ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงวาทกรรมทางสิ่งแวดล้อมหรือสังคมอีกต่อไป แต่เป็นดัชนีสำคัญที่ชี้วัดคุณภาพ ความรับผิดชอบ และบทบาทของมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21 ซึ่งล่าสุด การจัดอันดับ THE Impact Rankings 2025 โดย Times Higher Education (THE) สะท้อนความก้าวหน้าที่น่าจับตามองของสถาบันอุดมศึกษาไทย โดยมีมหาวิทยาลัยจากประเทศไทยมากถึง 83 แห่ง (เพิ่มขึ้นจาก 77 เเห่ง เมื่อปีที่ผ่านมา) ได้รับการจัดอันดับมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
5 มหาวิทยาลัยไทยติดอันดับ พร้อมจุดเด่นด้าน SDG3
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับ 44 ของโลก
จุดเด่นด้าน SDG3 สุขภาพ / SDG8 งานที่มีคุณค่า / SDG17 ความร่วมมือ
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันดับ 44 ของโลก
จุดเด่นด้าน SDG4 การศึกษา / SDG5 ความเท่าเทียม / SDG17 ความร่วมมือ
- มหาวิทยาลัยมหิดล อันดับ 64 ของโลก
จุดเด่นด้าน SDG3 สุขภาพ / SDG9 นวัตกรรม / SDG17 ความร่วมมือ
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันดับ 64 ของโลก
จุดเด่นด้าน SDG5 ความเท่าเทียม / SDG16 สันติภาพ / SDG17 ความร่วมมือ
- มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อันดับ 93 ของโลก
จุดเด่นด้าน SDG5 ความเท่าเทียม / SDG2 ขจัดความหิวโหย / SDG17 ความร่วมมือ

มหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับ 101 – 200 ของโลก ได้แก่
- สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับ 401 – 600 ของโลก ได้แก่
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- มหาวิทยาลัยนเรศวร
- มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ภาพรวมมหาวิทยาลัยโลก
สำหรับภาพรวมปีนี้มีมหาวิทยาลัยทั่วโลกเข้าร่วมการจัดอันดับทั้งสิ้น 2,526 แห่ง จาก 130 ประเทศ (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มี 2,152 แห่ง) โดยมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับทั้งสิ้น 2,318 เเห่ง (ที่เหลือตกรอบ) และมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับที่ 1 Western Sydney University (ออสเตรเลีย)
อันดับที่ 2 University of Manchester (สหราชอาณาจักร)
อันดับที่ 3 Kyungpook National University (KNU) (เกาหลีใต้)
อันดับที่ 4 (ร่วม) Griffith University (ออสเตรเลีย) และ University of Tasmania (ออสเตรเลีย)
ความสำเร็จของไทยในระดับเป้าหมาย (SDGs) ของโลก
หนึ่งในความโดดเด่นของไทยในปีนี้ คือความสามารถในการติด Top 10 ของโลกในแต่ละ SDG ได้ถึง 7 เป้าหมาย โดยเฉพาะ
SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ ม.วลัยลักษณ์ ม.ธรรมศาสตร์ และ ม.เชียงใหม่ ติด Top 10
SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ม.มหิดล อันดับ 3, จุฬาฯ อันดับ 5
SDG 16: ความสงบสุขและสถาบันเข้มแข็ง ม.ธรรมศาสตร์ ทะยานสู่อันดับ 4 ของโลก
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนเหล่านี้ชี้ชัดว่ามหาวิทยาลัยไทยไม่เพียงแต่เน้นการศึกษาเชิงวิชาการ แต่ยังเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมที่มีความเป็นธรรม ครอบคลุม และยั่งยืนในทุกมิติ
“ม.ธรรมศาสตร์” ก้าวกระโดดด้าน SDG อย่างน่าทึ่ง
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังคงแสดงบทบาทผู้นำในด้านความยั่งยืนอย่างชัดเจน โดยปีนี้ติด Top 100 โลก เป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมผลักดันตัวเองขึ้นจากอันดับ 81 สู่ 64 โดยเฉพาะในด้าน:
- SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) ขยับจากอันดับ 28 สู่ อันดับ 5
- SDG 16 (สันติภาพและความยุติธรรม) พุ่งจากอันดับ 19 เป็น อันดับ 4
“ม.วลัยลักษณ์” ดาวรุ่ง
อีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าชื่นชมคือ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งปีนี้สามารถทะยานขึ้นจากกลุ่ม 101–200 สู่การเป็นหนึ่งใน Top 100 ของโลกเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะ SDG 5 ความเท่าเทียมทางเพศ และ SDG 17 ความร่วมมือ ได้คะแนนสูงมาก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศและการรวมพลังเพื่อเป้าหมายร่วม

มหาวิทยาลัยไทยบนเส้นทางความยั่งยืน
ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยไทยใน THE Impact Rankings 2025 ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพด้านวิชาการและนโยบายภายในเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อน “จิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลง” ที่สถาบันเหล่านี้พยายามสื่อสารออกไปสู่สังคมและโลก
การที่มหาวิทยาลัยไทยสามารถบรรลุเป้าหมายด้าน SDGs หลายด้านอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำ ภาวะโลกร้อน หรือการสร้างความร่วมมือเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพราะความยั่งยืน ไม่ใช่เป้าหมายที่เดินเดี่ยว แต่เป็นเส้นทางที่เราต้องร่วมก้าวไปด้วยกัน และในเส้นทางนี้มหาวิทยาลัยไทยกำลังก้าวไปอย่างมั่นคง