เปิดฤดูกาลใหม่นัดแรกกันไปแล้วเรียบร้อยสำหรับศึก กัลโช่ เซเรีย อา ลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศอิตาลี โดยบรรดาทีมขาประจำลุ้นแชมป์ต่างพากันชนะรวด ไล่ตั้งแต่คู่เปิดฤดูกาลของแชมป์เก่าอย่าง นาโปลี, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน ที่พากันเก็บ 3 แต้มกันได้หมดทุกทีม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกทีมที่กล่าวมาก็ยังไม่ได้เจอคู่แข่งที่ยากเท่าไหร่ในนัดเปิดฤดูกาล วันนี้เราก็เลยจะมาพรีวิวฟุตบอลลีกสูงสุดแดนมักกะโรนีกันสักหน่อย ใครจะมีดีพอที่มาท้าชิงถ้วยสคูเด็ตโต้กับ นาโปลี ได้บ้าง
แชมป์เก่า…อาจจะพลาดการรักษาแชมป์
เริ่มกันที่แชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลก่อนอย่าง ‘อัซซูร่า’ นาโปลี ที่ครองบัลลังก์ลีกสูงสุดได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้ว่าก่อนเริ่มพวกเขาจะเสีย ดรีลส์ เมอร์เทนส์ และ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ สองผู้เล่นคีย์หลักของทีมมาโดยตลอดไป แต่ด้วยฝีมือการคุมทีมของ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ บวกกับฟอร์มอันร้อนแรงของนักเตะหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น คิม มิน-แจ ที่คุมแนวรับได้อย่างอยู่หมัด, ควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกจอร์เจียที่มาทดแทนการขาดหายไปของ อินซิเญ่ ได้อย่างไร้รอยต่อ และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน หนึ่งในกองหน้าที่ฮอตที่สุดในยุโรปเวลานี้ ก็ทำให้พวกเขาเข้าป้ายคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้แบบหมดจด ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง ลาซิโอ มากถึง 16 คะแนน
เมื่อตัดภาพมาที่ซีซันใหม่ แฟนบอลรวมถึงคนที่ติดตามดูลีกอิตาลีกันอยู่ ก็เริ่มเห็นถึงแนวโน้มความน่าเป็นห่วงว่าปีนี้พวกเขาจะทำได้ดีเหมือนเดิมไหม เพราะสโมสรเสียอะไรไปหลายๆ อย่าง ไล่ตั้งแต่ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ที่ลาออกหลังจากพาทีมคว้าแชมป์ แม้จะตั้ง รูดี้ การ์เซีย ที่เคยประสบความสำเร็จกับ โรม่า และ ลีลล์ มาแล้ว เข้ามาทำหน้าที่แทน แต่เจ้าตัวก็ห่างจากวงการฟุตบอลยุโรปมานานถึง 2 ปี เลยมีคำถามว่าเขาจะดีพอพานาโปลีรักษาแชมป์ได้หรือเปล่า นอกจากนี้ทางฝั่งนักเตะก็ยังเสีย คิม มิน-แจ ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิค แล้วได้ นาธาน กองหลังบราซิลดาวรุ่งวัย 22 ปี เข้ามาแทน ซึ่งก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์บนเวทียุโรปเลย
อีกเรื่องที่เป็นเป้าหมายหลักของทีมในปีนี้มากกว่าการเสริมทัพคือการเก็บ ควิชา ควารัตสเคเลีย และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน สองผู้เล่นคีย์หลักของทีมเอาไว้ ท่ามกลางข่าวลือไม่แน่นอนของทั้งคู่ โดยรายหลังก็เพิ่งกด 2 ประตู พาทีมแซงชนะ โฟรซิโนเน่ ได้ในนนัดเปิดซีซั่น ซึ่งถ้าเก็บไว้ได้นาโปลีก็ยังคงจะมีความน่ากลัวอยู่เหมือนเดิม แต่ด้วยภาพรวมงานของสโมสรจะยากขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อตัดภาพมาที่ซีซันใหม่ แฟนบอลรวมถึงคนที่ติดตามดูลีกอิตาลีกันอยู่ ก็เริ่มเห็นถึงแนวโน้มความน่าเป็นห่วงว่าปีนี้พวกเขาจะทำได้ดีเหมือนเดิมไหม เพราะสโมสรเสียอะไรไปหลายๆ อย่าง ไล่ตั้งแต่ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ที่ลาออกหลังจากพาทีมคว้าแชมป์ แม้จะตั้ง รูดี้ การ์เซีย ที่เคยประสบความสำเร็จกับ โรม่า และ ลีลล์ มาแล้ว เข้ามาทำหน้าที่แทน แต่เจ้าตัวก็ห่างจากวงการฟุตบอลยุโรปมานานถึง 2 ปี เลยมีคำถามว่าเขาจะดีพอพานาโปลีรักษาแชมป์ได้หรือเปล่า นอกจากนี้ทางฝั่งนักเตะก็ยังเสีย คิม มิน-แจ ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิค แล้วได้ นาธาน กองหลังบราซิลดาวรุ่งวัย 22 ปี เข้ามาแทน ซึ่งก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์บนเวทียุโรปเลย
อีกเรื่องที่เป็นเป้าหมายหลักของทีมในปีนี้มากกว่าการเสริมทัพคือการเก็บ ควิชา ควารัตสเคเลีย และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน สองผู้เล่นคีย์หลักของทีมเอาไว้ ท่ามกลางข่าวลือไม่แน่นอนของทั้งคู่ โดยรายหลังก็เพิ่งกด 2 ประตู พาทีมแซงชนะ โฟรซิโนเน่ ได้ในนนัดเปิดซีซั่น ซึ่งถ้าเก็บไว้ได้นาโปลีก็ยังคงจะมีความน่ากลัวอยู่เหมือนเดิม แต่ด้วยภาพรวมงานของสโมสรจะยากขึ้นอย่างแน่นอน
ไร้บอลยุโรป! ภารกิจทวงคืนแชมป์ลีกของ ยูเวนตุส
ต่อกันที่ทัพ ‘ม้าลาย’ ยูเวนตุส ที่ในซีซันที่ผ่านมาพวกเขาโดนลงโทษข้อหาทำบัญชีเท็จจนถูกตัดแต้มในลีกไป 10 คะแนน ทำให้ต้องจบในอันดับที่ 7 บนตารางคะแนนกัลโช่ เซเรีย อา รวมไปถึงโดนตัดสิทธิ์ไปเล่นรอบคัดเลือกฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็กสุดอย่าง ยูโรป้า คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก ด้วย ทำให้ในฤดูกาลใหม่นี้พวกเขาจะไม่มีโปรแกรมลงเล่นฟุตบอลยุโรปมากวนใจ เตรียมพร้อมไล่ล่าแชมป์ลีกกลับมาอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เคยได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2020
ในส่วนของตัวผู้เล่น หลังจากที่ทีมได้ดึงตัว คริสเตียโน จุนโตลี อดีตผู้อำนวยการกีฬาของนาโปลี เข้ามาทำหน้าที่เดียวกันนี้ให้กับสโมสร ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาเตรียมที่จะปรับสมดุลทีมครั้งใหญ่ ด้วยการถ่ายเลือดนักเตะใหม่เข้ามาเพื่อกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของฟุตบอลอิตาลีในอนาคต เริ่มตั้งแต่การตัดชื่อ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ปราการหลังตัวเก๋า ออกจากทีมชุดใหญ่ รวมไปถถึงปล่อย อังเคล ดิ มาเรีย และ ฮวน กวาดราโด้ ออกจากทีม แล้วดึงผู้เล่นสายเลือดใหม่เข้ามาหลายคนทั้ง ฟาคุนโด้ กอนซาเลซ, มาร์ติน พาลัมโบ และ ทิโมธี เวอาห์ โดยเฉพาะรายหลังที่เข้ามาเป็นความหวังตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวาในอนาคต
บวกกับถ้าทาง เฟเดริโก เคียซา กลับมาฟิตสมบูรณ์ และ ดูซาน วลาโฮวิช เคลียร์ความไม่แน่นอนในอนาคตของตัวเองได้ก่อนปิดตลาด ก็น่าจะทำให้ปีนี้ทัพ ‘เบียงโคเนรี่’ อาจจะกลับมาทวงบัลลังก์ที่เคยเป็นของพวกเขาได้ แม้ว่าแฟนบอลจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นัก หากยังมี มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ที่พวกเขามองว่าทำทีมแบบตกยุคยังกุมบังเหียนอยู่ก็ตาม
ในส่วนของตัวผู้เล่น หลังจากที่ทีมได้ดึงตัว คริสเตียโน จุนโตลี อดีตผู้อำนวยการกีฬาของนาโปลี เข้ามาทำหน้าที่เดียวกันนี้ให้กับสโมสร ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาเตรียมที่จะปรับสมดุลทีมครั้งใหญ่ ด้วยการถ่ายเลือดนักเตะใหม่เข้ามาเพื่อกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของฟุตบอลอิตาลีในอนาคต เริ่มตั้งแต่การตัดชื่อ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ปราการหลังตัวเก๋า ออกจากทีมชุดใหญ่ รวมไปถถึงปล่อย อังเคล ดิ มาเรีย และ ฮวน กวาดราโด้ ออกจากทีม แล้วดึงผู้เล่นสายเลือดใหม่เข้ามาหลายคนทั้ง ฟาคุนโด้ กอนซาเลซ, มาร์ติน พาลัมโบ และ ทิโมธี เวอาห์ โดยเฉพาะรายหลังที่เข้ามาเป็นความหวังตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวาในอนาคต
บวกกับถ้าทาง เฟเดริโก เคียซา กลับมาฟิตสมบูรณ์ และ ดูซาน วลาโฮวิช เคลียร์ความไม่แน่นอนในอนาคตของตัวเองได้ก่อนปิดตลาด ก็น่าจะทำให้ปีนี้ทัพ ‘เบียงโคเนรี่’ อาจจะกลับมาทวงบัลลังก์ที่เคยเป็นของพวกเขาได้ แม้ว่าแฟนบอลจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นัก หากยังมี มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ที่พวกเขามองว่าทำทีมแบบตกยุคยังกุมบังเหียนอยู่ก็ตาม
งูใหญ่…รอวันกลับมาผงาด
มาต่อกันที่อีกหนึ่งทีมใหญ่จากเมืองมิลานอย่างทัพ ‘งูใหญ่’ อินเตอร์ มิลาน ที่ในฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาจบด้วยอันดับที่ 3 บนตารางกัลโช่ เซเรีย อา โดยเก็บไปทั้งหมด 72 คะแนน ทำให้นับตั้งแต่ ซิโมเน่ อินซากี้ เข้ามารับงานเมื่อปี 2021 พวกเขายังไม่ไปไม่ถึงฝั่งฝันสักที ทำให้ในปีนี้ เฮดโค้ชชาวอิตาเลียน วัย 47 ปี หมายมั่นปั้นมือว่าจะพาแชมป์ลีกกลับมาให้ทีมได้ หลังจากได้ครั้งล่าสุดต้องย้อนไปในซีซัน 2020/21
ปัญหาที่น่ากังวลที่สุดของพวกเขาอยู่ที่การเสียสตาร์คนสำคัญของทีมออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อันเดร โอนาน่า, มาร์เซโล โบรโซวิช, มิลาน สคริเนียร์ และ โรเมลู ลูกากู ที่พยายามดึงตัวกลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จ บวกกับเม็ดเงินลงทุนในตลาซัมเมอร์หนนี้ก็ค่อนข้างจำกัด ผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาใช้เงินต่อคนไม่เกิน 8 ล้านยูโร รวมไปถึงการเซ็นฟรีและยืมตัวทั้ง ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่, ยาน ซอมเมอร์, มาร์คัส ตูราม, ฮวน กวาดราโด้ และ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ซึ่งจากผลงานนัดแรกก็ยังเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหน้าแชมป์โลกที่ดูแล้วยังเป็นตัวความหวังของทีม ก็คงต้องมารอดูกันอีกทีว่า พวกเขาจะรักษามาตรฐานได้ตลอดฤดูกาลหรือเปล่า แม้ทัพ ‘เนรัซซูรี่’ จะเป็นทีมเต็งคว้าแชมป์ในซีซันนี้
ปัญหาที่น่ากังวลที่สุดของพวกเขาอยู่ที่การเสียสตาร์คนสำคัญของทีมออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อันเดร โอนาน่า, มาร์เซโล โบรโซวิช, มิลาน สคริเนียร์ และ โรเมลู ลูกากู ที่พยายามดึงตัวกลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จ บวกกับเม็ดเงินลงทุนในตลาซัมเมอร์หนนี้ก็ค่อนข้างจำกัด ผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาใช้เงินต่อคนไม่เกิน 8 ล้านยูโร รวมไปถึงการเซ็นฟรีและยืมตัวทั้ง ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่, ยาน ซอมเมอร์, มาร์คัส ตูราม, ฮวน กวาดราโด้ และ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ซึ่งจากผลงานนัดแรกก็ยังเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหน้าแชมป์โลกที่ดูแล้วยังเป็นตัวความหวังของทีม ก็คงต้องมารอดูกันอีกทีว่า พวกเขาจะรักษามาตรฐานได้ตลอดฤดูกาลหรือเปล่า แม้ทัพ ‘เนรัซซูรี่’ จะเป็นทีมเต็งคว้าแชมป์ในซีซันนี้
ปีศาจแดงดำ...ทะเยอทะยานสุดในทุกทีม
ปิดท้ายกันที่ทัพ ‘ปีศาจแดงดำ’ เอซี มิลาน อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลอิตาลี ที่ในฤดูกาลก่อนจบในอันดับที่ 4 ด้วยคะแนน 70 แต้มบนตารางเซเรีย อา คว้าชัยไปทั้งหมด 20 นัด เสมอ 10 นัด และแพ้ไป 8 นัด แต่ก็ยังได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ได้ตามเป้าหมายของพวกเขา มาในซีซันนี้ทีมต้องเสียนักเตะคีย์แมนคนสำคัญอย่าง ซานโดร โตนาลี ไปให้กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวราวๆ 70 ล้านยูโร นอกจากนี้ทาง เปาโล มัลดินี่ ประธานเทคนิคก็ยังโดนปลดจากตำแหน่งด้วย
ในแง่ของการเสริมทัพ ถ้าวัดจากบรรดาทีมใหญ่ทั้งหมด เอซี มิลาน ถือว่ามีความทะเยอทะยานมากที่สุดในตลาดซัมเมอร์รอบนี้ เพราะพวกเขาเอาเงินที่ได้จากการขาย โตนาลี มาเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคุณภาพหลายคน เริ่มตั้งแต่ รูเบน-ลอฟตัส ชีค, คริสเตียน พูลิซิช, ทิจฮานี่ ไรน์เดอร์ส, โนอาห์ โอคาฟอร์, ซามูเอล ชุควูเซ่ และ ยูนุส มูซาห์ ซึ่งหลายๆ คนเป็นผู้เล่นฟอร์มดีอายุน้อย ที่มีระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานในอนาคต นอกจากนี้พวกเขายังเก็บแกนหลักของทีมอย่าง ไมค์ เมญอง, เตโอ เอร์นานเดซ และ ราฟาเอล เลเอา เอาไว้ได้ทั้งหมด
และถึงแม้ทีมจะเสริมทัพมาค่อนข้างเยอะ แต่ถ้ามองจากประสบการณ์ของผู้เล่นแล้ว การคว้าสคูเด็ตโต้ในปีนี้อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวไปหน่อย เพราะหลายคนคงต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับทีม ก็อยู่ที่ทาง สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ว่าจะใช้เวลาปรับจูนทีมนานขนนาดไหน ส่วนเป้าหมายที่เป็นไปได้และเหมาะสมมากที่สุดของทัพ ‘รอสโซเนรี่’ ก็น่าจะเป็นการจบในอันดับท็อปโฟร์ เพื่อไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
ในแง่ของการเสริมทัพ ถ้าวัดจากบรรดาทีมใหญ่ทั้งหมด เอซี มิลาน ถือว่ามีความทะเยอทะยานมากที่สุดในตลาดซัมเมอร์รอบนี้ เพราะพวกเขาเอาเงินที่ได้จากการขาย โตนาลี มาเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคุณภาพหลายคน เริ่มตั้งแต่ รูเบน-ลอฟตัส ชีค, คริสเตียน พูลิซิช, ทิจฮานี่ ไรน์เดอร์ส, โนอาห์ โอคาฟอร์, ซามูเอล ชุควูเซ่ และ ยูนุส มูซาห์ ซึ่งหลายๆ คนเป็นผู้เล่นฟอร์มดีอายุน้อย ที่มีระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานในอนาคต นอกจากนี้พวกเขายังเก็บแกนหลักของทีมอย่าง ไมค์ เมญอง, เตโอ เอร์นานเดซ และ ราฟาเอล เลเอา เอาไว้ได้ทั้งหมด
และถึงแม้ทีมจะเสริมทัพมาค่อนข้างเยอะ แต่ถ้ามองจากประสบการณ์ของผู้เล่นแล้ว การคว้าสคูเด็ตโต้ในปีนี้อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวไปหน่อย เพราะหลายคนคงต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับทีม ก็อยู่ที่ทาง สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ว่าจะใช้เวลาปรับจูนทีมนานขนนาดไหน ส่วนเป้าหมายที่เป็นไปได้และเหมาะสมมากที่สุดของทัพ ‘รอสโซเนรี่’ ก็น่าจะเป็นการจบในอันดับท็อปโฟร์ เพื่อไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
