เข้าสู่ช่วงหน้าฝน การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวอาจดูไม่รุนแรงในมุมของมนุษย์ แต่สำหรับ “เต่า” หนึ่งในสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติใกล้เมือง ฤดูฝนคือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง และหลายครั้งที่เราพบเต่าเดินอยู่กลางถนนหรือได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถทับ
ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (VMARC) โพสต์ข้อความผ่านเพจ ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ - VMARC แจ้งประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวังและช่วยเหลือเต่าที่อาจตกอยู่ในอันตราย พร้อมเปิดรับเต่าที่บาดเจ็บเพื่อเข้ารับการดูแลจากทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

“เต่า” สัตว์ผู้รักษาสมดุลทางนิเวศ
เต่าเป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศ แม้จะไม่เป็นที่จับตามองเท่าสัตว์ชนิดอื่น แต่เต่ามีหน้าที่ช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์พืชจากการบริโภคผลไม้ในธรรมชาติ ช่วยควบคุมประชากรสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หอยและแมลงน้ำ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของสัตว์นักล่าขนาดใหญ่บางชนิด
จากข้อมูลของ International Union for Conservation of Nature (IUCN) พบว่า เต่าหลายสายพันธุ์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย กำลังเผชิญกับภาวะใกล้สูญพันธุ์ อันเนื่องมาจากการบุกรุกพื้นที่ธรรมชาติ การจับมาขาย และอุบัติเหตุจากการคมนาคม
เต่าเดินตัดถนนในฤดูฝนคนช่วยได้
สาเหตุหลักที่ทำให้เต่าออกมาเดินบนถนนในช่วงฤดูฝนมาจากระดับน้ำในแหล่งธรรมชาติที่เพิ่มสูงจนท่วมรัง ทำให้เต่าจำเป็นต้องอพยพหาที่อยู่ใหม่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีถนนตัดผ่านป่าชุมชน หนองบึง หรือสวนเกษตรริมทาง ซึ่งพบเต่าบ่อยครั้งกำลังเดินตัดถนนในจังหวะที่ผู้ใช้รถอาจไม่ทันสังเกตเห็น
งานวิจัยจาก The Wildlife Society เมื่อปี 2021 พบว่าในพื้นที่ชานเมืองของสหรัฐฯ อัตราการเสียชีวิตของเต่าเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับฤดูวางไข่ โดยรถยนต์กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของเต่าบกและเต่าน้ำจืด
ศูนย์วิจัยฯ เปิดรับเต่าบาดเจ็บ พร้อมให้คำแนะนำประชาชน
ประชาชนที่พบเต่าได้รับบาดเจ็บสามารถนำส่งได้ที่ ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเปิดทำการวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 09.00–16.00 น. โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-251-8887 หรือผ่าน LINE Official: @VMARC
คำแนะนำเบื้องต้นคือ หากพบเต่าบนถนน ควรเคลื่อนย้ายออกอย่างระมัดระวัง โดยห้ามยกกลับทิศทางเดิม ให้พาเต่าข้ามไปในทิศทางที่มันมุ่งหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินย้อนกลับมาที่เดิม
“ปล่อยเต่า” ไม่ใช่บุญเสมอไป ความเข้าใจผิดที่ควรแก้ไข
ปัจจุบันมีการปล่อยเต่าในวัดหรือแหล่งน้ำต่างๆ โดยเชื่อว่าเป็นการสร้างบุญกุศล แต่กรณีนี้กลายเป็นประเด็นที่นักอนุรักษ์ออกมาเตือนอย่างต่อเนื่องว่า การปล่อยสัตว์ป่าโดยไม่เข้าใจระบบนิเวศหรือพฤติกรรมของสัตว์ เป็นการส่งผลร้ายมากกว่าดี
เต่าบกไม่สามารถว่ายน้ำได้ หากปล่อยลงแหล่งน้ำอาจเกิดความเครียดหรือจมน้ำตาย ขณะที่เต่าต่างถิ่นที่ถูกปล่อยลงแหล่งน้ำในธรรมชาติ อาจกลายเป็น “ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน” (Invasive Species) ทำลายสมดุลของพันธุ์พื้นถิ่น

การดูแลเต่าคือสะพานเชื่อมการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
การเผชิญหน้ากับเต่าที่เดินตัดถนนอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ในแง่ของการอนุรักษ์สะท้อนถึงความเปราะบางของระบบนิเวศที่อยู่ร่วมกับเมือง การมีพื้นที่ธรรมชาติคั่นกลางกับเขตชุมชนโดยไร้ทางเชื่อม อาจนำไปสู่การสูญเสียที่ซ่อนอยู่
เมื่อแนวคิด “เมืองยั่งยืน” (Sustainable Cities) เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น การให้พื้นที่กับสัตว์ป่าท้องถิ่นอย่างเต่า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบถนนให้มีทางลอดสัตว์ การตั้งป้ายเตือน หรือนโยบายการพัฒนาเมืองที่คำนึงถึงระบบนิเวศ คือสิ่งที่ควรเร่งผลักดันในระดับนโยบาย
เต่าตัวเล็กๆ บนถนนอาจไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความระมัดระวังจากผู้ใช้รถ และสายตาที่มองเห็นคุณค่าของชีวิตที่เดินช้ากว่าเราเพียงเท่านั้น