สาลิกาดงเอาจริง! ซีซันใหม่ที่น่าจับตามองของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

7 ส.ค. 2566 - 10:00

  • หลังจากที่ ‘สาลิกาดง’ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จบฤดูกาลที่แล้วด้วยผลงานสุดยอดเยี่ยมในอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ส่งให้พวกเขากลับไปเล่นบอลยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

  • มาในปีนี้ก่อนบอลจะเปิดม่านซีซันใหม่อีกครั้ง เราจะพาไปพรีวิวกันว่า พวกเขามีความพร้อมอย่างไรกันบ้าง จะน่าจับตามองเหมือนที่ใครๆ บอกกันไว้ไหม

2023-2024-Newcastle-United-preview-SPACEBAR-Hero
หลังจากที่ ‘สาลิกาดง’ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จบฤดูกาลที่แล้วด้วยผลงานสุดยอดเยี่ยมในอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ส่งให้พวกเขากลับไปเล่นบอลยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี มาในปีนี้ก่อนบอลจะเปิดม่านซีซันใหม่อีกครั้ง เราจะพาไปพรีวิวกันว่า พวกเขามีความพร้อมอย่างไรกันบ้าง จะน่าจับตามองเหมือนที่ใครๆ บอกกันไว้ไหม 

เอ็ดดี้ ฮาว ชายที่เข้ามาปลุกยักษ์หลับแห่งพรีเมียร์ลีก 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1KrTWn3aJbp66qVlE6flW2/257445ee666b3044dfb2e214cdf7a128/2023-2024-Newcastle-United-preview-SPACEBAR-Photo01
Photo: AFP
หลังจากที่ทัพ ‘สาลิกาดง’ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ทาง ‘พับลิค อินเวสต์เมนท์ ฟันด์’ กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ก็ทำให้แฟนบอลของทีมหลุดพ้นอาถรรพ์ในยุคของ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมขี้ตืดที่โดนสาปส่งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และพร้อมกันนั้นยังได้ทำการแต่งตั้ง เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามารับหน้าที่กุนซือใหญ่ของทีมยุคใหม่ด้วย ซึ่งเพียงแค่ซีซันแรก ฮาว ก็เริ่มเปลี่ยนโฉม นิวคาสเซิล จากทีมที่ชนะใครไม่เป็น 11 นัดในลีก ให้จบอันดับ 11 อยู่รอดในลีกได้แบบสบายๆ แถมยังนำปรัชญาการเล่นที่รัดกุมเข้ามาใช้ โดยแท็คติกของเขาคือ ความชัวร์ต้องมาก่อนเสมอ ชัยชนะสำคัญที่สุด แต่ถึงจะไม่ชนะ อย่างน้อยต้องไม่แพ้ และที่สำคัญเลยคือเขากล้าเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะอย่าง โจเอลลิงตัน ศูนย์หน้าบราซิล ที่ปืนฝืดตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ให้กลายเป็นกองกลางสารพัดประโยชน์ คอยช่วยเหลือทีมตั้งแต่ไล่บอลไปจนถึงการเชื่อมเกม ทำให้ซีซันที่ผ่านมากลายเป็นปีที่เจ้าตัวทำผลงานได้ดีที่สุดตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม เหมือนเกิดใหม่ไปเลย  

โดยในฤดูกาลที่แล้ว นิวคาสเซิล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในบอลลีกและบอลถ้วย สำหรับบอลถ้วยในประเทศรายการเล็กอย่าง คาราบาว คัพ พวกเขาไปได้ไกลถึงนัดชิงชนะเลิศ น่าเสียดายที่ล้ม แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ไหว จบแค่รองแชมป์ แต่ในพรีเมียร์ลีก ต้องบอกว่าหรูจนหาคำบรรยายไม่ถูก เพราะทีมจบอันดับที่ 4 ได้ผ่านเข้าไปเล่นบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี นอกจากนี้จากแท็คติกรัดกุมของ เอ็ดดี้ ฮาว ยังทำให้ทีมเสียประตูน้อยที่สุดในลีก ร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ที่จำนวน 33 ประตู 

ถึงจะรวย…แต่ไม่ซื้อมั่ว 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/urZVMvhBGJMo1ngYsihvG/289e4dd082c6a66f1a27e826aeb42d20/2023-2024-Newcastle-United-preview-SPACEBAR-Photo02
Photo: AFP
อย่างที่บอกไปแล้วว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ทาง ‘พับลิค อินเวสต์เมนท์ ฟันด์’ กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรรายใหม่ โดยกลุ่มทุนนี้มีเจ้าของเป็นถึงราชวงศ์ซาอุฯ อย่าง เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ว่ากันว่ามีทรัพย์สินมากกว่าเจ้าของทีม แมนฯ ซิตี้ ถึง 10 เท่า แต่ถึงจะรวยเบอร์นี้ ทีมของ ฮาว ก็ไม่ได้ใช้เงินแบบขาดสติ พวกเขาวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม เลือกนักเตะให้ชัวร์ก่อนจะซื้อเสมอ โดยปีแรกพวกเขาใช้เงินไปราวๆ 90 ล้านปอนด์ ก่อนที่ในซีซันที่แล้วจะลงทุนไปอีก 171 ล้านปอนด์ พอเอามารวมอาจจะดูเยอะ แต่ถ้าติดตามผลงานจริงๆ จะเห็นว่าทุกคนใช้งานได้หมด ไล่มาตั้งแต่ คีแรน ทริปเปียร์, บรูโน่ กิมาไรส์, แดน เบิร์น, นิค โป๊ป, สเวน บอตแมน, อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ แอนโธนี กอร์ดอน ซึ่งก็ครอบคลุมหลายอย่างทั้ง อายุน้อยกว่า 25 ปี ยังเล่นได้อีกนาน หรือ คนที่จะเป็นตัวหลักช่วยทีมยืนระยะได้อีกอย่างน้อยๆ 3-4 ฤดูกาล 

สำหรับงบเสริมทัพของ ‘สาลิกาดง’ สู้ศึก พรีเมียร์ลีก ซีซันใหม่ ประกาศไว้ว่าจะใช้เงินไม่เกิน 80 ล้านปอนด์เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา กฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ (Financial Fair Play) ที่กำลังเป็นปัญหากับหลายๆ ทีมอยู่ ซึ่งอาจจะน้อยไปหน่อยถ้าอยากจะลุ้นแชมป์กับบรรดาบิ๊กทีม แต่งบก็สามารถเพิ่มได้เช่นกัน หากปล่อยนักเตะบางคนออกไปจากทีมได้ โดยตอนนี้พวกเขาก็ปล่อย อัลแล็ง แซงต์-แม็กซิงแมง, คริส วู้ด และ คาร์ล ดาร์โลว์ ได้เงินมาทั้งหมดราวๆ 40 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับตัวที่พวกเขาซื้อเข้ามาใหม่อย่าง ซานโดร โตนาลี (55 ล้านปอนด์), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (38 ล้านปอนด์) และ ยานคูบ้า มินเตห์ (7 ล้านปอนด์) สามคนรวมกัน 100 ล้านปอนด์ ยังเหลืองบให้ใช้อีกประมาณ 20 ล้านปอนด์ จนกว่าจะปิดตลาด
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3DtZUegUyIychKnH8XGdpd/ad6cb716c65dd6803b120df017dc8574/2023-2024-Newcastle-United-preview-SPACEBAR-Photo_V01
ส่วนคนที่ซื้อมาแล้วน่าสนใจคนแรกก็คือ ซานโดร โตนาลี มิดฟิลด์ตัวรับวัย 23 ปี เจ้าของฉายา ‘นิวปีร์โล่’ โดย โตนาลี ย้ายมาจากทีม ‘ปีศาจแดงดำ’ เอซี มิลาน ด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของนักเตะอิตาลี ซึ่งเจ้าตัวได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกลางอนาคตไกลของทีมชาติอิตาลี ด้วยฝีมือการเล่นฟุตบอลเกมรับที่ยอดเยี่ยม แถมยังเข้ากับแท็คติกสุดรัดกุมของ เอ็ดดี้ ฮาว ได้เป็นอย่างดี และนอกจากเกมรับอันโดดเด่นแล้ว โตนาลี ยังมีส่วนร่วมในเกมรุกค่อนข้างดีอีกด้วย โดยถ้านับตั้งแต่ตอนอยู่ เบรสชา เขาลงเล่นไป 89 นัด ยิงได้ 6 ประตู แอสซิสต์ไปอีก 16 ลูก ส่วนกับ มิลาน ลงเล่นไป 130 นัด ยิงไป 7 ประตู กับอีก 13 แอสซิสต์ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5zOnVIOabHWhq4cublo6pI/3dc4ffe9b49250c45d60c7a9ecefb4c4/2023-2024-Newcastle-United-preview-SPACEBAR-Photo03
อีกคนคือ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปีกซ้ายฟอร์มดีที่ย้ายมาจาก ‘จิ้งจอกสยาม’ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องตกชั้นไปเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพ บาร์นส์ ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวราวๆ 38 ล้านปอนด์ เรื่องฝีเท้าอาจจะไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายด้วย ใครที่ติดตามพรีเมียร์ลีกกันอยู่แล้วน่าจะเห็นว่าปีกซ้ายวัย 25 ปี มีลีลาการเล่นเกมรุกที่จัดจ้าน ทั้งการลากเลื้อยพาบอลไปกับตัว รวมไปถึงจะยิงก็ได้ จะจ่ายบอลก็ดี โดยซีซันที่แล้วเขาลงเล่นไปทั้งหมด 34 นัด ยิง 13 ประตู แอสซิสต์ 1 ลูก และสถิติรวมทั้งหมดกับ เลสเตอร์ ลงเล่นไป 187 นัด ยิงไป 45 ประตู กับอีก 32 แอสซิสต์ 

รุกดี รับแน่น ปีที่น่าจับตามองของ นิวคาสเซิล 

หลังจากที่บอกไปว่าปรัชญาการทำทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว คือต้องชัวร์ไว้ก่อน แต่ถึงจะรัดกุมขนาดไหน เกมรุกของพวกเขาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่อะไร เพราะจำนวนประตูที่ทีมผลิตได้ในลีกซีซันที่แล้วก็มากถึง 68 ประตู เยอะกว่าจำนวนประตูที่เสียน้อยสุดในลีกเกิน 2 เท่า ต้องบอกว่าค่อนข้างเป็นไปในทางที่สมดุล เหมือนกับ ฮาว และ นิวคาสเซิล เจอวิธีการเล่นที่ใช่ของพวกเขาแล้วเรียบร้อย 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4o0zM3dSzVYEZRXNN6KcAp/6d506c79d2cb35c2aeccbad2e3ec60b9/2023-2024-Newcastle-United-preview-SPACEBAR-Photo04
ส่วนภาพรวมในเกมอุ่นเครื่องพรีซีซันที่ผ่านมาของทัพ ‘สาลิกาดง’ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงเล่นไปทั้งหมด 7 นัด ไม่แพ้ใครเลย ชนะ 5 นัด เสมอ 2 นัด เริ่มตั้งแต่ ชนะ เกตเชด เอฟซี 3-2, ชนะ เรนเจอร์ส 2-1, เสมอ แอสตัน วิลล่า 3-3, เสมอ เชลซี 1-1, ชนะ ไบร์ทตัน 2-1, ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-0 และปิดท้ายด้วยการถล่ม บียาร์เรอัล 4-0 ยิงประตูโดยรวมเยอะกว่าเสียประตู ตรงตามวิธีการเล่นของพวกเขาทุกอย่าง ในขณะที่ฟอร์มของผู้เล่นใหม่ก็ไม่แย่ ทางด้าน ซานโดร โตนาลี เหลือแค่การปรับจังหวะให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ ก็น่าจะคุมเกมรับให้ทีมได้อย่างหมดจด ส่วน ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ก็เพิ่งทำ 2 ประตู ในเกมกับ บียาร์เรอัล ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงเลย 

โดยล่าสุดตอนนี้พวกเขาก็เตรียมเปิดตัว ติโน่ ลิฟราเมนโต้ แบ็คขวาฟอร์มแรงของ เซาแธมป์ตัน หลังจากที่ตกลงค่าตัวกันได้แล้วที่ 35 ล้านปอนด์ ซึ่งการได้ ลิฟราเมนโต้ มาก็น่าจะมาเป็นแบ็คอัพชั้นดีในตำแหน่งนี้ของ คีแรน ทริปเปียร์ ที่อายุค่อนข้างมาก สภาพร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว ด้วยจำนวนเกมที่จะเพิ่มขึ้นจากการลงเล่นบอลยุโรป และอายุที่ยังน้อยแค่ 20 ปี ก็เป็นตัวแทนในระยะยาวได้แบบสบายๆ 

สุดท้ายถึงการลุ้นแชมป์ลีกอาจจะเป็นเป้าหมายที่ไกลและยากไปหน่อย แต่การลุ้นแชมป์บอลถ้วยในประเทศสักรายการ หรือการทำผลงานดีๆ ในบอลยุโรป ก็เป็นอะไรที่แฟนบอล ‘ทูนอาร์มี่’ หวังได้ไม่มากก็น้อย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับทีมรักของพวกเขาแล้วในซีซันนี้ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์