กลายเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) ไปแล้วสำหรับ ‘ชุดนักเรียนไทย’ ที่ตอนนี้กำลังเป็นเทรนด์ใหม่สุดปัง! ของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่หันมาแต่งชุดนักเรียนไทย พร้อมปักชื่อตัวเองหรือความที่เป็นภาษาไทยบนอกเสื้อ ตาม ‘จวีจิ้งอี’ นักแสดงและนักร้องชาวจีนที่เป็นผู้นำเทรนด์ ใส่ชุดนักเรียนไทยเดินเที่ยวย่านสยามจนกลายเป็นกระแสไวรัล และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกหลายคนที่ได้แต่งชุดนักเรียนไทย ถ่ายรูปเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในไทยด้วย
แต่เทรนด์ใหม่สุดปังนี้อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายไทย หลัง ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้โพสต์คลิปเตือนผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าหากไม่ได้เป็นนักเรียนแล้วแต่งกายเลียนแบบนักเรียน หรือจงใจให้คนอื่นหลงเชื่อว่าเป็นนักเรียน ถือว่าเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท โดยจุดที่จะใช้พิจารณาความผิด อยู่ที่การปักตัวอักษรย่อ หากพบว่าอักษรย่อตรงกับชื่อของโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ถ้าปักชื่อตัวเองอย่างเดียวไม่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ทนายรัชพล ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเพจเฟซบุ๊กตัวเองว่า การที่นักท่องเที่ยวชาวจีนสวมชุดคล้ายเครื่องเเบบนักเรียนไทย แต่จากที่เห็นไม่มีอักษรย่อชื่อของโรงเรียน และพิจารณาจากรูปแล้ว คิดว่าไม่น่ามีความผิด
แต่เทรนด์ใหม่สุดปังนี้อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายไทย หลัง ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้โพสต์คลิปเตือนผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าหากไม่ได้เป็นนักเรียนแล้วแต่งกายเลียนแบบนักเรียน หรือจงใจให้คนอื่นหลงเชื่อว่าเป็นนักเรียน ถือว่าเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท โดยจุดที่จะใช้พิจารณาความผิด อยู่ที่การปักตัวอักษรย่อ หากพบว่าอักษรย่อตรงกับชื่อของโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ถ้าปักชื่อตัวเองอย่างเดียวไม่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ทนายรัชพล ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเพจเฟซบุ๊กตัวเองว่า การที่นักท่องเที่ยวชาวจีนสวมชุดคล้ายเครื่องเเบบนักเรียนไทย แต่จากที่เห็นไม่มีอักษรย่อชื่อของโรงเรียน และพิจารณาจากรูปแล้ว คิดว่าไม่น่ามีความผิด




