หลายวันที่ผ่านมาแม้ดวงอาทิตย์ยังไม่ตั้งฉากกรุงเทพมหานคร แต่อุณหภูมิได้ทะลุ 40 องศาเซลเซียสไปแล้ว โดยข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2567 อุณหภูมิสูงถึง 40.4 (ศูนย์ฯสิริกิติ์) แต่ความร้อนยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ มีแนวโน้มที่จะพุ่งไปต่อเนื่อง ตลอดทั้งฤดูร้อนนี้
ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกรุงเทพมหานคร
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) เผยว่าดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรกของปี ในวันที่ 26 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 12:16 น. ในเวลาดังกล่าว หากสังเกตวัตถุที่อยู่กลางแดดจะดูเสมือนไร้เงา เนื่องจากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดี และอาจไม่ใช่วันที่ร้อนที่สุด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย เริ่มจากพื้นที่ภาคใต้ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นไล่ลำดับขึ้นเหนือมาเรื่อย ๆ ก่อนจะสิ้นสุดที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2567
เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน ระหว่างแนวละติจูด 5-20 องศาเหนือ ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้ง/ปี คือช่วงเมษายน-พฤษภาคม และกรกฎาคม-กันยายน โดยมีคาบการโคจรพาดผ่านแตกต่างกันไป แต่ละจังหวัดของประเทศไทยจึงเห็นดวงอาทิตย์ผ่านเหนือศีรษะไม่พร้อมกัน
สำหรับดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นที่กรุงเทพฯ ครั้งต่อไป จะตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 12:22 น.
ดูข้อมูลการเกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากทั้ง 77 จังหวัดในประเทศไทยเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT)
ดวงอาทิตย์ตั้งฉากทำให้อากาศร้อนที่สุดหรือไม่
ปัจจัยที่ทำให้อากาศร้อนไม่ได้มีเพียงรังสีจากดวงอาทิตย์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีลมมรสุม การเกิดเมฆ ฝนตก ความร้อนสะสม และอย่างอื่นอีกมากมาย
เมื่อดูสถิติอุณหภูมิสูงสุดย้อนหลังในรอบ 73 ปีจากกรมอุตุนิยมวิทยา วันที่ร้อนที่สุดอยู่ที่จังหวัดตาก 44.6 องศาเซลเซียส ตรงกับวันที่ 15 เมษายน 2566 เทียบกับข้อมูลดวงอาทิตย์ตั้งฉาก จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ในปี 2566 จังหวัดตาก ดวงอาทิตย์ตั้งฉากในวันที่ 7 พฤษภาคม และ 6 สิงหาคม
นายสุรพงษ์ สารปะ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่าก่อนหน้าหรือหลังจากดวงอาทิตย์ตั้งฉาก ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆที่ทำให้อากาศร้อนอยู่แล้ว และในช่วงที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากอาจทำให้อากาศร้อน เพราะรับรังสีความร้อนโดยตรง แต่ในวันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกรุงเทพมหานคร (26 เม.ย.) อากาศอาจไม่ร้อนที่สุด เพราะก่อนหน้านั้นมีปัจจัยเรื่องลม ฝน เข้ามาทำให้การสะสมของความร้อนลดลง
โดยเมื่อวันที่ 23-25 เมษายน มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาผ่านภาคกลางไปยังภาคเหนือ ขณะที่ภาคเหนือ มีกระแสลมตะวันตก ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองหรือพายุฤดูร้อน สำหรับกรุงเทพมหานครและภาคกลางลมได้พัดพาความร้อนไปที่อื่นทำให้อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย จึงทำให้วันที่ 26-27 เมษายน กรุงเทพไม่ได้ร้อนที่สุด
แต่คาดว่าช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมนี้อากาศจะกลับมาร้อนขึ้นอีก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีอุณหภูมิสูงสุด
“พอไม่มีลม ก็เป็นช่วงสะสมความร้อนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนไปถึงต้นเดือนพฤษภาคม จะมีการปะทุขึ้นมาใหม่ กรุงเทพฯอาจจะไปร้อนสุด วันที่ 30 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม อาจจะพีคสุดในรอบปีนี้ เพราะฝนภาคเหนือหมดแล้ว ปัจจัยไม่มี ฝน ลมอ่อน ลมเบาลงไปเรื่อยๆ ความชื้นไม่ค่อยมีก็แห้งมากขึ้นเรื่อยๆสะสมความร้อน รับรังสีดวงอาทิตย์”
นายสุรพงษ์ กล่าว
คนไทยต้องรับมือกับอากาศร้อนกันอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีการคาดการณ์ว่าฤดูฝนปีนี้จะมาช้ากว่าปกติ คือปลายเดือนพฤษภาคม และมีฝนตกน้อยในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้ความร้อนยังคงอยู่ต่อไปอีกถึงต้นเดือนมิถุนายน!
