‘ธรรมนัส’ ออกตัว! ปมพิพาท ‘ทับลาน’ ไม่เกี่ยว ‘ก.เกษตรฯ’ อย่าโยง สปก.

9 ก.ค. 2567 - 07:18

  • ‘ธรรมนัส’ ออกตัว ก.เกษตรฯ ไม่เกี่ยวข้องปมข้อพิพาทที่ดิน ‘อุทยานฯทับลาน’ อย่าโยง สปก.แค่ฝ่ายปฏิบัติ

  • ปัดงัดข้อ ‘ก.ทรัพย์ฯ’ ย้ำคุยกันดี ชี้ต้องแยกแยะกลุ่มทุนกับเกษตรกร

Thammanat_comes_out_The_land_dispute_at_Thap_Lan_National_Park_is_not_related_SPACEBAR_Hero_07aafbb2f8.jpg

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนใน อ.ทับลาน จ.นครราชสีมา ว่า เรื่องทับลานที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นั้น ขออนุญาตตอบคำถามแบบที่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในทุกๆ เรื่อง เราทำงานภายใต้นโยบายคณะกรรมการแห่งชาติทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ดินที่ทำงานภายใต้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งจะมีคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ส่วนเรื่องข้าวเราก็มีคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กนข.) ฉะนั้นจะทำอะไรกระทรวงเกษตรของเราเป็นผู้รับนโยบายแห่งชาติมาปฏิบัติ 

หากกลับมาที่เรื่องทับลาน สืบเนื่องจากรัฐบาลเดิมในหลายยุคแต่มาสรุปและรัฐบาลชุดที่แล้ว ประมาณต้นปี 2566 ซึ่งนำความเห็นของมติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในยุครัฐบาลที่แล้ว ในเรื่องของการปรับแนวเขต ปี 2543 ตรงนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญ

“ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติเห็นชอบอย่างไร นำเสนอ ครม.ชุดที่แล้ว เมื่อ ครม.เห็นชอบ ก็เป็นเรื่องกระบวนการที่ต้องไปดำเนินการตามกระบวนการโดยกรมอุทยานฯ และในช่วงนี้เห็นว่าเป็นประเด็นที่มีการรับฟังเสียงประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ถือเป็นเรื่องของกรมอุทยานฯที่ต้องดำเนินการ ภายใต้การดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นต้องกราบเรียนนำเสนอให้เข้าใจ ไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เดี๋ยวจะไปผสมผสานเข้าใจกันผิด”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนได้กำกับดูแลสำนักงานปฏิรูปที่ดิน (สปก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับนโยบายจาก สคทช.ที่เห็นชอบนำเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อเห็นชอบให้ สปก.ไปจัดสรรที่ดินให้พี่น้องเกษตรกรได้ทำกิน เราก็จะนำไปปฏิบัติ แต่ตรงนั้นไม่ใช่ขั้นตอนตามกระบวนการของ สปก.ต้องดำเนินการ

“ขอให้เข้าใจตรงนี้เพราะมีสื่อบางสำนักไปโจมตีพาดพิง สปก. เขาจะเสียหาย”

เมื่อถามว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซับซ้อนและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคยใช้เป็นพื้นที่ในการจัดสัมมนา และมีการพาดพิงว่าเกิดมติ ครม.ตามมาในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนในฐานะที่ออกมาแล้ว เลยไม่ทราบ 

เมื่อถามว่า ที่ดินทับซ้อนประมาณ 1.5 แสนไร่ พี่มีทั้งกลุ่มนายทุนและชาวบ้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราต้องแยกก่อนว่าที่ดินเหล่านี้เชื่อว่ากระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมอุทยานฯ ที่เขาก็มีคณะกรรมการของเขา กว่าจะถึงขั้นตอนตรงนั้นไม่ใช่รวมทั้งหมด 1-2 แสนไร่ ต้องจำแนกให้ชัดเจนว่าตรงไหนเป็นพื้นที่ของประชาชนที่ร้องเรียนมาสู่การประชุมของ คทช.

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แสดงว่าเห็นด้วยกับการให้จำแนกอีกครั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้องมันต้องให้ชัดเจนในแนวเขต ตรงไหนควรอนุรักษ์เป็นป่าที่ชาวบ้านอยู่แล้ว หลายท่านที่นำเสนอล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ต้องเข้าใจว่าตรงนี้เป็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งมีขั้นตอนและมาตรการอยู่ ต้องใจเย็นๆ ณ เวลานี้อยู่ในขั้นตอนที่กรมอุทยานฯ กำลังทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น

เมื่อถามว่า ขั้นตอนตรงนี้จะใช้ของหน่วยงานแผนที่ของหน่วยงานใดจึงจะได้ข้อสรุป ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเราบริหารราชการแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพิ่งระบุชัดเจนว่าหน่วยงานที่จะไปปฏิบัติ หรือกรมอุทยานฯ จะไปปฏิบัติอะไร ที่ผ่านมาก็ต้องนำมติ คทช.ที่ผ่านมา แล้วผ่าน ครม.แล้วมาปฏิบัติ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องรอฟัง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ปัญหาพื้นที่ สปก.ทับซ้อนกับพื้นที่กรมอุทยานฯมีอีกหลายพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องยืนยันว่าหน่วยงานภายใต้การดูแลกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน่วยงานปฏิบัติตามมติ ครม.เห็นชอบ ตามที่ คทช.เสนอ ถ้าเราไม่ปฏิบัติก็จะโดนมาตรา 157 เหมือนกัน ฉะนั้นยังไม่ถึงกระบวนการของ สปก.

เมื่อถามอีกว่า ถ้าตามกระบวนการแล้วเห็นชอบใช้แนวเขตปี 2543 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องฟังเสียงผลจากการรับฟังเสียงจากประชาชนก่อน ตอนนี้ สปก. ยังไม่ต้องทำอะไรเป็นเรื่องของกระทรวงทรัพย์ฯ ที่ดำเนินการอยู่ เพิ่งจัดการฟังบทสัมภาษณ์อุทยานของอธิบดีกรมอุทยานฯ ท่านก็บอกมาถูกต้องแล้ว 

หากกระทรวงทรัพย์ฯเห็นชอบมาอย่างไร หน่วยงานไหนได้ถูกมอบหมายให้ไปดำเนินการก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน อันไหนที่กลุ่มนายทุนบุกรุกอย่างที่ตนทำ ซึ่งกำลังจะออกหมายจับกลุ่มทุนอีกหลายกลุ่ม โดยการดำเนินการของ สปก. ที่ต้องแยกแยะระหว่างผู้ทำผิดกฎหมาย กับปัญหาประชาชน ไม่เช่นนั้นภาครัฐ คงไม่กล้าทำงาน เพราะทำอะไรก็โดนหมด 

เมื่อถามว่า หากตามกระบวนการแล้วมีการนิรโทษกรรมนายทุนทั้งหมด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่หรอกมันต้องจำแนกให้ชัดเจน กลุ่มไหนคือเกษตรกรกลุ่มไหนคือกลุ่มทุน 

ถามต่อว่า กลายเป็นว่ากระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพย์ฯ งัดข้อกันเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่หรอกเรื่องนี้เรามีการพูดคุยกันตลอด แล้วเมื่อวาน (8 ก.ค.) ก็ได้มีการหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพย์ฯ และปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ไม่มีประเด็นอะไร เพราะยังไม่ถึงกระบวนการของ สปก.ที่จะต้องทำอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่ผ่านมามีปัญหาที่ไม่ตรงกันของทั้งสองกระทรวงหลายครั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่ครับตอนนี้เรามีคณะกรรมการทำงานร่วมกันอยู่”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์