Red Bull กวาดเรียบครึ่งซีซัน! สรุปผล F1 2023 เรซที่ 12 ‘Belgian Grand Prix’

แข่งขัน ‘Hungarian Grand Prix’ จบกันไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ศึกรถสูตรหนึ่ง หรือ Formula 1 ก็เดินหน้าแข่งขันกันต่อแบบไม่พักเบรกเลยในเรซที่ 12 ประจำซีซัน 2023 กับ ‘Belgian Grand Prix’ ที่สนาม Circuit de Spa-Francorchamps ประเทศเบลเยียม และตามธรรมเนียมหลังดูจบ Spacebar VIBE ก็จะมาสรุปผลการแข่งขันให้ทุกคนได้ทราบกันเหมือนเคย แล้ว Belgian Grand Prix ในปีนี้จะมีอะไรน่าสนใจ และผลการแข่งขันเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามได้เลยครับ

สำหรับ Spa-Francorchamps สนามแข่งขันประจำ Belgian Grand Prix เริ่มจัดการแข่งขัน Grand Prix ครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1950 ซึ่งนอกจากจะจัด Formula 1 แล้ว ยังจัดการแข่งขันดังๆ มากมาย เช่น 24 Hours of Spa, World Endurance Championship 6 Hours of Spa-Francorchamps เป็นต้นน และสนามแห่งนี้ยังเคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียนักแข่งรถไปถึง 2 คน คนแรกคือ Anthoine Hubert นักขับ Formula 2 ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2019 ส่วนอีกคนคือ Dilano Van 't Hoff นักขับรายการ Formula Regional European Championship หรือ FRECA ที่เกิดอุบัติเหตุไปล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่ามา เพราะสภาพสนามที่ฝนตกหนัก โดย Hubert เป็นเพื่อนสนิทของ Pierre Gasly นักขับทีม Alpine และในทุกๆ ปี Gasly ก็จะไปวางดอกไม้ไว้อาลัยให้เพื่อนบริเวณสนามช่วงที่เกิดอุบัติเหตุเสมอ ซึ่งปีนี้ก็เช่นกัน เขายังทำเหมือนเดิมเหมือนที่เคยทำทุกปี 

ต่อกันที่ข้อมูลโดยรวมของสนาม Spa-Francorchamps กันบ้าง แทร็คนี้มีความยาวทั้งหมด 7.004 กิโลเมตร ทำการแข่งขันกันทั้งหมด 44 รอบ เป็นเซอร์กิตที่มีทั้งทางตรงยาวๆ และโค้งเล็กโค้งน้อย รวมไปถึงโค้งลึกยากๆ ก็มีด้วยเหมือนกัน โดยมีโค้งทั้งหมด 19 โค้ง มีโซนให้ใช้ DRS หรือ การเปิดปีกท้ายเพื่อเพิ่มความเร็วทั้งหมด 2 โซน โซนแรกจะอยู่บริเวณหลังออกจากโค้ง 4 วิ่งทางตรงยาว Kemmel Straight ไปจนถึงก่อนเข้าโค้ง 5 ในขณะที่โซนที่สองจะอยู่ตรงหลังออก Chicane หรือโค้งสั้น 2 โค้งต่อกัน คือ โค้ง 18 และ 19 วิ่งผ่านจุดสตาร์ทไปจนถึงก่อนเข้าโค้ง La Source หรือ โค้ง 1 นั่นเอง

และ Belgian Grand Prix ก็เป็นสนามที่ 3 ในซีซัน 2023 ที่มีการแข่งขัน Sprint Race หรือการแข่งขันระยะสั้น ก่อนวันแข่งขันจริง เพื่อเพิ่มโอกาสในการลุ้นคะแนนสะสมแชมป์โลกให้มากขึ้น โดยจะใช้ระยะทาง 1 ใน 3 ของการแข่งจริง และจะมีการให้คะแนนเฉพาะอันดับ 1-8 ต่างจากการแข่งจริงที่ให้ตั้งแต่อันดับ 1-10 ซึ่งตอนแข่ง Sprint Race ก็มีการดีเลย์ไปนานพอสมควร เพราะก่อนหน้ามีฝนตกหนัก แล้วไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดกับ Dilano Van 't Hoff ขึ้นอีก ทาง FIA เลยต้องเช็คให้ชัวร์ว่าแทร็คปลอดภัยและพร้อมสำหรับการแข่งจริง  

โดยก่อนเริ่มก็มี Safety Car ออกมาวิ่ง Formation Lap แล้วให้นักแข่งขับตามอยู่หลายรอบ จนฝนเริ่มเบาลง ทำให้ Safety Car วิ่งออกได้ แล้วเริ่มการแข่งแบบ Rolling Start หรือ แข่งแบบไม่ต้องสตาร์ทจาก Grid หลายๆ ทีมก็เลยเตรียมเข้าพิท เพื่อไปเปลี่ยนยางจาก Full Wet เป็น Intermediate แทน นั่นก็ทำให้ Oscar Piastri ได้เป็นผู้นำจนถึงรอบที่ 6 ก่อนจะโดน Max Verstappen แซงกลับ โดยในเรซนี้มีรถ 2 คันที่แข่งไม่จบ คันแรกเป็น Fernando Alonso ขับปีน Curve โค้ง ทำให้รถหมุน 3 รอบ เกือบชนกำแพง จนต้องออกจากการแข่ง และอีกคันคือ Sergio Perez ที่ไปเฉี่ยวชนกับ Lewis Hamilton จนยางหลังมีปัญหา ต้องออกจากการแข่งขัน ซึ่งตรงนี้เอง Hamilton ก็โดนลงโทษบวกเวลา 5 วินาที โดยผู้ชนะเป็น Max Verstappen ตามมาด้วย Oscar Piastri อันดับ 2 และ Pierre Gasly ในอันดับที่ 3 ทำผลงานได้ดีมากๆ ทั้งที่ Team Principle และ Sporting Director กำลังจะออกจากทีมหลังจบเรซนี้ 

มาถึงส่วนของ Starting Grid ช่วงเมนเรซกันบ้าง ที่คราวนี้ถึงแม้ว่า Max Verstappen จะทำเวลาได้ดีที่สุดในรอบควอลิฟาย แต่ก็ไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นคันแรก เพราะเจ้าตัวไปโดนลงโทษลด Grid ลง 5 ตำแหน่ง จากสาเหตุที่ไปเปลี่ยน Gear Box ในระหว่างแข่ง ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎ ทำให้เขาหล่นไปออกสตาร์ทในอันดับที่ 6 แทน ในขณะที่ ‘Checo’ Sergio Perez เพื่อนร่วมทีมออกสตาร์ทอันดับ 2 สำหรับตำแหน่ง Pole Position ตกเป็นของ Charles Leclerc จาก Ferrari ส่วนเพื่อนร่วมทีมอย่าง Carlos Sainz อยู่อันดับ 4 ด้านทีม ‘Sir Lewis’ Lewis Hamilton และ George Russell ของทีม Mercedes ออกสตาร์ทอันดับ 3 และ 8 ตามลำดับ นอกจากนี้อันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี Oscar Piastri อันดับ 5, Lando Norris อันดับ 7, Fernando Alonso อันดับ 9 และ Alexander Albon อันดับที่ 15 

ต่อกันที่ช่วงของการแข่งขัน Belgian Grand Prix รถส่วนใหญ่จะสตาร์ทด้วยยาง Soft ด้วยสภาพแทร็คที่แห้ง เพราะก่อนหน้านี้สองวันเจอฝน และต้องวิ่งแทร็คเปียกกันตลอด แล้วก็เกิดเรื่องตั้งแต่โค้งแรกของการแข่ง เมื่อทาง Oscar Piastri ที่ออกสตาร์ทอันดับ 5 ไปปะทะกับ Carlos Sainz จนสุดท้ายต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย และก็ทำให้หลังจากนั้นรถของ Carlos Sainz มีปัญหาเหมือนกัน จนต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 24 

ส่วนเรื่องน่าเสียดายสำหรับแฟน F1 ชาวไทยในเรซนี้คงจะหนีไม่พ้น Alexander Albon นักขับไทยที่ในช่วงแรกของการแข่งขันได้จังหวะแซงสวยๆ หลายรอบจนขึ้นไปถึงอันดับที่ 7 แต่ทีม Engineer เรียกเข้าพิทถึง 3 ครั้ง ทำให้สุดท้ายจบดีที่สุดแค่อันดับ 14 ซึ่งหลังเรซก็มีข้อมูลมาว่ามีปัญหาเรื่องยางดีเกรด หรือ ยางหมดค่อนข้างไว รวมไปถึงเรื่องความเร็วในโค้งความเร็วต่ำที่สู้ทีมอื่นยังไม่ค่อยได้ แม้จะสู้ได้ในช่วงทางตรงก็ตาม เรื่องนี้ทางทีม Williams Racing ก็คงต้องหาทางแก้กันต่อไปในช่วงพัก Summer Brake 

ส่วนอีกคนที่น่าชื่นชมในเรซนี้คงต้องยกให้ Lando Norris จากทีม McLaren ที่ช่วงรอบที่ 19 เขายังอยู่ในอันดับ 19 จากการเข้าพิทไปเปลี่ยนเป็นยาง Soft แต่ Norris ก็ไล่แซงคนอื่นมาถึง 12 คัน จนจบเรซนี้ได้ในอันดับที่ 7 และวิ่งด้วยการใช้ยาง Soft ชุดเดียวยาวๆ ไปถึง 25 รอบ ต้องบอกเลยว่าเป็นผลงานการขับที่ยอดเยี่ยมของนักแข่งดาวรุ่งอนาคตไกลจากแดนผู้ดีคนนี้จริงๆ 

สำหรับผู้ชนะเรซนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Max Verstappen คนดีคนเดิม ที่คว้าชัยในสนาม Spa-Francorchamps 3 ปีซ้อน ถึงแม้วันนี้เขาจะโดนปรับโทษต้องออกสตาร์ทอันดับ 6 ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะเขามีจังหวะแซงสวยๆ หลายครั้งทั้ง Lewis Hamilton และ Charles Leclerc จนสุดท้ายขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ในรอบที่ 17 แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ได้ควบตำแหน่งคนทำ Fastest Lap ไปด้วย โดยคนที่ทำได้คือ Hamilton ที่มี Free Pit Stop ในมืออยู่ 1 ครั้ง เลยเข้าพิทไปเปลี่ยนยาง แล้วทำ Fastest Lap ได้ในรอบสุดท้ายด้วยเวลา 1:47.305 แต่สุดท้ายทีมกระทิงก็จบเรซนี้สวยงามอยู่ดีจาก Red Bull one-two เพราะทาง Sergio Perez เข้าเส้นชัยเป็นอันนดับ 2 

ส่วนผลการแข่งขันของนักขับที่เหลือใน Belgian Grand Prix ทั้ง Sprint Race และ Main Race รวมไปถึงอันดับคะแนนสะสมล่าสุดของนักแข่งและทีมผู้ผลิต จะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามด้านล่างนี้ได้เลยครับ 

ผลการแข่งขัน Belgian Grand Prix Sprint Race 

1. Max Verstappen (Red Bull Racing) 
2. Oscar Piastri (McLaren) 
3. Pierre Gasly (Alpine) 
4. Carlos Sainz (Ferrari) 
5. Charles Leclerc (Ferrari) 
6. Lando Norris (McLaren) 
7. Lewis Hamilton (Mercedes) 
8. George Russell (Mercedes) 
9. Esteban Ocon (Alpine) 
10. Daniel Ricciardo (AlphaTauri) 
11. Lance Stroll (Aston Martin) 
12. Alexander Albon (Williams) 
13. Valtteri Bottas (Alfa Romeo) 
14. Kevin Magnussen (Haas F1 Team) 
15. Zhou Guanyu (Alfa Romeo) 
16. Logan Sargeant (Williams) 
17. Nico Hulkenberg (Haas F1 Team) 
18. Yuki Tsunoda (AlphaTauri) 

ไม่จบการแข่งขัน: Sergio Perez (Red Bull Racing), Fernando Alonso (Aston Martin) 

ผลการแข่งขัน Belgian Grand Prix Main Race 

1. Max Verstappen (Red Bull Racing) 
2. Sergio Perez (Red Bull Racing) 
3. Charles Leclerc (Ferrari) 
4. Lewis Hamilton (Mercedes) 
5. Fernando Alonso (Aston Martin) 
6. George Russell (Mercedes) 
7. Lando Norris (McLaren) 
8. Esteban Ocon (Alpine) 
9. Lance Stroll (Aston Martin) 
10. Yuki Tsunoda (AlphaTauri) 
11. Pierre Gasly (Alpine) 
12. Valtteri Bottas (Alfa Romeo) 
13. Zhou Guanyu (Alfa Romeo) 
14. Alexander Albon (Williams) 
15. Kevin Magnussen (Haas F1 Team) 
16. Daniel Ricciardo (AlphaTauri) 
17. Logan Sargeant (Williams) 
18. Nico Hulkenberg (Haas F1 Team) 

ไม่จบการแข่งขัน: Oscar Piastri (McLaren), Carlos Sainz (Ferrari) 

5 อันดับคะแนนสะสมนักแข่ง 

1. Max Verstappen 314 คะแนน 
2. Sergio Perez 189 คะแนน 
3. Fernando Alonso 149 คะแนน 
4. Lewis Hamilton 148 คะแนน 
5. Charles Leclerc 99 คะแนน 

อันดับคะแนนสะสมทีมผู้ผลิต 

1. Red Bull Racing 503 คะแนน 
2. Mercedes 247 คะแนน 
3. Aston Martin 196 คะแนน 
4. Ferrari 191 คะแนน 
5. McLaren 103 คะแนน 
6. Alpine 57 คะแนน 
7. Williams 11 คะแนน 
8. Haas F1 Team 11 คะแนน 
9. Alfa Romeo 9 คะแนน 
10. AlphaTauri 3 คะแนน