เดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศกันแล้วสำหรับมหกรรมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ โดยสองทีมที่ผ่านเข้ามาถึงนัดชิงก็คือ ทัพ ‘ฟ้าขาว’ ทีมชาติอาร์เจนตินา กับ ขุนพล ‘ตราไก่’ ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์โลกสมัยล่าสุดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยทั้งสองทีมจะลงสนามพบกันในคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม เวลา 22.00 น. แฟนบอลสามารถรับชมถ่ายทอดสดได้ทางช่อง True4U (24), 7HD (35) และ Truesport 2 (667)
สำหรับผลงานของทั้งสองทีมต้องบอกว่าสูสีกันพอสมควร ทางด้าน ทีมชาติฝรั่งเศสผ่านการลงเล่นมา 6 นัด แพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวคือพลาดท่าให้กับ ทีมชาติตูนิเซีย 1-0 เช่นเดียวกับทางฝั่ง ทีมชาติอาร์เจนตินาที่แพ้ไปนัดเดียวเหมือนกัน ตอนนัดเปิดสนามที่พลิกล็อกแพ้ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 1-2 ส่วนที่น่าสนใจคือเมื่อรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมาไม่กี่วัน ทั้งสองทีมต้องเจอกับทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นมากๆ ทั้งคู่อย่าง ทีมชาติโมร็อกโก ที่ก่อนจะมาเจอ ฝรั่งเศส พวกเขาเสียประตูไปเพียงแค่ลูกเดียว อีกทีมคือ ทีมชาติโครเอเชีย ที่ก่อนจะโดน อาร์เจนฯ ถล่ม 3-0 พวกเขาเล่นด้วยความเก๋าในเกมรับเขี่ยเต็ง 1 อย่าง ทีมชาติบราซิลตกรอบไปอีกต่างหาก
สำหรับผลงานของทั้งสองทีมต้องบอกว่าสูสีกันพอสมควร ทางด้าน ทีมชาติฝรั่งเศสผ่านการลงเล่นมา 6 นัด แพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวคือพลาดท่าให้กับ ทีมชาติตูนิเซีย 1-0 เช่นเดียวกับทางฝั่ง ทีมชาติอาร์เจนตินาที่แพ้ไปนัดเดียวเหมือนกัน ตอนนัดเปิดสนามที่พลิกล็อกแพ้ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 1-2 ส่วนที่น่าสนใจคือเมื่อรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมาไม่กี่วัน ทั้งสองทีมต้องเจอกับทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นมากๆ ทั้งคู่อย่าง ทีมชาติโมร็อกโก ที่ก่อนจะมาเจอ ฝรั่งเศส พวกเขาเสียประตูไปเพียงแค่ลูกเดียว อีกทีมคือ ทีมชาติโครเอเชีย ที่ก่อนจะโดน อาร์เจนฯ ถล่ม 3-0 พวกเขาเล่นด้วยความเก๋าในเกมรับเขี่ยเต็ง 1 อย่าง ทีมชาติบราซิลตกรอบไปอีกต่างหาก
ทีมไหนจะจารึกหน้าประวัติศาสตร์



ในนัดชิงชนะเลิศปีนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าใครจะเข้าวินกลายเป็นผู้ชนะก็จะได้บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ทั้งคู่อย่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา ถ้าเกิดพวกเขาคว้าแชมป์ได้ก็จะทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ดังกัปตันทีมคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกในการเล่นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเจ้าตัว เติมเต็มโทรฟี่ที่ขาดหายไปเพียงใบเดียวในตู้โชว์ของตัวเอง แถมยังจะตอกย้ำความเป็น GOAT (Greatest of All Time) บนโลกฟุตบอล กลายเป็นตำนานของแท้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ส่วนฝั่ง ทีมชาติฝรั่งเศส ที่มี คิลิยัน เอ็มบัปเป้ หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลตอนนี้ก็จะสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของตัวเองด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น เช่นเดียวกับการบันทึกประวัติศาสตร์เป็นชาติที่ 3 ที่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกได้ต่อจาก ทีมชาติอิตาลี และ ทีมชาติบราซิล
ส่วนฝั่ง ทีมชาติฝรั่งเศส ที่มี คิลิยัน เอ็มบัปเป้ หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลตอนนี้ก็จะสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของตัวเองด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น เช่นเดียวกับการบันทึกประวัติศาสตร์เป็นชาติที่ 3 ที่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกได้ต่อจาก ทีมชาติอิตาลี และ ทีมชาติบราซิล
ความพร้อมของทั้งสองทีม


เริ่มกันที่ทางฝั่งทวีปอเมริกาใต้ ทีมชาติอาร์เจนตินา เราเชื่อว่าพวกเขาไม่น่าจะเปลี่ยนทีมมากนัก น่าจะยึดแกนหลักเป็นผู้เล่นชุดเดิมที่ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ทั้ง เอมิเลียโน มาร์ติเนซ, นิโคลัส โอตาเมนดี, เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ, โรดริโก เดอ ปอล, ฮูเลียน อัลบาเรซ กองหน้าฟอร์มแรงที่ผลงานกำลังมาสุดๆ และ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมความหวังของชาติ
สำหรับฝั่งแชมป์เก่าเมื่อปี 2018 ทีมชาติฝรั่งเศส ก็น่าจะเหมือนกับ อาร์เจนตินา คือไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก นักเตะตัวหลักอย่าง อูโก้ ญอริส, ราฟาเอล วาราน, เตโอ เอร์นานเดซ, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อองตวน กรีซมันน์, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้ลงสนามทั้งหมด มีแค่ต้องรอเช็คฟิต ดาโยต์ อูปาเมกาโน และ อาเดรียน ราบิโอต์ ว่าจะฟิตกลับมาลงสนามทันไหม
ทางด้านรูปเกมอย่างที่เราเห็นกันไปตลอดทัวร์นาเมนต์ก็คือ ทั้งสองทีมมีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมและดุดันทั้งคู่ อาจจะมีเพียงแค่ ฝรั่งเศส ที่มีเกมรับที่แข็งแกร่งกว่า อาร์เจนตินา เล็กน้อย เพราะเวลาพวกเขาขึ้นนำเมื่อไหร่ก็จะเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น แล้วรอใช้เกมโต้กลับโจมตีคู่ต่อสู้ ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นน่าจะไม่ต้องพูดกันเยอะ เพราะคุณภาพของทั้งคู่สูสีใกล้เคียงกันมากๆ มองว่าในเกมนี้น่าจะไม่ต้องไปยื้อกันถึงฎีกาดวลจุดโทษ สามารถจบได้เลยในเวลาปกติ 90 นาที อยู่ที่ว่าใครจะเฉียบขาดมากกว่า ขึ้นนำก่อนและกุมความได้เปรียบไปจนจบเกม ปิดท้ายด้วยสถิติเล็กน้อยอย่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ได้เล่นในสนามนัดชิง Lusail Iconic Stadium มาแล้วถึง 4 นัด ในขณะที่ ทีมชาติฝรั่งเศส ยังไม่เคยเล่นที่นี่เลย ถึงจะเป็นสนามกลางแต่ก็อาจจะทำให้ทัพ ‘ฟ้าขาว’ มีความได้เปรียบในเรื่องของความคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย
26 พฤศจิกายน 2022 อาร์เจนตินา 2-0 เม็กซิโก
30 พฤศจิกายน 2022 โปแลนด์ 0-2 อาร์เจนตินา
4 ธันวาคม 2022 อาร์เจนตินา 2-1 ออสเตรเลีย
9 ธันวาคม 2022 เนเธอร์แลนด์ 2-2 อาร์เจนตินา (ชนะจุดโทษ 4-3)
13 ธันวาคม 2022 อาร์เจนตินา 3-0 โครเอเชีย
26 พฤศจิกายน 2022 ฝรั่งเศส 2-1 เดนมาร์ก
30 พฤศจิกายน 2022 ตูนิเซีย 1-0 ฝรั่งเศส
4 ธันวาคม 2022 ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์
10 ธันวาคม 2022 อังกฤษ 1-2 ฝรั่งเศส
14 ธันวาคม 2022 ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
กระชับมิตร 1986 ฝรั่งเศส 2-0 อาร์เจนตินา
กระชับมิตร 2007 ฝรั่งเศส 0-1 อาร์เจนตินา
กระชับมิตร 2009 ฝรั่งเศส 0-2 อาร์เจนตินา
ฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศส 4-3 อาร์เจนตินา
สำหรับฝั่งแชมป์เก่าเมื่อปี 2018 ทีมชาติฝรั่งเศส ก็น่าจะเหมือนกับ อาร์เจนตินา คือไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก นักเตะตัวหลักอย่าง อูโก้ ญอริส, ราฟาเอล วาราน, เตโอ เอร์นานเดซ, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อองตวน กรีซมันน์, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้ลงสนามทั้งหมด มีแค่ต้องรอเช็คฟิต ดาโยต์ อูปาเมกาโน และ อาเดรียน ราบิโอต์ ว่าจะฟิตกลับมาลงสนามทันไหม
ทางด้านรูปเกมอย่างที่เราเห็นกันไปตลอดทัวร์นาเมนต์ก็คือ ทั้งสองทีมมีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมและดุดันทั้งคู่ อาจจะมีเพียงแค่ ฝรั่งเศส ที่มีเกมรับที่แข็งแกร่งกว่า อาร์เจนตินา เล็กน้อย เพราะเวลาพวกเขาขึ้นนำเมื่อไหร่ก็จะเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น แล้วรอใช้เกมโต้กลับโจมตีคู่ต่อสู้ ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นน่าจะไม่ต้องพูดกันเยอะ เพราะคุณภาพของทั้งคู่สูสีใกล้เคียงกันมากๆ มองว่าในเกมนี้น่าจะไม่ต้องไปยื้อกันถึงฎีกาดวลจุดโทษ สามารถจบได้เลยในเวลาปกติ 90 นาที อยู่ที่ว่าใครจะเฉียบขาดมากกว่า ขึ้นนำก่อนและกุมความได้เปรียบไปจนจบเกม ปิดท้ายด้วยสถิติเล็กน้อยอย่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ได้เล่นในสนามนัดชิง Lusail Iconic Stadium มาแล้วถึง 4 นัด ในขณะที่ ทีมชาติฝรั่งเศส ยังไม่เคยเล่นที่นี่เลย ถึงจะเป็นสนามกลางแต่ก็อาจจะทำให้ทัพ ‘ฟ้าขาว’ มีความได้เปรียบในเรื่องของความคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย
ผลงานในฟุตบอลโลก 2022 ของ ทีมชาติอาร์เจนตินา
22 พฤศจิกายน 2022 อาร์เจนตินา 1-2 ซาอุดิอาระเบีย26 พฤศจิกายน 2022 อาร์เจนตินา 2-0 เม็กซิโก
30 พฤศจิกายน 2022 โปแลนด์ 0-2 อาร์เจนตินา
4 ธันวาคม 2022 อาร์เจนตินา 2-1 ออสเตรเลีย
9 ธันวาคม 2022 เนเธอร์แลนด์ 2-2 อาร์เจนตินา (ชนะจุดโทษ 4-3)
13 ธันวาคม 2022 อาร์เจนตินา 3-0 โครเอเชีย
ผลงานในฟุตบอลโลก 2022 ของ ทีมชาติฝรั่งเศส
22 พฤศจิกายน 2022 ฝรั่งเศส 4-1 ออสเตรเลีย26 พฤศจิกายน 2022 ฝรั่งเศส 2-1 เดนมาร์ก
30 พฤศจิกายน 2022 ตูนิเซีย 1-0 ฝรั่งเศส
4 ธันวาคม 2022 ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์
10 ธันวาคม 2022 อังกฤษ 1-2 ฝรั่งเศส
14 ธันวาคม 2022 ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
ผลงานกันพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
ฟุตบอลโลก 1978 อาร์เจนตินา 2-1 ฝรั่งเศสกระชับมิตร 1986 ฝรั่งเศส 2-0 อาร์เจนตินา
กระชับมิตร 2007 ฝรั่งเศส 0-1 อาร์เจนตินา
กระชับมิตร 2009 ฝรั่งเศส 0-2 อาร์เจนตินา
ฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศส 4-3 อาร์เจนตินา