







กลุ่มเครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC) สวมเสื้อขาวบุกยื่นหนังสือทวงถามความชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติด เพื่อนำมาใช้ในทางการแพทย์ แต่กลับพบว่าหลังมีการปลดล็อกกัญชา ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนปี 65 กลับมีการควบคุมการใช้ที่ล้มเหลว โดยข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด พบว่ามีผู้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการเพิ่มขึ้นถึง 900 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ข้อมูลทางการแพทย์ยังพบว่าจำนวนผู้ป่วยอาการทางจิต ที่เกิดจากการเสพกัญชา มีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย จึงเรียกร้องให้ผู้บริหารออกมาชี้แจงเกี่ยวกับการควบคุมกัญชาให้ชัดเจน ภายในวันที่ 6 พ.ค.นี้ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินเรื่องการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่าย YNAC ยังเชื่อว่าโอกาสที่พรรคการเมืองเดิม จะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งคงเป็นไปได้ยาก และเชื่อว่าหากพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง และได้เข้ามาดูแลกระทรวงสาธารณสุข อาจจะมีการไล่เช็กบิลเอาผิดข้าราชการและนักการเมืองที่ปล่อยปละละเลยให้มีการปลดล็อกกัญชา ทั้งที่ไม่มีกฎหมายควบคุมที่ดี ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวงฯ ออกมาชี้เเจงในประเด็นข้างต้นโดยเร็ว ซึ่งเครือข่ายจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการยื่นฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ต่อไป ย้ำว่าจุดยืนของเครือข่ายคือการผลักดันให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เพราะแม้จะไม่มีการปลดล็อกกัญชา แต่ก็มีกฎหมายที่รองรับให้นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ได้ โดยการใช้กัญชาจะอยู่ภายใต้การพิจารณาของแพทย์เท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ประสานงานเครือข่าย YNAC ยังบอกว่าทางกลุ่มขอสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ที่ออกมาต่อต้านนโยบายกัญชาและรณรงค์ไม่เลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนนโยบายกัญชา และคาดว่าทางกลุ่มจะมีโอกาสออกไปเคลื่อนไหวต่อต้านกัญชาร่วมกันกับชูวิทย์ สักครั้ง เนื่องจากชูวิทย์ เป็นเหมือนไอดอลในเรื่องนี้ และยังมีพลังในการสื่อสารมากกว่า เพราะตอนนี้ชัดเจนว่ากระทรวงฯ ไม่ได้มีความห่วงใยกับประชาชนจริง คงมีการยกเลิกประกาศปลดล็อกกัญชาไปแล้ว
ยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่าย YNAC ยังเชื่อว่าโอกาสที่พรรคการเมืองเดิม จะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งคงเป็นไปได้ยาก และเชื่อว่าหากพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง และได้เข้ามาดูแลกระทรวงสาธารณสุข อาจจะมีการไล่เช็กบิลเอาผิดข้าราชการและนักการเมืองที่ปล่อยปละละเลยให้มีการปลดล็อกกัญชา ทั้งที่ไม่มีกฎหมายควบคุมที่ดี ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวงฯ ออกมาชี้เเจงในประเด็นข้างต้นโดยเร็ว ซึ่งเครือข่ายจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการยื่นฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ต่อไป ย้ำว่าจุดยืนของเครือข่ายคือการผลักดันให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เพราะแม้จะไม่มีการปลดล็อกกัญชา แต่ก็มีกฎหมายที่รองรับให้นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ได้ โดยการใช้กัญชาจะอยู่ภายใต้การพิจารณาของแพทย์เท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ประสานงานเครือข่าย YNAC ยังบอกว่าทางกลุ่มขอสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ที่ออกมาต่อต้านนโยบายกัญชาและรณรงค์ไม่เลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนนโยบายกัญชา และคาดว่าทางกลุ่มจะมีโอกาสออกไปเคลื่อนไหวต่อต้านกัญชาร่วมกันกับชูวิทย์ สักครั้ง เนื่องจากชูวิทย์ เป็นเหมือนไอดอลในเรื่องนี้ และยังมีพลังในการสื่อสารมากกว่า เพราะตอนนี้ชัดเจนว่ากระทรวงฯ ไม่ได้มีความห่วงใยกับประชาชนจริง คงมีการยกเลิกประกาศปลดล็อกกัญชาไปแล้ว