โคตรปืนใหญ่! เป้าหมายเดิมของ อาร์เซนอล กับการล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก

ปืนใหญ่…แพ้ภัยตัวเอง 

ฤดูกาล 2022/23 คือปีที่อาร์เซนอลเข้าใกล้การกลับมาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2015/16 ที่ตอนนั้นพวกเขาได้รองแชมป์ ตามหลังเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นแชมป์อยู่ 10 คะแนน และเป็นปีที่ฟอร์มในช่วงออกสตาร์ทจนถึงกลางฤดูกาลใกล้เคียงกับปีที่ อาร์แซน เวนเกอร์ พาทีมเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายมากๆ หลังจากที่ มิเกล อาร์เตต้า ใช้เวลาลองผิดลองถูก บวกกับบ่มเพาะประสบการณ์ของนักเตะดาวรุ่งอยู่ประมาณ 3 ฤดูกาล จนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางสุดๆ ในซีซันที่ 4 ของเขากับทีม เพียงแต่ว่าตอนท้ายพวกเขากับมาแพ้ภัยตัวเอง จากการยืนระยะไม่อยู่ พอดิบพอดีกับที่ทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กลับมาคืนฟอร์มสุดยอดได้ในช่วงปลาย หลังจากที่นักเตะตัวหลักทยอยหายจากอาการบาดเจ็บ ได้นักเตะที่ดีที่สุดมาใช้งาน และยิ่งถ้ามาดูสถิติบนตารางคะแนนตอนจบซีซันยิ่งน่าเสียดาย เพราะมันดันคล้ายกับปีไร้พ่ายซะเหลือเกิน ชนะเท่ากันที่ 26 นัด แตกต่างกันตรงที่ความพ่ายแพ้ของปีนี้ 6 นัด ทำให้สุดท้ายพลาดแชมป์ไปแบบน่าเจ็บใจมากๆ 

จบมหากาพย์น้องข้าว…ดีแคลน ไรซ์ 

การเสริมทัพที่ฮือฮาที่สุดของทัพ ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ในฤดูกาลใหม่นี้คงหนีไม่พ้นการได้ตัว ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ตัวรับอนาคตไกลของทีมชาติอังกฤษมาด้วยค่าตัวสถิติสโมสรที่ 117.4 ล้านยูโร แถมยังเป็นการย้ายตัวในประเทศของนักเตะอังกฤษที่แพงที่สุดอันดับสองรองจาก แจ็ค กรีลิช ที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย นอกจากนี้ทีมดังจากลอนดอนเหนือยังเสริมทัพในระดับคุณภาพอีกหลายตำแหน่งที่พวกเขาตามหาทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ย้ายมาจากเชลซีด้วยค่าตัว 71 ล้านยูโร, ดาบิด รายา ผู้รักษาประตูฟอร์มแรงที่ยืมตัวมาจากเบรนท์ฟอร์ด และ ยูเลี่ยน ทิมเบอร์ ปราการหลังตัวใหม่ที่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร ซึ่งรายสุดท้ายย้ายมาแล้วทำผลงานได้ดีในตำแหน่งแบ็คซ้าย ตั้งแต่ช่วงพรีซีซันจนถึงนัดเปิดฤดูกาลกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่ดันมาโชคร้ายสุดๆ เพราะได้รับอาการบาดเจ็บหัวเข่ารุนแรงในเกมเดียวกัน จนต้องพักยาวอาจจะกลับมาลงสนามได้อีกทีก็ปลายเดือนมกราคมปีหน้าเลย ตรงนี้ก็คงต้องมารอดูกันว่าก่อนปิดตลาด อาร์เตต้า และ อาร์เซนอล จะขยับหาตัวแทนมาอุดรอยรั่วได้หรือเปล่า 

ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก…เป้าหมายเดิมของ ‘ปืนใหญ่’ 

หลังจากชวดแชมป์ลีกไปเมื่อปีที่แล้ว แน่นอนว่าปีนี้เป้าหมายเดิมของ มิเกล อาร์เตต้า ก็น่าจะยังเป็นการพาอาร์เซนอล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้สักทีเหมือนเดิม เพราะถ้าดูจากผลงานตั้งแต่ช่วงอุ่นเครื่องพรีซีซัน พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีมากๆ ลงเล่นไป 5 นัด แพ้ดวลจุดโทษต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเพียงแค่นัดเดียว ต่อเนื่องด้วยการเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เวมบลีย์ ในเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ ไปได้ด้วยการดวลลูกจุดโทษ แต่ก็มาพร้อมกับอาถรรพ์ที่ว่าทีมที่คว้าแชมป์โล่การกุศลได้ จะจบด้วยการพลาดแชมป์ลีก ต้องมารอดูกันว่าสุดท้ายพวกเขาจะลบล้างคำสาปนี้ได้ไหม 

ตัดภาพมาหลังเปิดฤดูกาล อาร์เซนอล ทำผลงานได้อย่างสวยงามตั้งแต่นัดแรก เมื่อพวกเขาเปิดบ้านเฉือนน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป 2-1 ต่อด้วยการบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเลซ ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ 0-1 แต่นัดล่าสุด ลูกทีมของอาร์เตต้าก็เหมือนมาเจอฝันร้ายในช่วงท้ายซีซันก่อนตั้งแต่ไก่โห่ เริ่มจากการผิดพลาดง่ายๆ ในช่วงต้นเกมที่ บูกาโย ซากา จ่ายพลาดง่ายๆ จนโดนยิงขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของเกม และแม้พวกเขาจะแซงขึ้นนำได้ แต่ก็มาโดนยิงตีเสมอในช่วงท้ายเกม เก็บได้แค่คะแนนเดียวในบ้าน คล้ายๆ กับช่วงท้ายของปีที่แล้ว ที่ไปสะดุดพลาดเสมออยู่บ่อยๆ  

สุดท้ายก็คงต้องมารอดูกันว่า มิเกล อาร์เตต้า จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้อาร์เซนอลได้ดีขนาดไหน และจะพัฒนาแทคติกให้ไล่ตามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทันตลอดฤดูกาลหรือเปล่า เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือยอดโค้ชที่มีการขยับปรับปรุงทีมของตัวเองมากกว่าทีมอื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ ซึ่งถ้าอดีตลูกศิษย์เป๊ปทำได้ ก็น่าลุ้นเหมือนกันว่าทัพ ‘ปืนใหญ่’ อาจจะมีโอกาสกลับมาคว้าแชมป์ลีกที่พวกเขารอคอยได้สักที