คดีการเสียชีวิตของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ กลับมาเป็นที่สนใจในสังคมอีกครั้ง หลัง อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม และ บ้านพระอาทิตย์ ที่นำโดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ สนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาเคลื่อนไหวว่ามี หลักฐานใหม่ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รื้อคดีนี้ขึ้นมาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง แล้วทั้ง 3 คนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร สเปซบาร์สรุปมาให้แล้ว!
ทำไมถึงเพิ่งออกมาตอนนี้?
ขอเกริ่นก่อนว่า คดีการเสียชีวิตของแตงโม เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 ตลอดระยะเกือบ 2 เดือน ที่ตำรวจพยายามคลี่คลายคดีนี้ ทุกอย่างเต็มไปด้วยข้อแคลงใจของสังคม ที่มีต่อกระบวนการหาพยานหลักฐาน การสรุปสาเหตุการเสียชีวิต และการเอาผิดกับคนบนเรือสปีดโบ๊ท ทั้ง 5 คน ที่อยู่บนเรือลำเกิดเหตุ ก่อนที่แตงโมจะตกจากเรือลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 7
ต่อมา วันที่ 3 สิงหาคม 2565 อัยการจังหวัดนนทบุรี ได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 6 คน แบ่งเป็นคนบนเรือ 5 คน ถูกดำเนินในข้อหาเกี่ยวกับการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ เช่น ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต ให้การเท็จ และทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ อีก 1 คน คือกุนซือที่แนะนำให้คนบนเรือทั้ง 5 คน ให้การเท็จ
และหากใครยังพอจำกันได้ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ คือหนึ่งในคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดยชี้ให้เห็นว่าแตงโมถูกฆาตกรรม และเรื่องนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ
แต่เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลแล้ว การจะขอให้ศาลพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาใหม่ เช่น ข้อหาฆ่าอำพราง สามารถทำได้ต่อเมื่อ มีพยานหลักฐานใหม่ ที่มีน้ำหนักมากพอจะทำให้ศาลยอมรับ
กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่ ตำรวจภูธรภาค 1 จังหวัดนนทบุรี จำนวน 27 คน แจ้งความหมิ่นประมาท อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กรณีการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม โดย ศาลพิพากษาว่า เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตและเป็นประโยชน์สาธารณะ
ในวันนั้นดังกล่าว อัจฉริยะ เปิดเผยว่า มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ศาลเห็นว่า บาดแผลตามร่างกายแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ และเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าบาดแผลของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ
ขณะที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้เปิดเผยเอกสารคำพิพากษาคดีของอัจฉริยะ ในรายการ สนธิทอล์ก - คุยทุกเรื่องกับสนธิ เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 ในตอนหนึ่ง ระบุว่า ในสำเนาคำพิพากษา หน้า 49 ศาลระบุว่า
“... การร้องเรียน เอกสารหมาย ล.35 เห็นว่า ผู้เสียหายทั้ง 21 เป็นเจ้าพนักงานตำรวจและคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จะต้องพิทักษ์รักษาสันติราษฎร์ ปฏิบัติหน้าที่ให้ประชาชนเห็นถึงความโปร่งใส แม้ผู้เสียหายทั้ง 21 คน จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตเพียงใด แต่พยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการตายของผู้ตาย ซึ่งหมายถึง แตงโม ล้วนมีพิรุธ มีเงื่อนงำ”
สำเนาคำพิพากษา หน้า 49 คดี ตำรวจภูธรภาค 1 จังหวัดนนทบุรี จำนวน 27 คน แจ้งความหมิ่นประมาท อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กรณีการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม
หลักฐานใหม่คืออะไร?
คำพิพากษาดังกล่าว จึงกลายเป็นเหมือนการยอมรับใน หลักฐาน ที่ อัจฉริยะนำมาใช้หักล้างข้อกล่าวหาจนนำมาสู่การยกฟ้อง ซึ่งพยานผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญ ที่ช่วยให้อัจฉริยะพ้นข้อกล่าวหา และเป็นคนรวบรวมพยานหลักฐานคดีแตงโม ที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน คือ พันเอก นายแพทย์ ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ทั้งนี้ พ.อ.นพ.ธวัชชัย เดิมเป็นพยานคนสำคัญให้แม่ของแตงโม ในคดีที่แม่แตงโม เป็นโจทก์ร่วมกับอัยการจังหวัดนนทบุรี ฟ้อง ปอ ตนุภัทร กับพวกบนเรือ ในข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
แต่ต่อมา เครือข่ายทนายคลายทุกข์ ซึ่งเป็นทนายให้แม่แตงโม มีหนังสือขอยกเลิกพยานศาล ถึง พ.อ.นพ.ธวัชชัย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2567 ในคดีดังกล่าว
หลังศาลยกฟ้องอัจฉริยะ พ.อ.นพ.ธวัชชัย ได้นำเอกสาร หลักฐานต่างๆ มาให้ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ เพื่อให้ช่วยกันพิจารณา โดย ปานเทพ ได้นำข้อมูลบางส่วนที่ได้รับ มานำเสนอในรายการ News Hour เปิดเผยถึงหลักฐานใหม่ในคดีแตงโมที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน โดยเบื้องต้นมี 4 ประเด็น
- มีเจ็ทสกี 4 ลำ ขี่นำขบวนเรือลำเกิดเหตุ ที่มี แตงโม ปอ โรเบิร์ต แซน กระติก และจ๊อบ อยู่บนเรือ โดย ปานเทพ ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องมีคนขี่นำขบวน แล้วคนกลุ่มนั้นเป็นใคร เป็นการขับพาไปหาใครหรือไม่
- ลักษณะบาดแผลที่ไม่ได้ถูกใบพัด และลิ่มเลือดที่บ่งชี้ว่าแตงโมตายบนบก ไม่ใช่ในน้ำ โดย พ.อ.นพ.ธวัชชัย อธิบายว่า หากเลือดออกในน้ำจะไม่มีลิ่มเลือด ดังนั้นการที่แตงโมมีลิ่มเลือด หมายความว่าต้องเสียชีวิตบนบก อีกทั้งต้องใช้เวลาประมาณ 2 นาที เลือดถึงจะกลายเป็นลิ่ม แล้วเหตุใดถึงพบศพในน้ำ
- ข้อพิรุธเกี่ยวกับ GPS และเรื่องสัญญาณโซนาร์ ของเรือลำที่เกิดเหตุ ที่ถูกรบกวนจากฟองอากาศใต้น้ำ เพราะมีเรืออีก 1 ลำ ที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยมีข้อมูลมาก่อน
- เรื่องที่แตงโมเข้าห้องน้ำ ที่ร้านอาหารบ้านตานิด ก่อนนั่งเรือออกไป
รื้อคดีได้จริงไหม?
ส่วนหลักฐานใหม่ที่มีตอนนี้จะนำไปสู่การรื้อคดีได้หรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไป แต่สิ่งที่อัจฉริยะทำได้ตอนนี้ คือการเดินสายเพื่อยื่นหนังสือถึง อธิบดีอัยการภาค 1 กระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้พิจารณาส่งเรื่องต่อไปให้ อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจในการสั่งฟ้องใหม่ ช่วยเร่งรัดและตรวจคำฟ้องของอัยการจังหวัดนนทบุรี รวมถึงรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโมขึ้นมาทำใหม่ เพื่อเอาผิดคนบนเรือในข้อหาร่วมกันฆ่าอำพรางแตงโม
โดย อัจฉริยะ บอกว่าตอนนี้เหลือเวลาเพียง 2 เดือน หากศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษาคดีนี้ก็จะจบลงทำอะไรไม่ได้
นอกจากนี้ อัจฉริยะ ยังยื่นหนังสือถึงประธานกรรมาธิการการกฎหมาย สภาฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับอัยการจังหวัดนนทบุรี และพวก มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ทำสำนวนคดีแตงโมช่วยเหลือคนบนเรือ และทำคำฟ้องไม่ตรงกับความจริงทั้งหมด เพื่อพิจารณาและส่งเรื่องต่อไปยัง ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีกับตำรวจทั้งหมดที่ทำคดีนี้ รวมถึง พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ด้วย
ทั้งนี้ อัจฉริยะ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า เขาเตรียมเข้าพบ สนธิและปานเทพ ที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อร่วมกันทวงคืนความเป็นธรรมให้กับแตงโม
บทสรุปของ ‘ความยุติธรรม’
คดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่เต็มไปด้วความแคลงใจของสังคม ความยุติธรรมที่ใครต่างเฝ้ามองว่ายังไม่เกิดขึ้น สุดท้ายจะเป็นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ หรือเป็นปาฏิหารย์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงคงต้องรอลุ้นกันต่อไป
อย่าให้เหมือนที่สังคมปรามาสว่าเหมือน คดีบอส วรยุทธ ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่ผ่านมาแล้ว 12 ปี แต่ความเป็นธรรมยังไม่เกิดขึ้น ขณะที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองที่มีส่วนช่วยเหลือบอสให้พ้นผิด ยังคงไม่ได้รับโทษอย่างที่ควรจะเป็น
