รวมสถิติน่าสนใจหลังเกมฟุตบอลโลก 24 พ.ย. 2022

25 พฤศจิกายน 2565 - 05:06

After-24-Nov-World-Cup-stats-SPACEBAR-Hero
  • เปิดหัววันที่ห้าของฟุตบอลโลกด้วยชัยชนะแบบหืดจับของสวิตเซอร์แลนด์ต่อแคเมอรูน ส่วนคู่สองเจ๊ากันแบบไร้สกอร์เป็นคู่ที่ 4 ในทัวร์นาเมนต์นี้เข้าไปแล้ว

  • ต่อด้วยเกมเดือดจัดในครึ่งหลังที่โปรตุเกสชนะกานาไปแบบสุดมัน ปิดท้ายด้วยบราซิลที่โชว์ฟอร์มสมราคาเต็ง 1 เอาชนะเซอร์เบียไปได้แบบไม่ยากเย็น

สำหรับวันที่ห้าของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 กว่าจะมามันสุดแบบเดือดปุดๆ กันได้ต้องรอจนถึงคู่ที่สามระหว่าง โปรตุเกส กับ กานา ที่สุดท้ายเป็นทัพฝอยทองที่เอาชนะขุนพลดาวดำไปได้แบบสุดมัน 3-2 โดยสองคู่แรกเป็น สวิตเซอร์แลนด์ เฉือนชนะ แคเมอรูน ไปแบบหวุดหวิด 1-0 และการสู้แบบเปิดหน้าแลกกันของ อุรุกวัย กับ เกาหลีใต้ ที่สุดท้ายทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไปแบบไม่มีประตู ส่วนคู่สุดท้าย บราซิล โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งแชมป์เบอร์ 1 เอาชนะ เซอร์เบีย ไปได้ 2-0 สำหรับสถิติที่น่าสนใจของทั้ง 4 คู่ จะมีอะไรบ้าง ติดตามได้ที่ SPACEBAR 
 

สถิติน่าสนใจหลังเกมฟุตบอลโลก 24 พ.ย. 2022

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6r7xJXDf3545CyfZ9FFusN/38905ab2a95de5426207699410c71905/After-24-Nov-World-Cup-stats-SPACEBAR-Photo01
Photo: Photo: AFP

สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 แคเมอรูน

  • 11 ตัวจริงของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในเกมนี้มีอายุเฉลี่ย 28 ปี 238 วัน มากสุดเป็นอันดับสองในฟุตบอลโลก โดยสวิตเซอร์แลนด์เคยส่งตัวจริงที่อายุมากกว่านี้เมื่อปี 1950 ในเกมที่เสมอกับบราซิล 2-2 (28 ปี 314 วัน) 
  • สวิตเซอร์แลนด์ ไม่แพ้ใครในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 6 ครั้งหลังสุด (ชนะ 3 เสมอ 3) โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาแพ้ในนัดเปิดสนามต้องย้อนไปไกลถึงปี 1966 ที่แพ้เยอรมนีไป 0-5 
  • แคเมอรูนไม่โดนยิงเข้ากรอบเลยแม้แต่ลูกเดียวในครึ่งแรกของเกมฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของพวกเขา หลังจากปี 2002 ที่พบเยอรมนี แต่สุดท้ายทีมหมอผีก็แพ้ไป 2-0 อยู่ดี 
  • เซอร์ดาน ชากิรี่ มีส่วนร่วมโดยตรงถึง 50% จาก 24 ประตูของสวิตเซอร์แลนด์ ใน 4 นัดหลังสุดบนทัวร์นาเมนต์ใหญ่ (ฟุตบอลโลก + ยูโร) โดยยิงได้ 8 ประตู และแอสซิสต์อีก 4 ครั้ง 
  • เซอร์ดาน ชากิรี่ กลายเป็นผู้เล่นสวิสคนที่สองที่ปรากฏตัวในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง (2010, 2014, 2018 และ 2022) หลังจาก วารอน เบห์รามี่ (2006, 2010, 2014 และ 2018) 
  • อังเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูแคเมอรูนสัมผัสบอลในเกมนี้ไปถึง 61 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดสำหรับผู้รักษาประตูในฟุตบอลโลก 2022 
  • อังเดร โอนาน่า สัมผัสบอลนอกกรอบไป 26 ครั้งในเกมนี้ มากที่สุดสำหรับผู้รักษาประตูในฟุตบอลโลก 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/73IYr7qRhfUCQmFNzyG9sy/eeb2b27cdc23d3687860fe0c8361869b/After-24-Nov-World-Cup-stats-SPACEBAR-Photo02
Photo: Photo: AFP

อุรุกวัย 0-0 เกาหลีใต้

  • ในเกมนี้มีการยิงเข้ากรอบไปเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งสถิตินี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองเท่านั้นในฟุตบอลโลก นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติมาในปี 1966 โดยครั้งแรกเป็นเกมระหว่างเดนมาร์กพบกับสกอตแลนด์ เมื่อปี 1986 
  • 8 ทีมในฟุตบอลโลกหนนี้จบการแข่งขันนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ด้วยผลเสมอ 0-0 (เดนมาร์ก, ตูนิเซีย, เม็กซิโก, โปแลนด์, โมร็อกโก, โครเอเชีย, อุรุกวัย และ เกาหลีใต้) นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดในครั้งเดียวของนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 
  • เกมนี้เป็นครั้งแรกของทีมชาติเกาหลีใต้ในฟุตบอลโลก ที่พวกเขามีสถิติครองบอลได้ดีกว่าคู่แข่งในครึ่งแรกด้วยจำนวน 50.3% 
  • อุรุกวัย ไม่เสียประตูในรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลกมาแล้ว 465 นาที โดยนัดนี้เป็นการเก็บคลีนชีตครั้งที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งประตูล่าสุดที่พวกเขาเสียในรอบแบ่งกลุ่มต้องย้อนไปถึงปี 2014 ที่โดน เวย์น รูนีย์ ยิงประตู 
  • ดิเอโก โกดิน กลายเป็นผู้เล่นอุรุกวัยที่อายุมากที่สุดที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกด้วยวัย 36 ปี 281 วัน ทำลายสถิติเดิมของ ออบดูลิโอ จาซินโต วาเรลา เมื่อปี 1954 ไปเพียงแค่ 2 วัน (36 ปี 279 วัน) 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5gaGYuH5dJI9XimaJuwLFD/1fa8cb57628ebdf4b353f68bf6f7dcf2/After-24-Nov-World-Cup-stats-SPACEBAR-Photo03
Photo: Photo: AFP

โปรตุเกส 3-2 กานา

  • ผลการแข่งขันคู่นี้ โปรตุเกส 3-2 กานา เป็นเพียงแมตช์ที่ 4 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเท่านั้นที่ยิงกันถึง 5 ประตู หลังจากเสมอกัน 0-0 ในช่วงพักครึ่ง โดยแมตช์ก่อนหน้านั้นคือ โปแลนด์ 5-1 เปรู (1982), เนเธอร์แลนด์ 2-3 บราซิล (1994) และ เบลเยียม 3-2 ญี่ปุ่น (2018) 
  • กานา เป็นทีมแรกในทัวร์นาเมนต์ที่ตลอดทั้งครึ่งแรกพวกเขาไม่ได้แตะกรอบเขตโทษของคู่แข่งเลย ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เข้าใกล้เลยด้วยซ้ำ 
  • กานา เป็นทีมจากทวีปแอฟริกาทีมแรกที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยสี่ทีมก่อนหน้านั้นทั้งแคเมอรูน, โมร็อกโก, เซเนกัล และตูนิเซีย มีโอกาสยิงรวมกันถึง 44 ครั้ง แต่ไม่มีทีมไหนเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย 
  • คริสเตียโน โรนัลโด้ กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงประตูในฟุตบอลโลกได้ 5 ครั้งติดต่อกัน (2006, 2010, 2014, 2018 และ 2022) 
  • คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำประตูที่ 8 ของตัวเองในฟุตบอลโลกจากการลงเล่นฟุตบอลโลก 5 ครั้ง โดย 8 ประตูนั้นอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด 
  • เจา เฟลิกซ์ กลายเป็นนักเตะโปรตุกีสที่อายุน้อยที่สุดอันดับสามที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลก (23 ปี 13 วัน) รองจาก คริสเตียโน โรนัลโด้ เมื่อปี 2006 (21 ปี 132 วัน) และ อันโตนิโอ ซิมัวส์ เมื่อปี 1966 (22 ปี 217 วัน) ในขณะที่ ราฟาเอล เลเอา ที่ทำประตูได้เหมือนกันก็มาเป็นอันดับที่สี่ (23 ปี 167 วัน) 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/OUtIOOBVFLdTBJy181mos/1aa7adc62a5df435b0fdfd8e20dd8d38/After-24-Nov-World-Cup-stats-SPACEBAR-Photo04
Photo: Photo: AFP

บราซิล 2-0 เซอร์เบีย

  • จากผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้บราซิลแทบจะถือทุกสถิติหลักๆ ในฟุตบอลโลกเป็นอันดับที่ 1 แล้วนั่นก็คือ ลงเล่นมากที่สุด 110 นัด (เท่ากับเยอรมี), ชนะมากที่สุด 74 นัด, ยิงประตูมากที่สุด 231 ประตู, เข้าร่วมมากที่สุด 22 ครั้ง และ แชมป์โลกมากที่สุด 5 สมัย 
  • บราซิล ลงเล่นนัดเปิดสนาม 6 ครั้งหลังสุดของฟุตบอลโลก เป็นการเจอกับคู่แข่งที่ใส่เสื้อสีแดงทั้งหมดคือ ตุรกี (2002), โครเอเชีย (2006), เกาหลีเหนือ (2010), โครเอเชีย (2014), สวิตเซอร์แลนด์ (2018) และ เซอร์เบีย (2022) 
  • หลังจากแพ้ในนัดเปิดสนามเมื่อปี 1930 และ 1934 บราซิลไม่แพ้ใครอีกเลยในเกมเปิดสนาม 20 นัดหลังสุดในฟุตบอลโลก (ชนะ 17 เสมอ 3) 
  • เนย์มาร์ โดนทำฟาวล์ไปทั้งหมด 9 ครั้ง กลายเป็นผู้เล่นที่ถูกทำฟาวล์เยอะที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ 
  • วินิซิอุส จูเนียร์ กลายเป็นนักเตะบราซิลคนที่ 6 ที่ทำแอสซิสต์ได้ในนัดเปิดตัวลงเล่นฟุตบอลโลก ต่อจาก ดั๊กลาส คอสต้า ในปี 2018, เอลาโน่ ในปี 2010, ซิซินโญ่ และ กิลแบร์โต ในปี 2006 และ เปาโล อิซิโดโร ในปี 1982 
  • ริชาร์ลิซอน ทำประตูให้บราซิลได้ 19 ประตูในทุกรายการ ซึ่งมากที่สุดเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น นับตั้งแต่เขาลงเล่นนัดแรกเมื่อเดือนกันยายน 2018 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์