โค้ชธงและแอนฟิลด์ไม่ใช่คู่แรก! เพราะดูโอ้พ่อลูกอันเชล็อตติ ก็เป็นโค้ชและผู้ช่วยโค้ชในทีมเดียวกัน

10 พ.ค. 2566 - 09:15

  • ‘โค้ชธง’ ธงชัย สุขโกกี ได้ก้าวมารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทัพ ‘เดอะ แรบบิท’ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการตั้ง ‘แอนฟิลด์’ หัสดิน สุขโกกี ลูกชายวัย 22 ปี เข้ามาเป็นมือขวาคนใหม่

  • แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกหนึ่งคู่หูพ่อลูกที่ทำงานร่วมกันแบบนนี้ นั่นก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ และ ดาวิเด้ อันเชล็อตติ ลูกชายแท้ๆ ที่ตอนนี้ทำงานด้วยกันอยู่ที่ เรอัล มาดริด

Carlo-and-Davide-Ancelotti-work-together-at-Real-Madrid-SPACEBAR-Hero
หลายคนน่าจะทราบกันไปแล้วว่า ‘โค้ชธง’ ธงชัย สุขโกกี ได้ก้าวมารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทัพ ‘เดอะ แรบบิท’ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลังจากที่เจ้าตัวสร้างผลงานกระฉ่อนพาทีม ‘เสือป่าราชา’ นครปฐม ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นมาตั้งแต่ ไทยลีก 4 จนถึง ไทยลีก 1 โดยในฤดูกาลล่าสุดเขาพาทีมขึ้นเป็นจ่าฝูง ไทยลีก 2 ก่อนจะนำแบบม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของไทยได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี 

และล่าสุดเมื่อวานนี้ โค้ชธง ก็เพิ่งจะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการตั้ง ‘แอนฟิลด์’ หัสดิน สุขโกกี ลูกชายวัย 22 ปี เข้ามาเป็นมือขวาคนใหม่ที่จะมาช่วยงานที่บีจี ปทุม ด้วย สำหรับน้องแอนฟิลด์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งเดียวกับผู้เป็นพ่อนั่นก็คือ ผู้รักษาประตู ก่อนที่จะประกาศแขวถุงมือเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้ยังมีดีกรีการเป็นโค้ชในระดับ บี ไลเซนส์ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการตั้งลูกชายเป็นผู้ช่วยโค้ชในครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ของแฟนบอลอย่างเราๆ แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกหนึ่งคู่หูพ่อลูกที่ทำงานร่วมกันแบบนนี้ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน และผู้ช่วยผู้ฝึกสอน แถมยังอยู่ในระดับโลกด้วย โดยดูโอ้คู่นี้ก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคนเก่งของ ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ที่มี ดาวิเด้ อันเชล็อตติ ลูกชายแท้ๆ เป็นผู้ช่วยนั่นเอง 

เรื่องนี้อาจจะไม่คุ้นตาคนดูบอลกันสักเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วเราจะเห็นผู้เป็นพ่อทำหน้าที่โค้ช โดยที่ลูกของพวกเขาเป็นนักเตะมากกว่า น้อยมากที่เราจะเห็นคู่พ่อลูกทำงานเป็นผู้จัดการทีมทั้งคู่ในเจเนอเรชั่นเดียวกัน สำหรับดาวิเด้ ลูกชายของอันเช่ก็ได้เดินตามรอยเท้าพ่อของเขาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ โดยเริ่มต้นค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2009 และเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมงานของพ่อเมื่อปี 2011 ในตำแหน่งโค้ชฟิตเนสที่เปแอสเช และตำแหน่งเดียวกันที่เรอัล มาดริด ในปี 2013 – 2015 

หลังจากนั้นเมื่ออันเช่ออกจากมาดริด ดาวิเด้ก็ตามพ่อของเขาไปที่ บาเยิร์น มิวนิค ด้วย แต่หนนี้เขาก้าวขึ้นมาเป็นมือขวาของพ่อแบบเต็มตัว ต่อเนื่องไปจนถึงตอนอยู่ นาโปลี, เอฟเวอร์ตัน และ เรอัล มาดริด อีกรอบในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ดาวิเด้ในวัย 32 ปี ก็กำลังใช้ชีวิตตามความฝันของเขา โดยเรียนรู้งานจากผู้เป็นพ่อ เพราะถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้มีอาชีพค้าแข้งในฐานะนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตเขาอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดกุนซือเหมือนพ่อของเขาก็ได้ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์