รูดม่านเปิดฉากฟาดแข้งกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับมหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ที่จัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคม ซึ่งนัดแรกที่เริ่มประเดิมสนามกันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากทีมชาติเจ้าภาพ ‘กาตาร์’ พบกับทีมชาติตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้อย่าง ‘เอกวาดอร์’ ซึ่งผลการแข่งขันก็ปรากฏว่า ทีมชาติเอกวาดอร์ เอาชนะไปอย่างง่ายดายด้วยสกอร์ 3-0 ชนิดที่กาตาร์พ่ายแพ้ทั้งแทคติกในสนามอย่างหมดสิ้นเชิง โดยประเด็นที่เราจะหยิบยกมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คือ ควันหลงจากเกมคู่นี้ว่าทั้ง 2 ฝั่งเกิดอะไรขึ้นบ้างและชัยชนะครั้งนี้สำคัญต่อทีมชาติเอกวาดอร์อย่างไร

1. ทีมชาติเจ้าภาพกับผลงานการประเดิมสนามที่ไม่สวยหรูในรอบ 12 ปี
จากผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นในนัดนี้ทำให้สิ่งแรกที่ต้องหยิบมาพูดถึงเลยก็คือ สถิติสุดสวยหรูของทีมชาติเจ้าภาพในการลงสนามในการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ตลอด 12 ปีที่ผ่านมาหรือฟุตบอลโลก 3 ครั้งก่อนหน้านั้น ไม่เคยมีทีมเจ้าภาพทีมไหนที่แข่งขันในนัดแรกและผลจบลงด้วยความพ่ายแพ้มาก่อน ซึ่งก็ทำให้ทีมชาติกาตาร์ ถือว่าเป็นทีมชาติแรกที่ประเดิมสนามด้วยความพ่ายแพ้และเสียสถิติที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปอย่างเป็นทางการ

2. VAR และ SAOT เทคโนโลยีใหม่ที่จะตรวจจับทุกอย่างด้วยรายละเอียดที่มากขึ้นกว่าเดิม
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้ช่วงนาทีที่ 5 ของการแข่งขัน โดยเป็นจังหวะการทำประตูของศูนย์หน้าทีมชาติเอกวาดอร์ ‘เอนเนอร์ วาเลนเซีย’ ที่หากเราดูถ่ายทอดสดแล้วจะเห็นได้ว่า จังหวะนี้อาจจะไม่มีอะไรหวือหวาสักเท่าไหร่ก็น่าจะเป็นประตูไปตามระเบียบ แต่แล้วด้วยระบบ SAOT ‘Semi - Automated Offside Technology’ ก็จับได้ว่ามีหนึ่งนักเตะของทีมชาติ เอกวาดอร์ ที่ล้ำหน้าอยู่เพียงแค่ปลายขาเท่านั้นเอง ซึ่งจากเทคโนโลยีที่จับละเอียดขนาดนี้ก็เชื่อได้ว่า ฟุตบอลโลกหนนี้เราน่าจะได้เห็นจังหวะที่เหนือธรรมชาติอีกหลายจังหวะที่เกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้อย่างแน่นอน
3. กาตาร์โอกาสยิงเข้ากรอบเท่ากับศูนย์
เป็นอีกหนึ่งนัดที่ทีมชาติเจ้าภาพอย่าง กาตาร์ ทำได้ดีที่สุดแค่เพียงถ่ายบอลไปมาในสนามระหว่างแดนหลังและแดนกลางเพียงเท่านั้น เพราะตลอด 90 นาทีจากสถิติที่ออกมาพวกเขาไม่สามารถเจาะประตูของเอกวาดอร์แบบชัดเจนได้เลย แม้แต่เพียงครั้งเดียว อีกทั้งยังมีสถิติการยิงเข้ากรอบ (ยิงโดยที่ผู้รักษาประตูได้รับบอล) อยู่ที่ 0 ครั้งในแมตช์นี้ ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อว่าในทัวร์นาเมนท์ใหญ่ระดับโลกครั้งนี้พวกเขาจะทำประตูทีมชาติคู่แข่งในกลุ่ม เอ ได้หรือไม่
4. ศักดิ์ศรีของเอกวาดอร์และพวกเขาไม่ได้โดนจ้างให้ล้มบอล
ก่อนการแข่งขันมีข่าวผู้เล่นทีมชาติเอกวาดอร์ 8 คน โดนจ้างให้ล้มบอลและล็อคผลการแข่งขันนัดนี้ให้ทีมชาติของพวกเขาแพ้กาตาร์ด้วยสกอร์ 0-1 ซึ่งหลายคนก็ต้องจับตามองว่า เมื่อการแข่งขันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ทุกคนคิดไว้ตามข่าวมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ด้วยสปริตและศักดิ์ศรีของเอกวาดอร์ก็แสดงออกมาให้แฟนฟุตบอลทั้งโลกเห็นแล้วว่า มันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเกิดขึ้นแน่นอนและมันจากรูปเกมส์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราเห็นแล้วว่า พวกเขาครองบอลไว้ได้ตลอด 90 นาที ที่เกิดขึ้นในแมตช์นี้พร้อมกับเป็น 3 แต้มแรกที่ได้จากการทำงานอย่างตั้งใจของพวกเขาชนิดที่ไร้ซึ่งข้อกังขาใดๆ อีกด้วย
5. เอนเนอร์ วาเลนเซีย กับการจารึกว่าเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลก 2022
ถ้าประตูแรกในฟุตบอลโลกจะเกิดกับใครสักคนนึง นักเตะคนนั้นก็ควรจะเป็นนักเตะจอมเก๋าที่มีประวัติศาสตร์และมีเรื่องราวความผูกพันต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอลโลกสักหน่อยมันก็คงจะดี ซึ่งในครั้งนี้เหมือนฟ้าดลใจให้ประตูแรกในการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นกับนักเตะยอดดาวยิงชาวเอกวาดอร์คนนี้ ‘เอนเนอร์ วาเลนเซีย’ กัปตันทีมชาติเอกวาดอร์ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกในชีวิตเมื่อปี 2014 ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทีมในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยความคมจากการสังหารจุดโทษและการโหม่งประตูที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวก็ส่งผลให้ศูนย์หน้าวัย 33 ปีคนนี้ทำประตูไปได้ถึง 2 ประตูด้วยกันในการลงเล่นนัดแรกและก็เกือบมีโอกาสที่จะทำแฮตทริกในแมตช์นี้ด้วย ถ้าเจ้าตัวไม่บาดเจ็บไปเสียก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าในนัดที่ 2 ที่เจอกับเนเธอร์แลนด์เจ้าตัวจะหายทันจากอาการบาดเจ็บนี้และลงมานำทัพเอกวาดอร์ได้อีกครั้ง พร้อมกับสร้างสถิติให้กับประเทศและตนเองต่อไป