สิงห์บลูส์วัยสะรุ่น! ภารกิจคืนความสุขให้แฟนบอลโดย เมาริซิโอ โปเช็ตติโน

26 สิงหาคม 2566 - 10:15

2023-2024-Chelsea-preview-SPACEBAR-Thumbnail
  • ฤดูกาลที่ผ่านมาของทัพ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ ถือเป็นปีสุดอาภัพของแฟนบอลเชลซี แย่ถึงขนาดที่ว่าในหนึ่งซีซัน พวกเขาใช้เฮดโค้ชไปถึง 4 คน จบซีซันด้วยอันดับ 12 ไม่ได้ไปเล่นบอลยุโรปสักถ้วย กลายเป็นฤดูกาลที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกของประวัติศาสตร์สโมสร

  • มาซีซันนี้ทีมได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือมากประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกเข้ามาคุมทีม ‘สิงโตนน้ำเงินคราม’ เวอร์ชั่นใหม่นี้ จะไปได้ไกลขนาดไหน

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4WkXlxhpKsMBbWbtdOfIzj/b4f3670a83be7b2f72ce8cae40d8f7d7/2023-2024-Chelsea-preview-SPACEBAR-Photo01
ฤดูกาลที่ผ่านมาของทัพ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ ถือเป็นปีสุดอาภัพของแฟนบอลเชลซี แย่ถึงขนาดที่ว่าในหนึ่งซีซัน พวกเขาใช้เฮดโค้ชไปถึง 4 คน เริ่มตั้งแต่ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันที่เคยพาทีมคว้าแชมเปียนส์ ลีก ได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาคุม มีปัญหากับ ท็อดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของสโมสรคนใหม่ บวกกับผลงานการคุมทีมที่ย่ำแย่นิดๆ ทำให้เจ้าตัวโดนปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นทีมก็แต่งตั้ง แกรห์ม พอตเตอร์ โค้ชฟอร์มแรงที่พาไบรท์ตันบินสูงเข้ามาคุมทีมแทน แรกๆ เหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็เหลวไม่เป็นท่า โดยกุนซือเวทมนตร์ คุมทีมทั้งหมด 31 นัด ชนะ 12 เสมอ 8 แพ้ 11 ทำทีมจมอยู่อันดับ 11 ของพรีเมียร์ลีก หมดลุ้นท็อปโฟร์ไปแล้วเรียบร้อย นอกจากนี้ฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้ง เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ ก็จอดป้ายแค่รอบ 3 สร้างความทรมานให้แฟนบอลสุดๆ จนสุดท้ายเขาก็โดนไล่ออกกลับไปอยู่ฮอกวอตส์ พอพอตเตอร์โดนปลด ทีมก็แต่งตั้ง บรูโน่ ซัลตอร์ เข้ามาคุมทีมชั่วคราว 1 นัด และไปดึง แฟรงค์ แลมพาร์ด ศิษย์ก้นครัวของสโมสรที่เคยรับหน้าที่คุมทีมมาแล้ว กลับมาทำงานอีกหน แต่คราวนี้มันไม่สวยงามเหมือนหนแรก เพราะสุดท้าย ‘ซูเปอร์แฟรงค์’ ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เชลซี จบซีซันด้วยอันดับ 12 ไม่ได้ไปเล่นบอลยุโรปสักถ้วย กลายเป็นฤดูกาลที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกของประวัติศาสตร์สโมสร 

ทีมจะรวย…ช่วยไม่ได้

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4i8ss6fktgfVhgch558wew/64fd7fab3fb9b5dfc2e8630faaa19aad/2023-2024-Chelsea-preview-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2lgJA5jdyXQbP0tZ62ivis/23f8d2dd495708536c7962bb2f81d5a2/2023-2024-Chelsea-preview-SPACEBAR-Photo03
ใครที่ติดตามเชลซีในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะกันมาบ้าง จะเห็นว่าตั้งแต่ ท็อดด์ โบห์ลีย์ เข้ามาเป็นเจ้าของคนใหม่ของสโมสร เขาลงทุนซื้อนักเตะไปแล้วมากมายหลายคน แต่ละคนก็มีค่าตัวไม่ธรรมดา ไล่ตั้งแต่ดาวรุ่งไปจนระดับสตาร์ดัง เพราะในช่วงสามตลาดนักเตะที่ผ่านมา โบห์ลีย์ ควักเงินเสริมทัพให้เชลซีไปแล้วราวๆ เกือบ 1 พันล้านยูโร อย่างล่าสุดก็เพิ่งไปดึง มอยเซส ไคเซโด้ ที่เป็นมหากาพย์การซื้อขายของช่วงซัมเมอร์นี้มาด้วยค่าตัว 128.6 ล้านยูโร และช่วงต้นปีก็เพิ่งไปซื้อ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มาจากเบนฟิก้าด้วยค่าตัว 120.8 ล้านยูโร นี่ยังไม่รวมบรรดาดาวรุ่งทั้งหลายแหล่ที่ค่าตัวแต่ละคนก็สตาร์ทต่ำๆ ที่ประมาณ 15 ล้านยูโร เรียกว่าโปรยเงินแบบไม่กลัวผิดกฎการเงิน FFP (Financial Fair Play) กันเลยทีเดียว โดยการเสริมทัพซีซันนี้ นอกจาก ไคเซโด้ แล้ว ทีมก็ยังได้นักเตะดังๆ มาอีกหลายคน เช่น คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, นิโคลัส แจ็คสัน, อักเซล ดิซาซี่, โรเบิร์ต ซานเชส และ โรเมโอ ลาเวีย 

สิงห์บลูส์วัยสะรุ่น! ภารกิจคืนความสุขให้แฟนบอลโดย เมาริซิโอ โปเช็ตติโน

ต้องบอกว่าการเข้ามาของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ตอนแรกๆ แฟนบอลก็มีเสียงวิจารณ์กันบ้างว่า ทำไมถึงเอากุนซือที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกเข้ามาคุมทีม แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็รับได้ เพราะคิดว่าอย่างน้อยๆ ประสบการณ์ที่อดีตโค้ช ‘ไก่เดือยทอง’ มีก็คงทำให้ทีมไม่แย่ไปกว่าฤดูกาลที่แล้วแน่นอน ซึ่งผลงานในช่วงพรีซีซันของทัพ ‘สิงห์บลูส์’ ก็ทำได้ไม่เลวเลย พวกเขาลงอุ่นเครื่องไป 5 เกม ไม่แพ้ใครเลย ชนะไปทั้งหมด 3 นัด และเสมออีก 2 นัด 

พอถึงวันเปิดฤดูกาลที่เปิดบ้าน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจอกับ ลิเวอร์พูล แฟนบอลหลายคนก็เห็นได้เลยว่า พอช เข้ามาเปลี่ยนทีมไปมากพอสมควร เริ่มตั้งแต่สไตล์การเล่นที่แปลกไปจากเดิม ไม่มีอีกแล้วกับการตั้งรับเพื่อรอสวนกลับเมื่อเจอทีมใหญ่ๆ เพราะหนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายครองบอลใส่คู่แข่ง มีโอกาสทำประตูดีๆ อยู่หลายครั้ง จนสุดท้ายก็จบด้วยผลเสมอ 1-1 เก็บแต้มแรกได้ในนัดบิ๊กแมตช์เปิดซีซัน และนัดถัดมาก็ยังเหมือนเดิม เมื่อทีมบุกไปเยือน เวสต์แฮม ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ ทางด้านเชลซีก็บุกใส่เจ้าบ้านเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่วันนั้นเหมือนอะไรๆ ก็ไม่เป็นใจ เพราะพวกเขามีโอกาสขึ้นนำ แต่ เอ็นโซ่ มิดฟิลด์ตัวแบกก็ดันมายิงจุดโทษพลาด แล้วมาโดนยิงแซงในช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนที่กองกลางค่าตัวแพงอย่าง ไคเซโด้ ก็มาเดบิวต์แบบฝันร้ายสุดๆ ด้วยการทำเสียจุดโทษ จนสุดท้ายทีมแพ้ไป 3-1 ยังหา 3 แต้มแรกไม่เจอ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/dIIL1vwOLMhPb8MD94N7z/66f99cc0a7aa9c5c30c0f0b3e86950b9/2023-2024-Chelsea-preview-SPACEBAR-Photo04
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2Kn1pKjNRlbXUu3BwTVFQ7/638c14375541a9a4ef41d0a7041fa940/2023-2024-Chelsea-preview-SPACEBAR-Photo05
แต่ในนัดล่าสุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เชลซี ก็เก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ เมื่อทำการเปิดบ้านเอาชนะน้องใหม่อย่าง ลูตัน ทาวน์ ไปอย่างสวยงาม 3-0 เก็บ 3 คะแนนแรกในฤดูกาลนี้ได้สักที โดยจากภาพรวม 3 เกมที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทีมมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มตั้งแต่สปิริตของทีมที่ทุกคนดูมีชีวิตชีวาในการเล่นมากขึ้น แท็คติกที่ดูเป็นรูปเป็นร่าง ทั้งการครองบอล โอกาสการเข้าทำ เหลือเพียงแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังมีให้เห็น ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาปรับแก้กันต่อไป และที่ยอดเยี่ยมมากๆ ก็คือ ไม่รู้ว่าพอชไปใช้คาถาไหนปลุก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ช่วงหลังฟอร์มออกทะเล ให้กลับมาเล่นดีมากๆ เหมือนตอนช่วงพีคของเขาได้อีกรอบ โดยนัดล่าสุดเขายิงไปถึง 2 ประตู  

หลังจากนี้ก็คงต้องมารอดูกันว่า เชลซี ในเวอร์ชั่นของผู้เล่นวัยรุ่น ที่ 11 ตัวจริงมีอายุเฉลี่ยแค่ราวๆ 25 ปี กับการทำทีมของ โปเช็ตติโน จะเป็นอย่างไรบ้างในซีซันนี้ พอช จะคืนความสุขให้แฟนบอล ‘สิงห์บลูส์’ ได้อย่างถาวรไหม ‘เวลา’ เท่านั้นคือคำตอบครับ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์