ฟุตบอลโลก 5 สมัยที่ได้รับการยกย่องว่าน่าจดจำมากที่สุด

18 พ.ย. 2565 - 07:13

  • ในการแข่งขันฟุตบอลโลกแต่ละครั้งนั้นมีเหตุการณ์ให้จดจำแตกต่างกันไป ทั้งนี้มีการจัดอันดับเวิลด์คัพที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ ซึ่งนอกเหนือจากเกมอันยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นเหตุการณ์ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่เคยลืมเลือน และยังคงมีการส่งต่อความทรงจำ มายังแฟนบอลรุ่นหลังอยู่เสมอ และนี่คือฟุตบอลโลก 5 สมัยที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ตลอดกาล!

5-Greatest-World-Cup-ever-SPACEBAR-Main

ฟุตบอลโลก 5 สมัยที่ได้รับการยกย่องว่าน่าจดจำมากที่สุด

ในการแข่งขันฟุตบอลโลกแต่ละครั้งนั้นมีเหตุการณ์ให้จดจำในแต่ละครั้งแตกต่างกันไป 

ทั้งนี้มีการจัดอันดับเวิลด์คัพที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ ซึ่งนอกเหนือจากเกมอันยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นเหตุการณ์ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่เคยลืมเลือน และยังคงมีการส่งต่อความทรงจำ มายังแฟนบอลรุ่นหลังอยู่เสมอ และนี่คือฟุตบอลโลก 5 สมัยที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ตลอดกาล!  

อันดับที่ 5 ฟุตบอลโลก 2002 เจ้าภาพร่วม เกาหลีใต้ - ญี่ปุ่น 


ทีมที่ดีที่สุดในการแข่งขัน : ความน่าสนใจในฟุตบอลโลกครั้งนั้นคือ โรนัลโด้ ที่คว้ารองเท้าทองคำไปครองจากผลงานการทำ 8 ประตูในทัวร์นาเม้นท์ให้กับทีมชาติบราซิล แต่ในครั้งนั้น ทีมชาติบราซิล ยากที่จะมีทีมใดต้านพวกเขาได้ ทีมแซมบ้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยการเอาชนะทีมเต็งทั้งหลายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม รอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงรอบ 8  ทีมสุดท้ายจนรองรองชนะเลิศ และทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนเอาชนะเยอรมนีไป  2-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ไปครอง  
 
เหตุการณ์สุดช็อค: สาเหตุที่ฟุตบอลโลกปี 2002 เป็นหนึ่งใน 5 ฟุตบอลโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในความทรงจำของแฟนบอล เพราะนี่คือทัวร์นาเม้นต์ที่มีเหตุการณ์พลิกผันมากมาย และคาดเดาผลการแข่งขันได้ยากที่สุด เริ่มจากแมตช์ระหว่าง ฝรั่งเศส และ เซเนกัล ซึ่งทีมชาติฝรั่งเศสพ่ายให้กับเซเเนกัลไป 0-1ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกและในปีนั้น ฝรั่งเศส ตกรอบแบ่งกลุ่มโดยเป็นบ๊วยของกลุ่มและไม่สามารถยิงประตูได้เลย เป็นเหตุการณ์เหนือความคาดหมายที่แชมป์เก่าปี 1998 ต้องมาตกรอบแรกแบบหมดรูป

อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นเหตุการณ์ช็อคแฟนบอลเห็นจะเป็นเรื่องกรรมการในนัดที่ อิตาลี พบกับ เกาหลีใต้ ที่มีหลายลูกตัดสินได้ค้านสายตาผู้เล่นในสนามและแฟนบอล จนทำให้เกาหลีใต้ชนะ อิตาลีไป 2-1 ประตู เขี่ยทีมจากแดนมะกะโรนีตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย  
ความแรงของเกาหลีใต้ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อพวกเขาเอาชนะสเปนด้วยการดวลจุดโทษ จนเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และเป็นเยอรมนี ที่หยุดความซ่าของทีมเจ้าภาพร่วมไว้ที่รอบดังกล่าว ส่งผลให้เกาหลีใต้ ได้แค่ชิงที่สามกับ ตุรกี และนับเป็นครั้งแรกที่ ตุรกี ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ และ ได้เข้าชิงที่สาม ซึ่งท้ายที่สุดพวกเขาคว้าอันดับที่สามไปครอง  
 
ช่วงเวลาที่น่าจดจำ: เชื่อว่าคนอังกฤษทั่วทั้งเกาะ โดยเฉพาะเดวิด เบ็คแฮม ไม่ลืมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002 เมื่อทีมชาติอังกฤษ พบกับ อาร์เจนติน่า ในรอบแบ่งกลุ่ม และ เดวิด เบ็คแฮม กลับมาล้างแค้น ล้างอายให้กับตนเองได้สำเร็จด้วยการยิงจุดโทษอาร์เจนติน่า อันเป็นประตูแห่งชัยชนะที่ ‘สิงโตคำราม’ มีเหนือคู่แค้นตลอดกาล แต่นักเตะทีมชาติอังกฤษชุดนั้นก็คงไม่ลืมลูกยิงระยะ 42 หลาของโรนัลดินโญ่ ที่ทำให้บราซิล มีชัยเหนือพวกเขาและทำให้บราซิลผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและไปถึงแชมป์ กับลูกยิงฟรีคิก ที่กึ่งยิงกึ่งเปิด ของโรนัลดินโญ่  
 
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ: ในการชิงที่สามของฟุตบอลโลก 2002 ระหว่างเกาหลีใต้ และ ตุรกี เป็นการแข่งขันที่ได้เห็นประตูที่เร็วที่สุดของทัวร์นาเม้นท์ กับลูกยิงของ ฮาคาน ซูเคอร์ ซึ่งทำได้หลังการแข่งขันเริ่มไปเพียง 11 วินาที เรียกว่าเป็นสถิติการแข่งขัน พอกับสถิติที่เยอรมนี ยิงถล่ม ซาอุดิอาระเบีย ไปถึง 8-0 ประตู
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/547tomgpBVnwnaGRlpe9s7/3ee90113ba81931de82b85480a29b322/5-Greatest-World-Cup-ever-SPACEBAR-Photo01

อันดับที่ 4 ฟุตบอลโลก ปี 1966 ที่ประเทศอังกฤษ


ทีมที่ดีที่สุด: แน่นอนว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ทุกคนต่างยกให้เป็นทีมชาติอังกฤษที่เป็นทีมที่ดีที่สุด โดยการนำของ อัลฟ์ แรมซี่ย์ ผู้จัดการทีม ที่นำพาให้ทีม ‘สิงโตคำราม’ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั้นได้สำเร็จ แม้ว่าการเริ่มต้นของทีมชาติอังกฤษ ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกจะเปิดด้วยการเสมอกับ อุรุกวัย 0-0 แต่หลังจากนั้นทีม ‘สิงโตคำราม’ ก็แสดงให้เห็นศักยภาพของนักฟุตบอล ภายใต้การทำทีมของ อัลฟ์ แรมซี่ย์ รวมไปถึงความน่าตื่นตาตื่นใจของเกมในรอบไฟนัล ที่แฟนบอลทั่วโลกได้เห็น เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ทำแฮทริคในรองชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก  
 
เหตุการณ์สุดช็อค: ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี1966 เกิดผลการแข่งขันที่พลิกล็อคถล่มทลายนั่นคือคือ เกาหลีเหนือ ที่เอาชนะทีมชาติอิตาลีได้ที่สนามมิดเดิลส์โบรช์ และทำให้ทีมชาติเกาหลีเหนือในเวลานั้น ผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย นับเป็นครั้งแรกที่ทีมจากเอเชียผ่านเข้าสู่รอบที่สองสำเร็จด้วย  
 
ช่วงเวลาที่น่าจดจำ: แม้ว่าอังกฤษที่ตั้งตัวว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอลจะคว้าแชมป์มาครองได้ แต่ประตูที่สามของทีมชาติอังกฤษในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศกับเยอรมนี ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า ลูกดังกล่าวผ่านเส้นกรอบประตูเข้าไปเป็นประตูหรือไม่ แม้ว่าในเกมนั้นไลน์แมนชาวอาร์เซอร์ไบจันที่มีชื่อว่า ‘โทฟิค บาห์รามอฟ’ จะให้ลูกดังกล่าวเป็นประตู 
 
อีกช่วงเวลาที่น่าจดจำคือผลงานของนักเตะชาวโปรตุเกส ผู้เป็นตำนานอย่าง ยูเซบิโอ ที่พาทีมกลับมาเอาชนะเกาหลีเหนือซึ่งยิงนำพวกเขาไปก่อนถึง 0-3 ด้วยการรัวให้กับโปรตุเกสถึง 4 ประตูและกลับมาเอาชนะเกาหลีเหนือด้วยสกอร์​ 5-3 ได้ในท้ายที่สุดและผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ  
 
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ: ในฟุตบอลโลกปี 1966 มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความตกใจนอกสนามเมื่อถ้วย จูลส์ ริเมต์ (Jules Rimet) หรือถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก (ในยุคนั้น) ถูกขโมยไปจากการจัดแสดง แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สุนัขตำรวจดมกลิ่นตามหา และเป็นเจ้าสุนัขตำรวจที่ชื่อ พิคเลส ดมจนเจอถ้วย จูลส์ ริเมต์ ถูกห่อหนังสือพิมพ์ซ่อนอยู่ ในพุ่มไม้ในละแวกที่จัดแสดง
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/vPnzG468uZwasSQNdVMJp/99a8b16c1b2b24e2597a6e78b89828f3/5-Greatest-World-Cup-ever-SPACEBAR-Photo02

อันดับที่ 3 การแข่งขันฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก ปี 1986  


ทีมที่ดีที่สุด:  ฟุตบอลโลกปีนี้ต้องเรียกว่าสมราคาแล้วที่อาร์เจนติน่าจะคว้าแชมป์ เพราะเป็นทีมอัจฉริยะและปิศาจในเวลาเดียวกัน (แฟนบอลทีมอังกฤษคงอยากลืมฟุตบอลโลกปีนี้) คำว่าปีศาจและอัจฉริยะที่ว่านั้นอยู่ในตัว ดิเอโก้ มาราโดน่าเจ้าของ ‘หัตถ์พระเจ้า’ ที่ไม่มีใครลืมลง ขณะเดียวกันสไตล์ของทีมอาร์เจนติน่าในปีนั้นนอกเหนือจากความโดดเด่นของมาราโดน่า แล้ว ทั้งทีมยังเล่นกันได้อย่างสวยงาม จนถึงรอบชิงชนะเลิศและเอาชนะเยอรมนีไปได้ด้วยสกอร์ 3-2  
 
เหตุการณ์สุดช็อค: ทีมโมร็อคโค นับเป็นทีสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับฟุตบอลโลกในครั้งนี้ เพราะนอกจากจะอยู่ใน กลุ่มแข็งที่มีทีมอย่าง อังกฤษ โปแลนด์ และ โปรตุเกต แล้ว ทีมโมร็อคโค ยังเข้าสู่รอบสองเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม ก่อนจะไปพ่ายให้เยอรมนีตะวันตก (ในเวลานั้น)
 
ช่วงเวลาน่าจดจำ: ฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก ต้องยกให้มาราโดน่า เป็นพระเอกของทัวร์นาเม้นท์ เพราะไม่ว่าจะเป็นลูก ‘หัตถ์พระเจ้า’ หรือ ‘ประตูแห่งศตวรรษ’ ที่นักเตะเจ้าของฉายามะขามข้อเดียว สร้างความตื่นตะลึงให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นแล้ว  

ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1986 การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศระหว่างอาร์เจนติน่า กับ เบลเยี่ยม ที่มาราโดน่า ยังแสดงความสามารถเฉพาะตัวในการทำประตูที่สอง ด้วยการเลี้ยงหลบกองหลังเบลเยี่ยมสี่คน เป็นเรื่องที่ไม่ได้กิดได้ง่ายนักเช่นกัน เช่นเดียวกับคู่ที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานระหว่าง บราซิล และฝรั่งเศสในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ต้องตัดสินกันด้วยจุดโทษ และเป็นมิเชล พลาตินี่ ที่พาทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ  
 
ความน่าจดจำในสนาม: แฟนกีฬา หรือ แม้แต่สายคอนเสิร์ต ต่างก็รู้จักการเล่นเวฟในสนาม แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเวฟในสนามแข่งขันกีฬา หรือ ในคอนเสิร์ต นั้นถือกำเนิดในฟุตบอลโลกปี 1986 เกิดขึ้นเพราะแฟนบอลที่เริ่มเบื่อกับการนั่งเชียร์แบบเดิมๆ พวกเขาเลยเริ่มต้นด้วยการลุกขึ้นยืนเชียร์ แล้วทำให้กลายเป็นคลื่นมนุษย์ไปรอบๆ สนามแน่นอนว่ามันสนุกมากจนทำให้ การเล่นเวฟมนุษย์ในสนามถูกใช้มาจนปัจจุบัน อีกหนึ่งเรื่องที่ลืมไม่ได้คือการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986 แกรี่ ลินิเกอร์ คว้าตำแหน่งดาวซัลโว ได้รองเท้าทองคำกลับบ้านไป
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/54Y5Wm4AY10LhM1xj6o7N8/6893ac35a85b2a45187be7daa6a1bb14/5-Greatest-World-Cup-ever-SPACEBAR-Photo03

อันดับที่ 2 ฟุตบอลโลกที่ อิตาลี ปี 1990  


ทีมที่ดีที่สุด: ทีมเยอรมนีตะวันตกคือทีมที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นว่า พวกเขาต้องกลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ เพราะหลังจากปี 1974 ทีม ‘อินทรีเหล็ก’ ไม่เคยคว้าแชมป์ได้อีกเลย และ เป็นรองแชมป์ติดต่อกันสองสมัย (1982, 1986) ความมุ่งมั่นของพวกเขาสำเร็จและล้างตาจากคู่แค้นเก่าอาร์เจนติน่า ในรอบชิงชนะเลิศ

นอกเหนือจากเยอรมนีที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จแล้ว พระรองที่แย่งซีนทีมเยอรมนีอย่าง คาเมรูน กลายเป็นม้านอกสายตาที่ถูกพูดถึงในหน้าสื่อมากที่สุด กับการนำทัพของนักฟุตบอลวัย 40 ปีอย่าง โรเจอร์ มิลล่า ที่พาคาเมรูน ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่แม้จะพ่ายให้กับอังกฤษ แต่ก็ไม่ใช่ความพ่ายแพ้แบบโดยง่าย เหนืออื่นใด คาเมรูน ได้พิสูจน์ให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็น ศักยภาพของทีมจากทวีปแอฟริกาว่า ไม่ได้น้อยหน้าทีมจากในยุโรปหรือ อเมริกาใต้แม้แต่น้อย

เหตุการณ์สุดช็อค: นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกที่แฟนบอลอาร์เจนติน่า ต้องถือแก้วเบียร์ค้างเมื่อ ทีมชาติอันเป็นที่รักของพวกเขา และ เป็นแชมป์เก่า พ่ายให้กับทีมจากแอฟริกาอย่าง คาเมรูน ที่มีศูนย์หน้าในวัย 40 ปีอย่าง โรเจอร์ มิลล่า ขณะเดียวกันน้ำตาของ พอล แกสคอยน์ ทำให้เขาและทีมชาติอังกฤษได้รับความเห็นใจจากเพื่อนร่วมชาติ หรือ ความน่าอับอายของสกอตแลนด์ ที่ พ่ายให้กับ คอสตาริก้า ส่วนไอร์แลนด์ เข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และท้ายที่สุด โตโต้ สคิลลาชี่ แห่งทีมชาติอิตาลีกลายเป็นตาอยู่คว้ารางวัลดาวซัลโว ได้รองเท้าทองคำกลับบ้านไป  
 
ทำไมฟุตบอลโลก 1990 จึงเป็นอันดับสองในความทรงจำ : เรื่องแรกต้องยกให้อิตาลี ในการสร้างมาสคอต การแข่งขันอันเป็นที่จดจำ อันมีธีมว่า Nessu Dorma ซึ่งสร้างความจดจำให้กับฟุตบอลโลกในปี 1990 ได้เป็นอย่างดี และการแข่งขันที่อิตาลี นับเป็นทัวร์นาเม้นต์ครั้งที่ยังไม่มี พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ แชมป์เปี้ยนลีก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในภายหลัง นับเป็นช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลงแห่งวงการฟุตบอลเป็นอย่างยิ่ง 
 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2y2KeeCHJP9hN7MSKtn5x4/55c513604ff22cd5701810b0d2d5cce7/5-Greatest-World-Cup-ever-SPACEBAR-Photo04

อันดับที่ 1 ฟุตบอลโลก 1970 ที่เม็กซิโก  


ทีมที่ดีที่สุด: การแข่งขันในยุคสมัยที่บราซิล ถูกยกให้เป็นทีมที่ดีที่สุด และในทีมเต็มไปด้วยนักเตะระดับตำนานอาทิ คาร์ลอส อัลแบร์โต้, เปเล่, เกอร์สัน, แจร์ซินโญ่, ริเวลิโน่ และ ทอสเทา นักเตะชุดนี้พาทีมชาติบราซิล คว้าชัยชนะในทุกนัดตั้งแต่รอบคัดเลือก จนถึงการแข่งขันอีกในรอบสุดท้ายและบราซิลก็ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พร้อมกับเอาชนะทีมชาติอิตาลีไป 4-1 ประตู  
 
เรื่องสุดช็อค : ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนหมดเวลา 22 นาที ทีมชาติอังกฤษที่นำเยอรมนีตะวันตกอยู่ 2-0 ประตูนั้น ต้องพบกับความปราชัย เปรียบเสมือนถูกสาปให้ไปไม่ถึงฝันในฟุตบอลโลก 1970 เมื่อพวกเขาเปลี่ยนตัว บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และ มาร์ติน ปีเตอร์ส เพื่อหวังจะเซฟเอาไว้ใช้งานในรอบตัดเชือก แต่ปรากฎว่า เยอรมนีตะวันตกไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตามสไตล์ “อินทรีเหล็ก” พวกเขาพลิกกลับมาเอาชนะได้ ด้วยสกอร์ 3-2 ทำเอา อัลฟ์ แรมซี่ย์ และลูกทีมยืนงงอยู่ข้างสนามไปเลย  
 
ช่วงเวลาที่น่าจดจำ : ชัยชนะของบราซิล ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นเกมที่สวยงามและน่าจดจำ เอาชนะอิตาลีไปได้อย่างสวยงาม 4-1 และประตูที่สี่จากฝีเท้าของ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ เรียกได้ว่าเป็นประตูที่สมบูรณ์แบบที่สุดในทัวร์นาเม้นท์ โดยก่อนหน้านี้ มีการยกย่องให้ บ็อบบี้ มัวร์​เป็นกองหลังที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นท์ และการเซฟสุดมหัศจรรย์ลูกโหม่งเปเล่ ของ กอร์ดอน แบงค์ส ทำให้เขาได้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นท์เช่นกัน  

ทำไมถึงเป็นฟุตบอลโลกในความทรงจำอันดับ1: คำตอบอยู่ที่สกอร์ในรอบชิงฯ เพราะนี่คือการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ ที่มีการทำประตูมากที่สุด เป็นเวิลด์คัพที่เริ่มมีการถ่ายทอดสดในระบบสี่สี (จากอดีตเป็นขาวดำ) และ เม็กซิโก คือเจ้าภาพที่สร้างบรรยากาศและสีสันให้กับทัวร์นาเม้นท์ได้อย่างสุดยอด

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6FPMhHqTnULjZLOc3VDmsj/22d2c6178435ffba7d3f6f977071b708/5-Greatest-World-Cup-ever-SPACEBAR-Photo05

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์