประเด็นที่ 2 ทำคดีทั้งที่ไม่มีอำนาจระวังติดคุก!

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ พยายามชี้ให้เห็นว่าการที่ ‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเมื่อวานนี้(22 ก.พ.) ในทำนองว่า ต้องการขอสำนวนคดีที่ลูกน้องเขาถูกโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันของมินนี่ ที่ตอนนี้อยู่ในกระบวนการของ ป.ป.ช. มาทำเอง มองว่าเป็นการกระทำที่ ‘เหิมเกริม’ และเหมือนเป็นการไม่เชื่อมั่นในระบบของ ป.ป.ช. ทั้งที่ ระบบของ ป.ป.ช. เป็นระบบไต่สวนตามพยานหลักฐาน ต่างจากตำรวจที่เป็นระบบกล่าวหา อีกทั้งการทำแบบนี้ยังเหมือนเป็นการลากเอา ‘องค์กรตำรวจ’ ไปเป็นคู่ขัดแย้งกับ ‘ป.ป.ช.’ ด้วย พร้อมย้อนถามว่า ‘ยศอะไร’ ไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร

อีกทั้งการที่ตำรวจสอบสวนกลางบอกว่า พบเงินหมุนเวียนเกี่ยวกับคดีนี้มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายแล้ว คดีที่มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 300 ล้านบาท ต้องถูกโอนไปให้อยู่ในความดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่ใช่ของตำรวจ และในอดีตเคยมีกรณีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าตำรวจที่ทำสำนวนในคดีที่ไม่มีอำนาจจุดจบคือการรับโทษด้วยการติดคุก

surachate-hakparn-warn-police-to-be-careful-of-going-to-jail-SPACEBAR-Photo03.jpg

ประเด็นที่ 3 เตือนตำรวจ ‘อีแอบ’ อย่าใช้วิธีสกปรก

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยังเรียกร้องให้ ‘ตำรวจระดับสูง’ ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ออกมาให้ข้อมูลบ้าง อย่าทำตัวเป็น ‘อีแอบ’ ที่ปอดแหกหลบอยู่หลังลูกน้อง ไม่ควรให้ลูกน้องออกมาชี้แจงอย่างเดียว ควรออกมาชี้แจงอย่างแมนๆ แบบเขาบ้าง และควรใช้วิธีที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่วิธีการแบบสกปรก 

ส่วนจุดประสงค์ของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ต้องการให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ หลุดจากตำแหน่ง หรืออกจากราชการตำรวจหรือไม่นั้น ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ตอบว่าให้คิดกันเอาเอง แต่มั่นใจว่าเรื่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายชื่อเสียงและดิสเครดิตตัวเอง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการสกัดการขึ้นเป็น ‘ผบ.ตร.’ หรือไม่นั้น ขอให้ไปคิดหาคำตอบกันเองเช่นกัน ย้ำว่าพร้อมชี้แจงข้อกล่าวหาในทุกประเด็น

surachate-hakparn-warn-police-to-be-careful-of-going-to-jail-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: หลังใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการแถลงข่าว ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้พร้อมใจกันพูดว่า ‘สาธุ’ เพื่อปิดการสัมภาษณ์ ทำให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ได้ยกมือขึ้นมาไหว้ พร้อมพูดว่า ‘สาธุ’ เช่นกัน

ประเด็นที่ 4 ปัดใช้เส้นสายใน ‘ป.ป.ช.-จันทร์ส่องหล้า’ ช่วยเหลือคดี

ส่วนข้อสังเกตว่าการที่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ต้องการให้คดีนี้อยู่ในความดูแลของ ป.ป.ช. ต่อไป เพราะจะมีประโยชน์กับตัวเองมากกว่า เนื่องจากมีคนสนิทใน ป.ป.ช. คอยให้ความช่วยเหลือ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเขาเป็นนักสู้ที่ไม่เคยขอร้องความช่วยเหลือจากใคร และไม่ได้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่เห็นว่าไปปรากฎตัวที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อวานนี้ เป็นเพียงการไปตรวจดูความเรียบร้อยตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น 

ตลอดการแถลงข่าวของ  ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ นอกจากเต็มไปด้วยความดุดันและดุเดือดแล้ว ยังเต็มไปด้วยวาทะเด็ดหลายเรื่อง เช่น “ผมเป็นนักสู้ ไม่มีร้องขอใคร ไม่มีเคลียร์คดี” ,  “รุ่นตามไม่ทันกัน แต่ยศมันไม่ใช่” , “ต้องใช้วิธีการบริสุทธิ์ อย่าใช้วิธีสกปรก ขนาดผมยังโดนขนาดนี้ แล้วชาวบ้านจะเหลือเหรอ” , “เป็นนิยาย นิทาน ที่แต่งขึ้นมา ผมพร้อมชี้แจงทุกประเด็น”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์