



จากกรณีที่ศาลแขวงพระนครเหนือ นัดฟังคำพิพากษา คดีที่ 'รักชนก ศรีนอก' สส.กทม. พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท 'อัญชะลี ไพรีรัก' และ 'กนก รัตน์วงศ์สกุล' สองผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ โดยการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่สื่อมวลชน ในการชุมนุมของกลุ่ม REDAM หน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564
ล่าสุดวันนี้ (29 มกราคม 2567) 'รัชนก' ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังรับฟังคำพิพากษา ระบุว่า มีการพิจารณาให้ 'ยกฟ้อง' ด้วยโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะและเป็นการติชมโดยสุจริต ส่วนความทางแพ่งศาลพิพากษา ว่าเมื่อไม่มีมูลในคดีอาญา จึงไม่ต้องจ่าย ตามการฟ้องร้องของโจทก์จำนวน 10 ล้านบาทต่อคน
เมื่อถามว่า ช่วงระหว่างติดพันคดีดังกล่าวอยู่ ส่งผลต่อชื่อเสียงส่วนตัวหรือไม่ รัชนกกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นการปิดปากประชาชนโดยการฟ้อง ซึ่งก่อนหน้านั้น ตนเองยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่พูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จึงอยากขอเรียกร้องให้ตระหนักถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน หากนำเสนอข่าวไม่ตรงไปตรงมา อาจสร้างปัญหาและส่งเสริมให้รัฐใช้กำลังกับประชาชนได้ เฉกเช่นเดียวกับการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมหลายครั้งในอดีต พร้อมยืนยันว่า การวิจารณ์เป็นไปอย่างสุจริต และขอบคุณสื่อน้ำดี ที่นำเสนอข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ส่วนตัวขอตั้งความหวัง ว่าสังคมจะเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเห็นคุณค่าของเสรีภาพและสวัสดิภาพของสื่อมวลชนต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าคำพิพากษาดังกล่าว จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในคดีอื่น หรือต่อยอดในเรื่องอื่นได้ โดยจะมีการหารือกับ สส. ในพรรค ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องสื่อโดยตรง ส่วนจะดำเนินคดีกลับหรือไม่ รัชนกยืนยันว่า จะไม่ฟ้องกลับ เพราะตั้งใจแล้วว่าตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็น สส. จะไม่ใช้อำนาจกับสื่อและประชาชน อย่างที่ไม่ชอบ
"ก็ไม่กังวลแล้วค่ะ โล่งอก เพราะจริงๆ แล้วเราก็รู้สึกว่า การมีคดีฟ้องปิดปาก มันเป็นเหมือนแมลงหวี่สร้างความรบกวน ทำให้ต้องผละจากภาระงานมา ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องมาศาลบ่อยๆ" รัชนก ศรีนอก กล่าว