surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo00.jpg
surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo01.jpg
surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo02.jpg
surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo03.jpg

Photo Story: ‘โจ๊ก’ เชื่อ ‘ฟ้ามีตา’ รวยมรดกพ่อตา 1 พันล้าน

26 ก.ย. 2566 - 13:12

  • ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยันไม่เกี่ยวเว็บพนัน เผยใช้เงินตัวเองหนุนทีมงานเดือนละล้าน เหตุงบตำรวจไม่พอ เผยเป็นเงินมรดกจากพ่อตา 1,000 ล้านบาท พร้อมแจงที่มาของเงิน เชื่อ ‘ฟ้ามีตา’ ความจริงจะปรากฏ

surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo00.jpg
surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo01.jpg
surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo02.jpg
surachet-not-related-to-gambling-websites-SPACEBAR-Photo03.jpg

ภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ประกันตัว 6 ตำรวจ ที่เป็นลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีพบข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา 

ล่าสุดที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ชี้แจงสื่อมวลชนถึงประเด็นต่างๆ พร้อมกับบอกว่าวันนี้ช่วงค่ำหลังจากที่ลูกน้องเขาได้รับการปล่อยตัวแล้ว เขาจะไปสอบถามข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ กับเจ้าตัวโดยตรง 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่าลูกน้องเขามีปัญหาเรื่องการเงินจริง และมีส่วนพัวพันกับเว็บพนันจริง แต่เรื่องนี้ตัวเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย  

ส่วนเรื่องบ้านที่มีทั้งหมด 5 หลัง เป็นของ ‘เฮียแต๋ม’ เศรษฐีชาวอุดร ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ตัวเองให้ความเคารพนับถือ เพราะสนิทสนมกันมานาน ตั้งแต่สมัยเป็นสารวัตร ส่วนรายละเอียดต่างๆ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่าวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) ‘เฮียแต๋ม’ จะแถลงชี้แจงประเด็นต่างๆ ด้วยตัวเองทั้งหมด แต่ส่วยตัวยืนยันได้ว่าเงินของ ‘เฮียแต๋ม’ เป็นเงินบริสุทธ์ไม่เกี่ยวกับเว็บพนันแน่นอน  

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังชี้แจงกรณีที่ให้เงินสนับสนุนลูกน้องและทีมงานระหว่างปฎิบัติงานคลี่คลายคดีต่างๆ เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท ว่า เงินทั้งหมดที่ใช้เป็นเงินส่วนตัว เป็นเงินมรดกที่ได้จากพ่อตาประมาณ 1,000 ล้านบาท ยืนยันไม่ใช่เงินจากเว็บพนัน และพร้อมชี้แจงที่มาของเงินทุกอย่าง

ส่วนเหตุผลที่เขาต้องให้เงินส่วนนี้กับทีมงาน เพราะต้องยอมรับว่างบตำรวจไม่พอต่อการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยเขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงที่กลับเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ช่วงปี 2564 และหากไม่ทำแบบนี้คิดว่าการคลี่คลายคดีต่างๆ คงไม่ราบรื่น พร้อมท้าว่าหากให้เขาหยุดทำงาน 1 ปี คงเห็นได้ชัดเชนว่ามีหลายคดีที่ปิดไม่ได้  

"มันเป็นความบ้าคลั่งของผมอย่างหนึ่ง ไม่มีใครกล้าทำอย่างผม ที่เสียสละเอาเงินส่วนตัวมาใช้ทำคดี เพราะผมอยากให้งานสำเร็จ ประชาชนคาดหวัง สุดท้ายคดีก็ออกมาดี สามารถจับคนผิดมาดำเนินคดีได้"

สำหรับวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่าเขาจะลาราชการ 1 วัน เพราะต้องการใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลในทุกประเด็น เพื่อต่อสู้กับข้อครหาต่างๆ และไม่ได้หวังอะไรกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ในพรุ่งนี้ ส่วนคุณสมบัติของ ผบ.ตร.’คนต่อไป มองว่าต้องสามารถสร้างศรัทธาให้กับประชาชน และดูแลขวัญกำลังใจตำรวจได้  

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังทิ้งท้ายว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีความกังวลอะไร เพราะเชื่อว่าฟ้ามีตา และความจริงต้องปรากฏ และเรื่องนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ที่เขาต้องปกป้องตัวเอง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์