ไปดูเองยากไหม? รีวิวติดขอบสนาม F1 2023 ‘Singapore Grand Prix’

5 ตุลาคม 2566 - 09:39

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Hero.jpg
  • สุดสัปดาห์นี้ศึก Formula 1 เตรียมเดินทางเข้าสู่เรซที่ 17 ‘Qatar Grand Prix’ กันแล้ว

  • และอย่างที่ Spacebar VIBE สัญญากันไว้ก่อนหน้านี้ว่าเราได้มีโอกาสบินไปดู ‘Singapore Grand Prix’ แบบติดขอบสนาม แล้วจะเอารีวิวมาฝากกัน

  • วันนี้เราเลยขอเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ให้ทุกคนได้ติดตามกัน เผื่อในปีหน้าใครอยากลองไปดูด้วยตัวเองสักครั้ง ก็ใช้บทความนี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้เลยครับ

สุดสัปดาห์นี้ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือ Formula 1 ประจำฤดูกาล 2023 ก็เตรียมเดินทางเข้าสู่เรซที่ 17 กันแล้ว รอบนี้จะเป็นที่ประเทศกาตาร์กับ ‘Qatar Grand Prix’ ซึ่งหลังจากจบเรซนี้ก็จะยกพลไปแข่งกันที่โซนทวีปอเมริกายาวๆ 4 เรซ โดยเรซที่กาตาร์สำคัญตรงที่ว่าเราอาจจะได้เห็น Max Verstappen คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ของเขาได้ที่สนามนี้เลย และอย่างที่ Spacebar VIBE สัญญากันไว้ก่อนหน้านี้ว่าเราได้มีโอกาสบินไปดู ‘Singapore Grand Prix’ แบบติดขอบสนาม แล้วจะเอารีวิวมาฝาก วันนี้เราเลยขอเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ให้ทุกคนได้ติดตามกัน เผื่อในปีหน้าใครอยากลองไปดูด้วยตัวเองสักครั้ง ก็ใช้บทความนี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้เลยครับ

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo01.jpg

เราขอเริ่มจากบัตรเข้าชมการแข่งขันกันก่อนเลย สำหรับการไปดู Singapore Grand Prix ในครั้งนี้ เราซื้อบัตรผ่านทาง Traveloka ได้มาในราคา 7,000 นิดๆ กับบัตร Zone 4 Walkabout เป็นบัตรเข้าชมในวันอาทิตย์ หรือวันแข่งขันจริงนั่นเอง ซึ่งถ้าหากใครตัดสินใจได้เร็วหน่อย ในราคานี้ถ้าซื้อล่วงหน้าอาจจะได้ดูทั้ง 3 วันเลย ส่วนที่เราอยากเอาเรื่องบัตรมาเล่าก็เพราะ ถ้าดูใบยืนยันการจองจะเห็นตรงส่วนวิธีการแลกรับบัตรว่า ให้แสดงใบยืนยันนี้พร้อมเอกสารยืนยันตัวตน แต่จริงๆ แล้วทาง Traveloka จะส่ง QR Code ที่เอาไว้เข้างานมาให้เราในช่วงก่อนถึงวันแข่ง เพราะใบยืนยันนี้ไม่สามารถใช้ผ่านประตูได้นะครับ โดยเราเองก็พลาดและไม่ได้เช็ค ทำให้เสียเวลาไปประมาณเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงเหมือนกัน

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo02.jpg

สำหรับแผนที่ของสนามแข่ง Marina Bay Street Circuit แทร็คประจำ Singapore Grand Prix จะเห็นว่ามีประตูเข้าออกสนามทั้งหมด 8 ประตู ซึ่งการเดินทางมาก็ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะแต่ละประตูจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT ของสิงคโปร์ ในระยะเดินไม่ถึง 500 เมตร และต่อจากนี้ในหลายๆ โซนที่เราเอามารีวิว อยากให้ดูแผนที่ของสนามประกอบไปด้วยนะครับ

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo03.jpg

โดยทางเข้าที่เราเลือกคือประตูที่ 4 เพราะว่าอยู่ไม่ไกลจากที่พักในทริปนี้เท่าไหร่ โดยเราเดินผ่านย่าน Boat Quay ซึ่งถ้าใครใช้ทางเข้าตรงเรา พอเดินออกมาย่านริมน้ำแล้ว ให้สังเกตหาโรงแรม Fullerton ถ้าเห็นปุ๊บก็เดินตรงยาวๆ ไปจนถึงโรงแรมได้เลย แล้วก็จะเจอสะพาน Cavenagh ให้ข้ามสะพานไปได้เลย หลังจากนั้นก็จะเจอกับป้ายทางเข้า เดินตามป้ายไปก็จะพบเต็นท์ทางเข้าแล้วครับ

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo04.jpg

หลังจากผ่านประตูเข้ามาได้ สิ่งแรกที่จะเห็นเลยก็คือ โซนที่นั่งที่จัดไว้ให้ผู้ชมมานั่งพัก มีฉากหลังเป็น Victoria Theatre ในขณะที่ด้านข้างเป็นสแตนด์ใหญ่อย่าง Orange @ Empress Grandstand ใครที่ซื้อตรงนี้ไว้ก็ขึ้นไปได้เลย นอกจากนั้นบริเวณนี้ก็ยังมีโซนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า Grid Bar ไว้ให้บริการด้วย รวมไปถึงร้านขายของที่ระลึกก็มีพร้อมให้แฟนๆ F1 ได้ละลายทรัพย์เช่นกัน ส่วนบัตร Zone 4 Walkabout แบบเราก็จะต้องดูผ่าน Viewing Platform ที่เป็นสแตนด์เล็กๆ ตั้งไว้ให้คนที่ซื้อบัตรโซนนี้ได้ชมกัน แต่ด้วยพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากบวกกับจำนวนคนที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะทำให้ต้องขึ้นไปจับจองกันไวหน่อยนะครับ

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo05.jpg

โดยช่วงเวลาที่เราเข้าสนามไปกำลังจะเป็นช่วงที่มี Driver Parade พอดี ซึ่งนักแข่งของแต่ละทีมก็จะนั่งรถเปิดประทุนออกมาทักทายคนดูรอบๆ สนามก่อนจะเริ่มแข่ง ทำให้เราเอาตัวเองเบียดเข้าไปใน Viewing Platform บริเวณทางเข้าไม่ได้ ก็เลยต้องมุดอุโมงค์ข้ามมาอีกฝั่งหนึ่ง ที่แพลตฟอร์มตรงนั้นพอมีที่เหลือให้เข้าไปยืนอยู่ได้พอดิบพอดี ใครที่อยากเห็นชัดๆ แนะนำเผื่อเวลากันให้ดีๆ ครับ

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo06.jpg

หลังจากดู Driver Parade เสร็จ เราก็เตรียมเดินไปยัง Viewing Platform ที่เราตั้งใจไว้ว่าจะไปดูก็คือบริเวณสะพาน Jubilee ซึ่งเป็นช่วงทางตรงยาว โดยบรรยากาศระหว่างทางเดิน เราจะผ่าน F1 Village ของโซน 4 ที่เหมือนเป็นศูนย์กลางตรงนี้ มีทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก และเวทีคอนเสิร์ตใหญ่อย่าง The Padang ก็อยู่บริเวณนี้เหมือนกัน เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ทางขวามือเราก็จะเห็นทางลอดที่พาเราข้ามมายังฝั่ง Esplanade Theater เลี้ยวขวาอีกทีก็จะถึงสะพาน Jubilee  ซึ่งเดินไปอีกนิดก็จะเจอทางเข้าของแพลตฟอร์มแล้วครับ

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo07.jpg

สำหรับ Viewing Platform บริเวณสะพาน Jubilee จะอยู่ตรงช่วงหลังออกจากโค้งที่ 13 และจะเป็นทางตรงยาวๆ ไปจนถึงโค้ง 14 ซึ่งสามารถใช้ DRS เพิ่มความเร็วได้ โดยเราก็จะมีโอกาสเห็นนักแข่งกดคันเร่งกันแบบเต็มๆ บริเวณนี้ ส่วนวิวฉากหลังก็สวยงามไม่แพ้กัน เพราะเราจะเห็นโรงแรม Fullerton อยู่ตรงหน้า พร้อมกับตึกสูงใหญ่มากมายของสิงคโปร์ สำหรับใครที่คอแห้งอยากหาอะไรดื่มก็ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะเขามี Grid Bar ไว้ให้บริการด้านล่างสแตนด์เลย

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo08.jpg

การรับชมการแข่งขันผ่าน Viewing Platform ตรงนี้ ข้อสำคัญเหมือนตอน Driver Parade เลยนั่นก็คือ เราต้องเผื่อเวลาพอสมควร ถ้าเกิดอยากจะมีที่ดีๆ เพื่อดูการแข่งแบบชัดๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร เพราะจริงๆ แล้วเราเองก็ไปช้าเหมือนกัน แต่ว่ายังพอมีที่เหลือให้ขึ้นไปยืนได้ตามมุมที่เห็น ซึ่งจริงๆ แล้วด้านล่างสแตนด์มีคนจำนวนหนึ่งที่มาช้า และไม่สามารถขึ้นมาได้ ในขณะที่การรับชม เราจะเห็นรถออกจากโค้ง 13 แล้ววิ่งต่อในทางตรงทันที ก็ถือว่าเห็นได้ชัดแบบติดขอบสนามพอสมควร ส่วนเรื่องเสียงบางคนก็จะใส่ Earplug แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่าไม่ดังเท่าไหร่ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ และถ้าใครกลัวเห็นการแข่งได้ไม่ทั่วถึงก็ไม่ต้องเป็นห่วง เขามีจอถ่ายทอดสดการแข่งให้ดูกระจายอยู่ทั่วทุกโซน เพราะต่อให้เรานั่งสแตนด์ดีแค่ไหน ยังไงเราก็เห็นแค่รถวิ่งผ่านตรงหน้าอยู่ดี จึงต้องมีจอไว้ให้คนดูอัพเดตเรื่อยๆ ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในเรซบ้าง

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo V01.jpg

และหลังรถคันแรกวิ่งเข้าไปรับธงตราหมากรุก คว้าชัยชนะสนามนี้ได้ ตามธรรมเนียมก็จะต้องมีการจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลอง ซึ่งบริเวณที่เราอยู่ก็ใกล้มากๆ แค่หันหลังไปก็เจอขบวนพลุสุดอลังการยิงยาวๆ เกือบ 4-5 นาที ที่ถูกยิงขึ้นจากอ่าว Marina Bay ท่ามกลางวิวด้านหลังสวยๆ ของ Marina Bay Sand, Art & Science Museum และ Singapore Flyer

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo09.jpg

ถ้าใครติดตามการแข่งขัน F1 ที่สิงคโปร์ หรือพอรู้ข้อมูลเบื้องต้นมาบ้าง น่าจะทราบกันดีว่าจุดเด่นของที่นี่นอกจากการแข่งรถแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตที่ขนเอาไลน์อัพศิลปินเบอร์ท็อปๆ มาเล่นตลอดในทุกๆ ปี อย่างในปีนี้ก็มีทั้งแก๊ง 88rising ที่มาทั้ง Jackson Wang, Rich Brian, Bibi และ Milli เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมี Post Malone, The Kooks, Kings Of Leon และป๊อปสตาร์ตัวพ่ออย่าง Robbie Williams ที่ขึ้นโชว์ในวันสุดท้ายด้วย โดยเราก็มีทริคสำหรับคนที่อยากดูคอนเสิร์ตกันนิดนึงว่า ให้รีบมาแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าคุณออกมาตอนการแข่งขันจบแล้ว พื้นที่บริเวณหน้าเวที The Padang จะเต็มจนไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว อาจจะต้องยืนเสพบรรยากาศจากรอบนอกเอา ซึ่งถ้าใครไม่ซีเรียส เราว่ามันก็โอเค เพราะเสียงที่ได้ยินมันชัด บวกกับเขามีจอยักษ์ให้เราเห็นการแสดงบนเวทีอยู่แล้วด้วย

F1-2023-Singapore-Grand-Prix-review-SPACEBAR-Photo10.jpg

ช่วงท้ายๆ ถ้าใครหิวหรืออยากแวะซื้อของที่ระลึกก่อนกลับก็ไม่ต้องห่วง เพราะบริเวณ F1 Village โซน 4 มีร้านอาหารมากมายเรียงรายให้เลือกอิ่มกัน รวมไปถึงเต๊นท์ขายของที่ระลึกที่พร้อมตกเงินจากกระเป๋าของคุณก็มีอยู่รอบๆ เต็มไปหมด ส่วนใครที่รู้สึกว่าอยากจะปาร์ตี้ต่อ ค่ำคืนนี้มันยังไม่สุด ใกล้ๆ กันเขาก็มีโซนที่เรียกว่า The Garage มีน้ำอ้อยเย็นๆ ให้บริการ พร้อมกับเปิดเพลงให้คนเต้นกันอย่างเมามัน ตอนที่เราไปถึงบอกเลยว่าหลายคนกำลังเพลินได้ที่เลย แล้วจอที่อยู่ตรงบริเวณบาร์เครื่องดื่ม เขาก็มีบอกเวลารถไฟฟ้าคันสุดท้ายด้วยนะ ซึ่งหลังจากนั้นเราก็เดินกลับไปออกตรงทางเดิมก็คือประตูที่ 4 ปิดท้ายวันแบบสวยงาม

เป็นยังไงครับกับรีวิวที่เราเอามาฝากกัน ตั้งแต่ซื้อบัตรไปจนถึงตอนออกจากสนาม บอกได้เลยว่าไม่ยากครับ สำหรับใครที่จะลองมาในปีหน้า เพราะที่นี่เขาบริหารจัดการดีมากๆ ป้ายบอกทางต่างๆ ชัดเจน ยังไงก็ไม่มีหลงแน่นอน ของกินของฝากครบ ซึ่งถ้าใครติดตามการแข่งขัน F1 ไม่ว่าจะเพิ่งมาหรือติดตามมานานแล้ว และยังไม่เคยมา เราอยากแนะนำให้ลองมาสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเองสักครั้งครับ เพราะที่สิงคโปร์ใกล้บ้านเราที่สุดแล้ว ราคาก็ไม่ได้เขยิบไปไกลมากเหมือนที่อื่นๆ เชื่อเถอะครับว่าถ้าคุณหลงใหลใน F1 แค่มาเห็นรถแข่งวิ่งผ่านใกล้ๆ ตรงหน้า และได้ยินเสียงเครื่องยนต์ V6 กระหึ่มเข้าโซนประสาทก็คุ้มแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์