Red Bull กวาดเรียบ! สรุปผล F1 2023 สนามที่ 9 ‘Austrian Grand Prix’

จบ Canadian Grand Prix ไปได้ยังไม่ถึง 2 อาทิตย์ ศึกรถสูตรหนึ่ง Formula 1 ก็กลับมาลงแข่งขันต่ออีกครั้งกับสนามที่ 9 ในชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘GROSSER PREIS VON ÖSTERREICH’ หรือง่ายๆ ก็ ‘Austrian Grand Prix’ สนามแข่งที่ประเทศออสเตรีย ซึ่งถือเป็น ‘โฮมเรซ’ หรือ สนามแข่งในบ้านของทีมแชมป์โลก Red Bull ด้วย และตามธรรมเนียมหลังดูจบ SPACEBAR ก็จะขอมาสรุปผลการแข่งขันให้ทุกคนเหมือนเคย แต่รอบนี้เราขอโยกมาลงเพจ Spacebar VIBE อีกเพจใหม่ของเราที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังไงก็ฝากคอลัมน์เกี่ยวกับ F1 ไว้ในอ้อมใจด้วยครับ สำหรับ Austrian Grand Prix จะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามได้เลยครับ

สำหรับ Red Bull Ring สนามที่ใช้จัดการแข่งขัน Austrian Grand Prix เป็นสนามเก่าแก่ที่ใช้จัดการแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1970 และล่าสุดก็เพิ่งประกาศว่าอย่างน้อยๆ เซอร์กิตแห่งนี้ก็จะอยู่กับการแข่ง F1 ไปจนถึงปี 2030 โดย Red Bull Ring มีความยาวแทร็คอยู่ที่ 4.318 กิโลเมตร แข่งกันทั้งหมด 71 รอบ มีโซนให้สามารถใช้ DRS หรือการเปิดปีกท้ายได้ทั้งหมด 3 โซน โซนแรกอยู่ตรงหลังหลุดโค้ง 1 ยาวไปจนถึงก่อนโค้ง 3 โซนที่ 2 ต่อตรงหลังหลุดโค้ง 3 ไปจนถึงก่อนโค้ง 4 และโซนสุดท้ายอยู่บริเวณหลังออกจากโค้ง 10 วิ่งยาวไปถึงก่อนโค้ง 1  และจุดน่าสนใจอีกอย่างของแทร็คนี้คือมีโค้งแค่ 10 โค้ง เท่านั้น น้อยที่สุดในบรรดาสนามแข่งทั้งหมดของ F1 แต่ก็มาพร้อมข้อจำกัดในเรื่อง Track Limit หรือ การหลุดขอบแทร็คบริเวณเส้นขาวแดงที่ห้ามล้อทั้งสองข้างหลุดเส้นขาวออกไป ซึ่งค่อนข้างเข้มงวดมาก ถ้าโดนเตือนเกินลิมิตก็จะโดนบวกเวลาเพิ่ม 5 วินาที จนนักขับต่างบ่นกันระงมในช่วงควอลิฟาย หลายคนไม่ได้เวลา เพราะโดนข้อหานี้กันเยอะพอสมควร 

นอกจากนี้ Austrian Grand Prix ยังเป็นสนามที่ 2 ในซีซัน 2023 ที่มีการแข่งขัน Sprint Race หรือการแข่งขันระยะสั้น ก่อนวันแข่งขันจริงด้วย ซึ่งทำเพื่อเพิ่มเดิมพันในการลุ้นคะแนนสะสมแชมป์โลกให้มากขึ้น โดยการแข่งแบบนี้จะใช้ระยะทาง 1 ใน 3 ของการแข่งจริง และจะมีการให้คะแนนเฉพาะอันดับ 1-8 ต่างจากการแข่งจริงที่ให้ตั้งแต่อันดับ 1-10 และคนที่ได้อันดับ 1 ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Max Verstappen นั่นเอง คว้าไป 8 คะแนนเต็มก่อนแข่งเมนเรซ  

มาถึงในส่วนของ Starting Grid ก็ยังคงเป็น Max Verstappen นับขับแชมป์โลก ที่ออกสตาร์ตใน Pole Position เหมือเดิม ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง ‘Checo’ Sergio Perez ออกสตาร์ตอันดับ 15 เพราะทำเวลาไม่ถึง Q3 ในรอบควอลิฟาย เนื่องจากโดน Track Limit เล่นงาน ทางฝั่งนักขับ Mercedes อย่าง Lewis Hamilton เริ่มในอันดับที่ 5 และ George Russell อันดับ 11 ด้าน Aston Martin ออกสตาร์ตติดกันเลย เริ่มจาก Lance Stroll อันดับ 6 และรุ่นพี่ Fernando Alonso อันดับที่ 7 และน่าสนใจมากๆ กับ Ferrari ที่ได้ออกสตาร์ตหัวแถวทั้ง 2 คัน โดยเป็น Charles Leclerc อันดับ 2 และ Carlos Sainz สตาร์ตอันดับที่ 3 ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี Lando Norris ของ McLaren เริ่มอันดับที่ 4, Nico Hulkenberg จาก Haas อันดับที่ 8 และ Alexander Albon นักขับไทยของทีม Williams อันดับ 10 

โดยมีเหตุการณ์น่าสนใจของการแข่งขันเมนเรซศึก Austrian Grand Prix ตั้งแต่รอบแรก เมื่อทาง Yuki Tsunoda นักขับแดนปลาดิบของ AlphaTauri ดันไปปะทะกับรถของทีม Alpine ในช่วงโค้งแรก จนปีกหน้าเสียหายชิ้นส่วนหลุด ทำให้ Safety Car ต้องออกมาวิ่งตั้งแต่เริ่ม เพื่อทำการเคลียร์สนามให้ปลอดภัย และแน่นอนอย่างที่เราบอกไปก่อนหน้าว่า สนามนี้ค่อนข้างเข้มงวดเรื่อง Track Limit ทำให้ทาง Race Control ประกาศลงโทษคนที่ผิดกฎบ่อยมากๆ ตลอดการแข่ง  

ซึ่งผู้ชนะของเรซนี้ก็เหมือนเดิมคือ Max Verstappen ที่วิ่งเข้าไปรับธงหมากรุกเป็นคันแรก โดยไฮไลต์คือหลังจากที่เขากับทีมมั่นใจว่าชนะแน่ๆ ก็เลือกที่จะเข้าพิทไปเปลี่ยนเป็นยาง Soft ในรอบสุดท้าย เพื่อจะเอาทั้งอันดับที่ 1 และ Fastest Lap ซึ่งก็ทำได้จริงด้วยเวลา 1:07.012 นาที และทำให้ Max ชนะสนามนี้เป็นครั้งที่ 5 จาก 8 ครั้งที่ได้ยืนบนโพเดียม เรียกว่าถูกโฉลกสุดๆ กับ Red Bull Ring ในขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ Charles Leclerc ที่เหมือนได้ชุดอัพเกรดรถมาใหม่ บวกขับดีจนได้จบแบบยืนโพเดียม แต่ทางฝั่ง Ferrari เองก็ยังเหมือนมีการวางแผนงงๆ อยู่บ้าง เพราะมีการเรียกรถเข้า Pit แบบ Double Stack 2 คันซ้อน ทำให้เสียเวลา เพราะเปลี่ยนคันแรกคือ Leclerc ช้า Sainz ก็เลยช้าไปด้วย แถมเปลี่ยนออกมาเป็นยาง Medium ทั้งคู่ ทำให้ต้องเข้าไปเปลี่ยนเป็นยาง Hard อีกรอบ ตรงนี้เลยเสียโอกาสทำเวลาไป 

ในขณะที่ตำแหน่งโพเดียมอีกคันบอกเลยว่าต้องชม ‘Checo’ Sergio Perez มากๆ หลังจากออกสตาร์ตอันดับ 15 แต่ไล่แซงมา 12 คัน จบในอันดับที่ 3 ได้ โดยช่วงไฮไลท์สุดมันของเจ้าตัวในเรซนี้อยู่ที่การไล่บี้แย่งอันดับ 3 กับ Carlos Sainz ตั้งแต่รอบที่ 58 ซึ่งทั้ง 2 คนขับแซงกันไปกันมา ทั้งช่วงทางโค้ง ทางตรงที่เปิด DRS จนสุดท้ายในรอบที่ 61 เป็น Checo ที่ออกไลน์ซ้ายแล้วเปิด DRS แซงขึ้นมายึดอันดับที่ 3 จาก Sainz ได้สำเร็จ และในเรซนี้มีแข่งไม่จบเพียงแค่คันเดียวคือ Nico Hulkenberg ของ Haas ที่รถมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ ต้องรีไทร์ไปในรอบที่ 14 

ส่วนผลการแข่งขันอันดับอื่นๆ ทั้งหมดของ Austrian Grand Prix รวมไปถึงอันดับคะแนนสะสมล่าสุดของนักแข่งและทีมผู้ผลิต จะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามด้านล่างนี้ได้เลยครับ 

ผลการแข่งขัน GROSSER PREIS VON ÖSTERREICH (Austrian Grand Prix) 

1. Max Verstappen (Red Bull Racing) 
2. Charles Leclerc (Ferrari) 
3. Sergio Perez (Red Bull Racing) 
4. Lando Norris (McLaren) 
5. Fernando Alonso (Aston Martin) 
6. Carlos Sainz (Ferrari) 
7. George Russell (Mercedes) 
8. Lewis Hamilton (Mercedes) 
9. Lance Stroll (Aston Martin) 
10. Pierre Gasly (Alpine) 
11. Alexander Albon (Williams) 
12. Zhou Guanyu (Alfa Romeo) 
13. Logan Sargeant (Williams) 
14. Esteban Ocon (Alpine) 
15. Valtteri Bottas (Alfa Romeo) 
16. Oscar Piastri (McLaren) 
17. Nyck de Vries (AlphaTauri) 
18. Kevin Magnussen (Haas F1 Team) 
19. Yuki Tsunoda (AlphaTauri) 

5 อันดับคะแนนสะสมนักแข่ง 

1. Max Verstappen 229 คะแนน 
2. Sergio Perez 148 คะแนน 
3. Fernando Alonso 131 คะแนน 
4. Lewis Hamilton 106 คะแนน 
5. Carlos Sainz 82 คะแนน 

อันดับคะแนนสะสมทีมผู้ผลิต 

1. Red Bull Racing 377 คะแนน 
2. Mercedes 178 คะแนน 
3. Aston Martin 175 คะแนน 
4. Ferrari 154 คะแนน 
5. Alpine 47 คะแนน 
6. McLaren 29 คะแนน 
7. Haas F1 Team 11 คะแนน 
8. Alfa Romeo 9 คะแนน 
9. Williams 7 คะแนน 
10. AlphaTauri 2 คะแนน