พลิกล็อกครั้งใหญ่กับการประเดิมสนามของขุนพลอาร์เจนตินา ทีมหนึ่งในเต็งแชมป์ที่หลายสื่อคาดการณ์ว่า พวกเขามีดีพอที่จะลุ้นคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดฟ้าก็ถล่มตั้งแต่นัดแรกเปิดหัวของพวกเขาที่พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติ ซาอุดีอาระเบียไป 1-2 ชนิดที่แฟนฟุตบอลทั้งโลกไม่อยากจะเชื่อว่า พวกเขาจะแพ้ในเกมส์นี้
ซึ่งหากเรามองถึงภาพรวมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมส์นัดนี้แล้วก็ต้องบอกว่า แม้พวกเขาจะมีสตาร์ดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ นำทัพอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะพึ่งพาแต่เพียง เมสซี่ เท่านั้นและเมื่อผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ นี่คือ 4 ปัญหาใหญ่ที่พวกเขาต้องรีบแก้ก่อนจะสาย หากอยากเข้ารอบต่อไปในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้
ซึ่งหากเรามองถึงภาพรวมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมส์นัดนี้แล้วก็ต้องบอกว่า แม้พวกเขาจะมีสตาร์ดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ นำทัพอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะพึ่งพาแต่เพียง เมสซี่ เท่านั้นและเมื่อผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ นี่คือ 4 ปัญหาใหญ่ที่พวกเขาต้องรีบแก้ก่อนจะสาย หากอยากเข้ารอบต่อไปในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้
1. กองกลางที่ขาดตัวเชื่อมเกมส์แดนกลางทำให้ทุกอย่างดูขาดๆ เกินๆ เต็มไปหมด
อันดับแรกเมื่อมองดูแล้วในเกมส์ที่พบกับ ซาอุดีอาระเบีย เกมส์แดนกลางของเหล่าขุนพลอาร์เจนตินาแทบจะเก็บบอลอยู่กับตัวไม่ได้เลย คู่หูแดนกลางอย่าง โรดริโก เดอ ปอล และ เลอันโดร ปาเรเดส แทบจะสร้างสรรค์เกมส์ไม่ได้เลย จากการควบคุมจังหวะที่ขาดทิศทางในการทำเกมส์รวมไปถึงการร่วมกันเล่นเกมส์รับเมื่อยามซาอุดีอาระเบียสวนกลับมา ช่องว่างตรงนี้เกิดขึ้นค่อนข้างมาก หากจะไปต่อในรอบลึกๆ ส่วนนี้คือส่วนแรกที่ต้องได้รับการแก้ไข มิเช่นนั้นในนัดต่อๆ ไปที่จะเจอทั้ง เม็กซิโก และ โปแลนด์ เหนื่อยแน่นอน
2. อังเคล ดิ มาเรีย กับวันที่ไม่มีอะไรเป็นใจสักอย่าง
ปัญหาของ อังเคล ดิ มาเรีย หลายคนอาจจะมองว่า เจ้าตัวฟอร์มตก เจ้าตัวหมดแล้วในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จากการจ่ายบอลที่ไร้ซึ่งทิศทางและการขึ้นเกมส์ที่เก็บบอลกับตัวมากเกินไปและเป็นเหตุให้เสียบอลอยู่บ่อยครั้ง แต่หากมองภาพความเป็นจริงแล้วนอกจากฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวที่ดิ่งลงเหว อีกหนึ่งปัจจัยที่เราเห็นก็คือ ทุกครั้งที่ ดิ มาเรีย ได้บอลมักจะไม่มีผู้เล่นเข้ามาร่วมเล่นกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งยิ่งทำให้จังหวะต่างๆ ในการทำเกมส์ถูกบีบให้ต้องส่งบอลไปในพื้นที่ว่างและกลายเป็นจ่ายเสียซะเป็นส่วนใหญ่ จุดนี้เองจึงเป็นจุดที่น่าสนใจว่า การร่วมเล่นเป็นทีมทัพฟ้าขาวอาร์เจนตินาถึงตอนนี้แล้วยังมีอยู่หรือไม่ ดังนั้นวิธีแก้ไขคือไขน็อตตรงนี้ให้แน่นและเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นักเตะอย่าง ดิ มาเรีย จะกลับมาแผลงฤทธิ์ในแบบที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกรู้จักเขาอีกครั้ง3. แทคติคที่ไม่สอดคล้องกับผู้เล่นของอาร์เจนตินา
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดและนึกไม่ถึงมาก่อนว่า อาร์เจนตินาจะตัดสินใจเล่นด้วยวิธีแบบนี้จากการโดนนำ 2-1 ในช่วงกลางครึ่งหลัง แต่ ลิโอเนล สกาโลนี กุนซือของพวกเขาก็เลือกทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมายนั้นก็คือการเล่นด้วยวิธีการโจมตีลูกทางอากาศหรือการโยนบอมบ์ใส่เข้าไปในพื้นที่บริเวณกรอบเขตโทษนั่นเอง ซึ่งมันแปลกมากๆ ที่พวกเขาเลือกใช้วิธีนี้กับตัวรุกที่มีความสูงไม่มากทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร มาร์ติเนซ และ ฆูเลียน อัลบาเรซ ทำให้ผลก็ออกมาอย่างที่ทุกคนเห็นก็คือ แทคติกนี้ไม่เหมาะเป็นอย่างมากกับกลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ แบบนี้ถ้าไม่รีบแก้จะยิ่งแย่เอานะ ‘ลิโอเนล สกาโลนี’4. อีกครั้งที่ตัวเปลี่ยนเกมส์อย่าง เปาโล ดิบาล่า ไม่มีโอกาสได้สัมผัสเกมส์
ไม่รู้ว่าไปทำสร้างเคราะห์สร้างกรรมไว้ตั้งแต่ชาติปรางไหน เพราะฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่หนึ่งในผู้เล่นที่สามารถสร้างสรรค์เกมส์ได้อย่าง เปาโล ดิบาล่า ไม่มีโอกาสได้ลงสนามในนัดที่ทีมกำลังตกที่นั่งลำบากอีกแล้ว หลังจากที่หนก่อนเมื่อปี 2018 เจ้าตัวได้รับโอกาสเพียงแค่ 22 นาทีเท่านั้น ถึงตรงนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมดิบาล่า ถึงไม่ได้รับโอกาสนี้และหลายคนก็มองว่า ในยามที่ทีมตกที่นั่งลำบาก ชื่อของ ดิบาล่า ก็ควรได้รับโอกาสในการลงไปเล่นเช่นกัน งานนี้ก็ต้องมาดูว่าปัญหานี้ที่หลายคนมองจะมาการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นในแนวรุกหรือไม่หลังจากนี้แม้ถึงตรงนี้อาร์เจนตินาอาจจะยังไม่ตกรอบแรกหรือหมดโอกาสลุ้นในการเข้ารอบ แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า หากพวกเขายังคงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ได้ บางทีฝันของลิโอเนล เมสซี่ ที่อยากจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกก่อนแขวนสตั๊ดก็อาจจะค่อยๆ มลายหายไปทุกที