บาเยิร์น จะคว้าแชมป์ 12 สมัยติด หรือ ดอร์ทมุนด์ จะหยุดการผูดขาดแชมป์ลีก

18 สิงหาคม 2566 - 09:55

2023-2024-Bundesliga-preview-SPACEBAR-Thumbnail
  • เตรียมกลับมาเปิดฤดูกาลใหม่กันแล้วในค่ำคืนนี้สำหรับศึก บุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนี ที่เตรียมจะคิกออฟนัดเปิดซีซันในคืนนี้

  • และไหนๆ ก่อนบอลจะเริ่มฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เราก็เลยขอมาพรีวิวกันหน่อยว่าปีนี้ใครมีโอกาสเข้าป้ายคว้าแชมป์บ้าง

เตรียมกลับมาเปิดฤดูกาลใหม่กันแล้วในค่ำคืนนี้สำหรับศึก บุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนี ที่เตรียมจะคิกออฟนัดเปิดซีซันในคืนนี้ โดยคู่แรกเป็น ‘นกนางนวล’ แวร์เดอร์ เบรเมน ที่จะเปิดบ้าน เวเซอร์ สตาดิโอน ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่า ‘เสือใต้’ บาเยิร์น มิวนิค ที่เตรียมมาล่าแชมป์ลีกสมัยที่ 12 ติดต่อกัน หลังจากได้ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษเข้ามาผลิตสกอร์ และไหนๆ ก่อนบอลจะเริ่มฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เราก็เลยขอมาพรีวิวกันนิดหน่อยว่า บาเยิร์น จะมาแรงเข้าป้ายคว้าแชมป์ได้เหมือนเดิม หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะร่วมแรงร่วมใจกันหยุดผูกการขาดแชมป์ลีก หรือจะเป็น แอร์เบ ไลป์ซิก ที่มาเป็นม้ามืดขึ้นมาสอดแทรกแย่งแชมป์ได้ในปีนี้ 

เสริมทีมโหด พร้อมล่าแชมป์ลีกสมัยที่ 12 ติดต่อกัน 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2NcvLfboppmEtoMimeW6Xr/fa76a886cbd6f2b54506b71ae560b561/2023-2024-Bundesliga-preview-SPACEBAR-Photo01
เริ่มกันที่ ‘เสือใต้’ บาเยิร์น มิวนิค ที่จบฤดูกาลที่แล้วด้วยการคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 33 ของสโมสร และเป็นสมัยที่ 11 ติดต่อกันเข้าไปแล้ว โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซัน สโมสรตัดสินใจปลด ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ออกจากตำแหน่ง และตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีมแทน ซึ่งในนัดสุดท้ายของฤดูกาลก็เกือบมีดราม่าเมื่อพวกเขาโดน เอฟซี โคโลญจน์ ตีเสมอในช่วงท้ายเกม ก่อนจะมาได้ประตูชัยจาก จามาล มูเซียล่า ทำให้ทีมจบที่ 71 คะแนน เท่ากับ ดอร์ทมุนด์ ที่ก็ไปพลาดท่าเสมอ ไมนซ์ แต่ยังดีที่ลูกได้เสียดีกว่าคู่แข่งเยอะ แล้วเชื่อว่าทั้งทางแฟนบอลและ ทูเคิ่ล เองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าต้องขอบคุณผลงานของ นาเกลส์มันน์ ที่ยิงประตูทีมอื่นถล่มทลายตุนไว้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล เลยทำให้พวกเขาดีพอที่จะเป็นแชมป์ลีกได้ในที่สุด ซึ่งก็แน่นอนว่า ทูเคิ่ล เองก็อยากทำให้ซีซันใหม่นี้เป็นการได้แชมป์ที่เพอร์เฟคต์และคู่ควรจริงๆ ของพวกเขา 

สำหรับการเสริมทัพเพื่อต้อนรับฤดูกาลใหม่ พวกเขาเซ็นสัญญา คิม มิน-แจ กองหลังฟอร์มแรงจากนาโปลี และ คอนราด ไลเมอร์ จากไลป์ซิก เข้ามาขันเกมรับของพวกเขาให้ดีขึ้น แม้ว่าเฮดโค้ชชาวเยอรมันจะต้องการกลางรับแท้ๆ อีกตำแหน่ง แต่ถึงจะไม่ได้ ทีมก็ยังมี โจชัว คิมมิช ที่เล่นตำแหน่งเบอร์ 6 ให้ทีมมาตลอดและทำได้ดีมากๆ อยู่แล้ว 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4iFbVxVEh3jyG6BQ5CcF42/e45680146d1624891f3d483477f504de/2023-2024-Bundesliga-preview-SPACEBAR-Photo_V01
นอกจากนี้ปัญหาหลักๆ ของทีมในปีที่ผ่านมาคือการขาดกองหน้าตัวเป้าที่ไว้ใจได้ หลังจากเสีย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไปให้ บาร์เซโลนา เพราะถึงแม้ทีมจะยิงไปได้ถึง 92 ประตู แต่ก็เป็นจำนวนน้อยที่สุดที่ทำได้ใน 4 ฤดูกาลหลังสุด ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจจ่ายเงินประมาณ 120 ล้านยูโร เพื่อดึงตัว แฮร์รี่ เคน เข้ามาแก้ปัญหานี้ ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าศูนย์หน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ จะใช้เวลาปรับตัวกับการลงเล่นนอกลีกนานขนาดไหน ถ้าจูนกันติดเร็วบวกกับแทคติกสุดเข้มข้นของทูเคิ่ล และไม่พลาดกันง่ายๆ ก็เชื่อว่า ‘เสือใต้’ จะคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 12 ติดต่อกันมาครองได้ไม่ยากแน่นอน 

เสือเหลืองอกหัก…พลาดทั้งแชมป์ แถมเสีย จู๊ด เบลลิงแฮม 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/68wsrYEBV44qUXbLDWgENC/ef11c1884d72b1e9ec1b40bd29ec35d0/2023-2024-Bundesliga-preview-SPACEBAR-Photo02
ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับทัพ ‘เสือเหลือง’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ต้องมาพลาดท่าทำได้เสมอกับไมนซ์ ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล อดคว้าแชมป์ลีกไปเพียงเพราะประตูได้เสียน้อยกว่า บาเยิร์น มิวนิค แถมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ พวกเขายังต้องเสีย จู๊ด เบลลิงแฮม ไปให้กับ ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด หลังจากที่มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษอยู่ค้าแข้งกับสโมสรมานานถึง 3 ปี ซึ่งเจ้าตัวก็พัฒนาฝีเท้าของตัวเอง จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของยุโรปเวลานี้ รวมไปถึงการเสีย ราฟาเอล เกร์เรโร่ แบ็คซ้ายตัวเก่งไปให้คู่แข่งอย่าง บาเยิร์น ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่พวกเขาต้องพบเจอ 

หลังจากเสีย เบลลิงแฮม ทีมก็เสริมทัพด้วยการเติมกองกลางเข้ามาใหม่ 2 คน คือ เฟลิกซ์ เอ็นเมชา และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้อีกว่าสองคนที่ได้มา ผลงานยังไม่โดดเด่นเท่ากับสิ่งที่ เบลลิงแฮม ทำไว้ให้กับทีม เช่นเดียวกันกับตำแหน่งแบ็คซ้ายที่ได้ รามี่ เบนเซไบนี่ กองหลังทีมชาติแอลจีเรีย มาแบบฟรีๆ จาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่ต้องมาดูกันอีกทีว่าจะทดแทนการขาดหายไปของ ราฟาเอล เกร์เรโร่ ได้หรือเปล่า 

ทำให้ปีนี้งานหนักน่าจะอยู่ที่ เอดิน แทร์ซิช เฮดโค้ชของทีมว่าจะปรับจูนทีมยังไงให้เข้าที่เข้าทางเพื่อลุ้นแชมป์ลีก โดยเฉพาะแผงมิดฟิลด์ที่เสียหัวใจสำคัญไป เพื่อสนับสนุนคนอื่นๆ ในตำแหน่งเกมรุก โดยหน้าที่นี้ในซีซันใหม่น่าจะกลายเป็นของ ยูเลียน บรันด์ท กองกลางตัวรุกที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ดีมากๆ ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาจะต้องคอยสร้างสรรค์เกมรุกให้กับ คาริม อเดเยมี่ และ ศูนย์หน้าตัวเก่งอีกรายอย่าง เซบาสเตียน อัลแลร์ ที่หายป่วยจากการเป็นมะเร็ง และกำลังเร่งให้ตัวเองกลับมาอยู่ในจุดเดิม ซึ่งแฟนบอลก็เริ่มเห็นฟอร์มเดิมของเขาแล้วในช่วงท้ายของฤดูกาล คงต้องมารอดูกันว่า แทร์ซิช จะทำได้ดีแค่ไหน และที่สำคัญคือไวขนาดไหน เพราะถ้าช้าอาจจะหมดลุ้นตั้งแต่ไก่โห่ 

แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมที่เสียสตาร์ไปแทบทุกปี แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงสุด 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/70Jsy8CLVsVx19Z1l7Tagk/aa930fb0a05b1acd84ac0033fffda80d/2023-2024-Bundesliga-preview-SPACEBAR-Photo03
ปฏิเสธไม่ได้ว่า แอร์เบ ไลป์ซิก แชมป์เดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ ทีมล่าสุดคือทีมที่มักจะเสียผู้เล่นระดับสตาร์ไปแทบจะทุกปี แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดได้ในทุกปีเช่นกัน เพราะถ้าย้อนไปตั้งแต่พวกเขาเสีย นาบี เกอิต้า ไปเมื่อปี 2018 ทีมก็ยังจบในอันดับที่ 3 ในลีกได้ เช่นเดียวกับตอนเสีย ติโม แวร์เนอร์ ไปให้เชลซีในปี 2020 พวกเขาก็ยังก้าวขึ้นมาจบรองแชมป์ได้อีก และในปีนี้ก็เป็นอีกปีที่สโมสรเสียนักเตะดังๆ ไปหลายคนทั้ง ยอสโก้ กวาดิโอล, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, โดมินิก โซบอสไล และ คอนราด ไลเมอร์ ต้องมารอดูกันว่า ไลป์ซิก จะยืนอยู่ในจุดสูงสุดได้เหมือนทุกปีไหม 

ในฝั่งของการเสริมทัพ สโมสรดึงตัวผู้เล่นใหม่เข้าทีมมาค่อนข้างเยอะ เริ่มตั้งแต่ เอล ชาเดลล์ บิตเชียบู ปราการหลังดาวรุ่งวัย 18 ปี ที่เข้ามาทดแทนการขาดหายไปของ กวาดิโอล ต่อด้วย โลอิส โอเพนดา และ เบนจามิน เซสโก้ สองกองหน้าตัวใหม่ รวมไปถึงกองกลางตัวรุกอย่าง คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์, ซาบี ซิมอนส์ และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ เข้ามาผนึกกำลังในแนวรุกร่วมกับ ดานี โอลโม่ และ ติโม แวร์เนอร์  

ด้วยการที่ทีมเสียตัวหลักไป และดึงผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเยอะ ทำให้ปีนี้ มาร์โค โรเซ่อ อาจจะต้องรีบปรับจูนทีมขนานใหญ่ ถ้าอยากจะลุ้นแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาในแผงหลังที่ในซีซันที่แล้วพลาดง่ายๆ กันค่อนข้างเยอะ เพราะถ้าเริ่มต้นช้ากว่าทีมอื่นๆ แอร์เบ ไลป์ซิก อาจจะทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 3 หรือไม่ก็รองแชมป์เหมือนเดิม 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์