‘บิ๊กโจ๊ก’ ยังไม่ถูกพักงาน ยันไม่ยื้อ-ไม่หนักใจ

3 เมษายน 2567 - 08:38

suracheat-not-being-suspended-from-government-service-kitrat-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘กิตติ์รัฐ’ เข้าสภาพบ ‘เศรษฐา’ แจงยังไม่สั่งพักงาน ‘บิ๊กโจ๊ก’ เหตุต้องรอผลสอบวินัยก่อน ยันไม่ยื้อ-ไม่หนักใจ

  • ตั้งเป้ากวาดบ้านให้สำเร็จ หวังดึงประชาชนกลับมาศรัทธาลั่นขอให้ดูกันต่อไป หลังฝ่ายค้านมองเหตุการณ์ 2 นายตำรวจใหญ่ ทำองค์กรเสื่อม บอกยังไม่ได้คุยกับ ‘บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก’

วันนี้ (3 เม.ย.) ที่รัฐสภา ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์’ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้เดินมารายงานความคืบหน้าการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาลให้นายกฯ ได้รับทราบ เช่น เรื่องยาเสพติด พนันออนไลน์ และการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 

รวมถึงรายงานเรื่องขั้นตอนการพิจารณาสอบวินัย ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังเข้ามอบตัวตามหมายจับเมื่อวานนี้ ย้ำว่าเรื่องของ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ต้องแบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ เรื่องคดีอาญาและเรื่องการตรวจสอบเรื่องวินัยตำรวจ 

ยืนยันว่าตอนนี้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยังคงปฏิบัติงานตามปกติ และตัวเองยังคงเป็นผู้บังคับบัญชาของ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ โดยตรงเหมือนเดิม เพียงแค่ตอนนี้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งของนายกฯ เท่านั้น

“ผมยังเป็นผู้บังคับบัญชาของรองสุรเชษฐ์ตามกฎหมาย ดังนั้นการพิจารณาในเรื่องของวินัยเป็นหน้าที่ของผม ตามมาตรา 105 ของกฎหมายตำรวจเมื่อปี 2565 ซึ่งในกระบวนการขั้นตอนจะต้องได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนของนครบาล 1 ฉบับ ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานมา และฉบับที่ 2 รองสุรเชษฐ์จะต้องรายงานผมตามระเบียบตำรวจ”

‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ อธิบายเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนการสอบวินัยว่า กองวินัยจะพิจารณาข้อมูลเกี่ยวด้านพฤติการณ์ของ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ จากคณะพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้รับผิดชอบคดีของ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ร่วมกับข้อมูลที่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ทำรายงานชี้แจง หากพบว่ามีมูลว่าเข้าข่ายผิดวินัย ตัวเองในฐานะที่เป็นรักษาการผบ.ตร. จะพิจารณาให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาตรวจสอบ 

โดยโทษทางวินัยมีทั้ง การพักราชการ ให้ออกจากราชการ หรือสำรองราชการไว้ก่อน เพราะเป็นการปฏิบัติภายใต้กฎ ก.ตร. ที่กำหนดไว้ 

ซึ่งการสืบสวนของเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงจะต้องใช้นายตำรวจที่มียศไม่ต่ำกว่าหรือเท่ากันกับ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ส่วนจะเป็นใครต้องขอไปพิจารณาก่อน แต่ย้ำว่าตอนนี้เพิ่งเริ่มกระบวนการแรกอยู่ และกระบวนการทั้งหมดต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรมกับข้าราชการทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนข้อสังเกตว่าเมื่อรัฐบาลเปลี่ยนขั้วมาเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยแล้วเกิดเหตุการณ์กับ 2 นายตำรวจใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์ของขั้วอำนาจเก่าเป็นเหมือนการกวาดล้างขั้วอำนาจเดิม เรื่องนี้ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ขอไม่ออกความเห็น และขอไม่ตอบโต้ข่าวใดๆ ที่พาดพิงถึงตัวเอง ขอทำงานเดินหน้าให้เกิดความสงบร่มเย็นกับประชาชนเท่านั้น

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่กับการทำหน้าที่บนความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ตอบว่า ไม่มีอะไรหนักใจ อยากทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ที่นำไปสู่ความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อประชาชน 

เมื่อถามว่าวันนี้ ฝ่ายค้านมีการอภิปรายพาดพิงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำประชาชนรู้สึกความความศรัทธาต่อองค์กรตำรวจ ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ตอบว่า ดูกันไปครับ และส่วนตัวมีความมุ่งมั่นที่จะปัดกวาดองค์กรตำรวจให้สะอาด เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ และ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล’ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บ้างหรือยัง ‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ’ ตอบว่า ยังไม่เจอใครเลย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์