ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง ‘ศุภมาส’ ค้านย้าย ‘อุเทนถวาย’

ปมปัญหาที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ต้องย้ายออกตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และคืนพื้นที่ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลายเป็นเรื่องคาราคาซังที่ยังคงรอการคลี่คลายจากภาครัฐ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 

ประเด็นนี้ถูกนำไปพูดคุยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (8 ก.พ. 2567) โดยทาง ชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถาม เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และ ศุภมาส อิสรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงเรื่องย้ายสถานที่ และการงดรับนักศึกษาใหม่ เพื่อให้เร่งย้ายสถานที่ไปวิทยาเขตอื่น

ขณะที่วันนี้ มีความเคลื่อนไหวจากตัวแทนศิษย์เก่าอุเทนถวายจำนวนหนึ่ง ได้เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึง รมว.การอุดมศึกษาฯ แสดงเจตจำนงคัดค้านการย้าย ‘อุเทนถวาย’ พร้อมเอกสารล่ารายชื่อจากศิษย์เก่าร่วม 500 รายชื่อ 

เนื้อหาสำคัญของหนังสือเปิดผนึกดังกล่าว อ้างถึงวิทยาเขตอุเทนถวาย เป็นจุดเริ่มต้นด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของรากฐานระบบการศึกษาวิชาช่างก่อสร้าง ควรได้รับการรักษาไว้ให้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ทางด้านสถานที่เพื่อการศึกษา อีกทั้งอุเทนถวาย ยังมีพื้นที่เพียงแค่ 21 ไร่ คิดเป็นเพียงแค่ 1.42 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นทั้งหมด 1,153 ไร่ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอ้างเป็นผู้ครอบครอง ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาสถานที่ของอุเทนถวาย ซึ่งใช้เพื่อการศึกษาอยู่แล้ว ไปอ้างว่าจะนำไปขยายพื้นที่การศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อุเทนถวาย จะขอยืนหยัด รักษาพื้นที่แห่งนี้ ให้คงไว้เป็นสถานที่เพื่อการศึกษา รุ่นสู่รุ่น ให้คง อยู่คู่ประเทศไทยต่อไป

ส่วนปัญหาในเรื่องของการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ทางศิษย์เก่าอุเทนถวาย ยืนยันว่า ไม่เคยสนับสนุนให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท และวัฒนธรรมที่ผิดเพี้ยน แต่กลับมองว่าปัญหาดังกล่าวควรได้รับแก้ไขจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง

การย้ายพื้นที่เพื่อการศึกษา ไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่กลับมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ทั้งนี้ ทางศิษย์เก่าอุเทนถวายพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้อง และจะสนับสนุนรงณรงค์แก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน เพื่อยุติความรุนแรง

อุเทนถวายยังรับนักศึกษาปี 1 เหมือนเดิม แต่ให้รับในวิทยาเขตอื่น

ก่อนหน้านี้ รมว.การอุดมศึกษาฯ ยืนยันว่า การรับนักศึกษาของวิทยาเขตอุเทนถวาย ยังคงรับนักศึกษาปี 1 เหมือนเดิม แต่ให้มีการบริหารจัดการการเรียนการสอน เพื่อให้สอดรับกับแผนการย้ายที่ตั้งของอุเทนถวาย

ซึ่งเป็นข้อเสนอจากการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มทร.ตะวันออก, จุฬาฯ, กรมธนารักษ์, สำนักงบประมาณ และสำนักงานอัยการสูงสุด โดยตนเป็นประธาน

ที่ประชุมเสนอให้อุเทนถวาย ย้ายสถานที่ไปยังวิทยาเขตบางพระ จังหวัดชลบุรี หรือสถานที่ที่กรมธนารักษ์จัดหาให้ หรือสถานที่ที่มีผู้บริจาคให้ และเห็นควรให้ปรับแผนการรับนักศึกษาใหม่ โดยเปิดรับนักศึกษาใหม่ในวิทยาเขตอื่นๆ แทน ซึ่งมหาวิทยาลัยจะเสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติแผนดังกล่าวในวันที่ 10 ก.พ. 2567

สำหรับการจัดหาสถานที่เรียนให้นักศึกษาที่ต้องย้ายนั้น เบื้องต้นได้กำหนดไว้ใน 4 พื้นที่ ได้แก่

1. วิทยาเขตบางพระ จ.ชลบุรี  
2. วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  
3. พื้นที่บริจาคที่มีนบุรี กรุงเทพฯ  
4. พื้นที่ที่ราชพัสดุ ใน จ.สมุทรปราการ

ซึ่งทั้ง 4 สถานที่สามารถเดินทางได้สะดวก

โดยกระทรวง อว. ได้ประสานกับอุเทนถวายเพื่อจัดทำรายละเอียดในการจัดทำคำของบประมาณ และประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือในการสนับสนุนในด้านต่างๆ

ขณะที่อุเทนถวายได้มีการจัดทำแผนการเคลื่อนย้ายบุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่อุเทนถวาย ซึ่งมีจำนวน 125 คน โดยจัดหาพื้นที่การปฏิบัติงานบางส่วนในพื้นที่จักรพงษภูวนารถ และเตรียมการเคลื่อนย้ายครุภัณฑ์เพื่อใช้ในการทำงาน และกำหนดเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 12 มี.ค. 2567

ทำแผนย้าย ‘คณะวิศวกรรมฯ-สถาปัตย์’ ไปสถานที่ใหม่ย่านมีนบุรี

นอกจากนี้ ยังจัดทำแผนเคลื่อนย้ายพื้นที่เขตพื้นที่อุเทนถวาย โดยจัดทำโครงการก่อสร้างขยายเขตพื้นที่การศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ บนที่ดินจำนวน 24 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา ที่มีนบุรี กรุงเทพฯ เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายนักศึกษา

ทั้งนี้ ได้ผ่านการพิจารณาของสภามหาวิทยาลัยแล้วพร้อมกับได้เสนอของบประมาณในปี 2568 จำนวนประมาณ 400 ล้านบาทต่อสำนักงบประมาณแล้ว

ปมปัญหา ‘อุเทนถวาย’ จะจบลงได้แบบเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย-ไร้ข้อกังขาหรือไม่ โปรดติดตามต่อไป