คดีหมูเถื่อนที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา กำลังนับถอยหลังปิดคดี เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสเปิดเผยว่าเตรียมแถลงปิดคดี ในช่วงเดือนเมษายนนี้ แต่มหากาพย์เรื่องนี้ดูท่าจะยังไม่จบง่ายๆ
ล่าสุดวันนี้ (25 มี.ค.) ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย พ.อ.รวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผูบังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน
โดยข้อมูลที่แถลงข่าววันนี้ เป็นข้อมูลชุดเดียวกันกับที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังขยายผลขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน จำนวน 161 ตู้ ที่ยึดได้จากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566
ร.อ.ธรรมนัส อธิบายว่าแม้จะเป็นคดีเดียวกัน แต่จากการขยายผลของกระทรวงเกษตรฯ หลังตั้ง War room เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 67 ได้นำไปสู่การเปิดประเด็นใหม่ คือการพบว่า มีบริษัทเอกชนที่นำเข้าเนื้อสัตว์แห่งหนึ่ง ปลอมแปลงเอกสารเพื่อสวมสิทธิ์ใบรับรองสุขอนามัยสัตว์ (Health Certificate) โดยสินค้าที่นำเข้าเป็นสินค้าคนละประเภทกับที่ผู้นำเข้าใช้ยื่นกับกรมประมงว่าเป็นเนื้อปลา แต่สินค้าที่นำเข้าจริงเป็นเนื้อหมู จำนวน 1,859,270 กิโลกรัม เนื้อวัว จำนวน 4,135,306 กิโลกรัม รวม 220 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าความเสียหาย 1,407,187,712 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ได้แจ้งความเอาผิดบริษัทดังกล่าวต่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว จำนวน 220 คดี และเตรียมเเจ้งข้อความเพิ่มอีกประมาณ 200 คดี คาดเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร กว่า 10,000 ล้านบาท
ส่วนคดีนี้จะมีการประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับคดีนี้ และอยากให้กระทรวงเกษตรฯ และกองบังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้โดยตรง
“ถ้าเกี่ยวข้องกับคดีเก่า ทางผู้การฯ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไป ผมก็ประสานงานกับทางอธิบดีดีเอสไอไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเราไม่ไว้ใจการทำงานของดีเอสไอนะครับ แต่เป็นการช่วยกันทำงานเพื่อแก้ปัญหา”
ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่าตอนนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมแถลงปิดคดีหมูเถื่อนในช่วงเดือน เม.ย.นี้แล้ว ถือว่าทำงานได้รวดเร็วทันใจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่าได้ประสานงานกับดีเอสไอมาตลอด ในหลายๆ คดีทำงานได้รวดเร็ว แต่คดีที่เป็นประเด็นใหม่ตอนนี้ มีความจำเป็นที่ต้องทำงานอย่างละเอียดและใกล้ชิด ย้ำว่านายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สอบสวนกลางเป็นผู้รับผิดชอบ
ส่วนคดีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนร่วมกับการทำผิดหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส อธิบายว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะระดับไหนต้องถูกลงโทษโดยไม่มีละเว้น และหากไปเจอต่อใหญ่ก็พร้อมทำลายขบวนการนี้ ยอมรับคงไม่สามารถพูดได้ว่าจะไม่มีขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนอีก แต่จะพยายามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“ผมไม่อยากใช้คำว่าโค่น แต่เราจะทำลายระบบวงจรอุบาทว์นี้ให้ได้”
ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ด้าน พ.อ.รวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ย้ำว่าคดีนี้ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะในการตรวจสอบ ถ้าไม่ใช่ผู้ชำนาญการตรวจพบความผิดปกติอาจทำได้ยาก