World Cup 2022: ส่องขุมกำลังทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

18 พ.ย. 2565 - 08:45

  • ส่องขุมกำลังทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ได้แก่ สเปน, คอสตาริกา, เยอรมนี และ ญี่ปุ่น

FIFA-World-Cup-2022-Team-Group-E-SPACEBAR-Main
เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วกับกลุ่มที่ 5 ในกลุ่ม อี ที่ประกอบไปด้วย ทีมชาติสเปน, ทีมชาติคอสตาริกา, ทีมชาติเยอรมนี และ ทีมชาติญี่ปุ่น โดยในกลุ่มนี้มีอดีตแชมป์โลกอยู่ถึงสองทีมคือสเปน และเยอรมนี ซึ่งทั้งสองทีมนี้ก็น่าจะเป็นตัวเต็งในการผ่านเข้ารอบต่อไป ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อกแบบโลกถล่ม ในขณะที่อีกสองทีมอย่างคอสตาริกา และญี่ปุ่น ก็น่าจะมีสิทธิเป็นทีมสอดแทรกคอยลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆ ได้ลุ้นกันบ้าง ภาพรวมของทั้งสี่ทีมจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ที่ SPACEBAR ครับ
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7dqRwJLN5csPNFh58oG774/fcbf0698eba19509ba769b46369aa344/FIFA-World-Cup-2022-Team-Group-E-02

Spain 

เริ่มกันที่ทีมแรกกับอดีตแชมป์โลกหนึ่งสมัยเมื่อปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ อย่างทีมชาติสเปน ที่มีประสบการณ์กับฟุตบอลโลกมามากมาย เคยผ่านมาเล่นรอบสุดท้ายแล้วถึง 15 สมัย กับอันดับโลกอันดับที่ 7 ในเวลานี้ มาในคราวนี้ยังคงนำทัพมาโดย Luis Enrique เฮดโค้ชฝีมือดีชาวสแปนิชที่คุมทีมเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดของเขาตอนนี้คือพาทีมเข้าถึงรอบรองฟุตบอลยูโร 2020 และก่อนหน้าที่ทัวร์นาเมนต์นี้จะเริ่มก็มีประเด็นถกเถียงเยอะพอสมควรที่เขาไม่เลือก David De Gea ผู้รักษาประตูจากทีมปีศาจแดงมาติดทีมชุดนี้ ทั้งๆ ที่หลายคนเห็นเหมือนกันว่าเจ้าตัวมีฟอร์มที่ดีเอามากๆ กับสโมสรต้นสังกัด ในขณะที่ผู้เล่นตำแหน่งอื่นก็ขนมาเต็มที่ทั้ง Cesar Azpilicueta, Aymeric Laporte, Pedri, Rodri ในแผงกองหลังและมิดฟิลด์ ส่วนที่น่าติดตามคือนักเตะแนวรุกที่ดูหลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Marco Asensio, Ansu Fati, Ferran Torres, Nico Williams ฯ และจากคุณภาพทีมที่ดีแบบนี้ ก็ต้องมารอดูกันว่าการประสานงานของผู้เล่นเวอร์ชั่นบอลโลก 2022 นี้จะพาทีม ‘กระทิงดุ’ ไปได้ไกลแค่ไหน

 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/10RqZnlJ0qhZpD1Q3e8ZKR/950e90b7713bbfe828dfb6affa541f50/FIFA-World-Cup-2022-Team-Group-E-03

Costa Rica 

ถัดมาเป็นทีมชาติคอสตาริกา อีกหนึ่งทีมตัวแทนจากทวีปคอนคาเคฟ ที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นครั้งที่ 6 โดย 5 ครั้งก่อนหน้านี้ของพวกเขาเคยสร้างเซอร์ไพรส์แฟนบอลมาแล้วด้วยการเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในปี 2014 ที่บราซิล แต่เมื่อสี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาหยุดแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น มาหนนี้ทีมนำมาโดย Luis Fernando Suárez โค้ชชาวโคลอมเบีย ที่เพิ่งพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกคอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2021 นี่จะเป็นการประเดิมคุมทีมในบอลโลกของเขา ในขณะที่นักเตะก็พกตัวเก๋ามาเต็มทั้ง Keylor Navas, Celso Borges, Bryan Ruiz และ Joel Campbell ที่พกประสบการณ์ในฟุตบอลโลกมาเต็ม ถึงจะดูเป็นทีมที่มีโอกาสไม่มาก แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน เพราะทัพ ‘กล้วยหอม’ อาจจะหักปากกาเซียนเหมือนในปี 2014 ก็ได้ใครจะรู้

 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6rKCNj4cmGd2TfigkJzl2Y/d376469801a052c3612fe254d150697b/FIFA-World-Cup-2022-Team-Group-E-04

Germany 

ต่อกันที่ ทีมชาติเยอรมนี แชมป์โลก 4 สมัย และแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ณ ประเทศบราซิล ที่เป็นทีมมากประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเบอร์ต้นๆ ของโลก พวกเขาผิดหวังกับทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์สองหนล่าสุดทั้งฟุตบอลโลก 2018 ที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ชนะเพียงแค่นัดเดียว จอดป้ายแรกที่รอบแบ่งกลุ่ม และยูโร 2020 ที่ก็ไม่ได้ไปไกลกว่าเดิมเท่าไหร่ เพราะจบลงที่รอบน็อคเอ้าท์รอบแรก แต่คราวนี้พวกเขามาพร้อมกับหัวเรือใหญ่คนใหม่ที่เคยเป็นผู้ช่วยของ Joachim Löw ในชุดแชมป์โลก 2014 มาก่อนอย่าง Hansi Flick โค้ชยอดฝีมือที่รอบนี้ได้ก้าวขึ้นมาคุมแบบเต็มตัว มาพร้อมกับผู้เล่นฝีเท้าดีที่ขนมาแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น Manuel Neuer, Antonio Rudiger, Ilkay Guendogan, Joshua Kimmich, Leon Goretzka, Jamal Musiala, Serge Gnabry, Thomas Muller ฯลฯ ด้วยขุมกำลังคุณภาพบวกกับฝีมือโค้ชที่มากความสามารถ ทำให้ส่วนใหญ่มองกันว่าพลพรรค ‘อินทรีเหล็ก’ พวกเขาน่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้แน่นอน และมีลุ้นเข้าไปถึงรอบลึกๆ ได้เลยทีเดียว

 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4RH2QyAEbCboBmUfCOUXYs/3c41b7d32a4bd07b147d35fdeb57272d/FIFA-World-Cup-2022-Team-Group-E-05

Japan 

ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งตัวแทนจากทวีปเอเชียอย่างทีมชาติญี่ปุ่น เจ้าของแชมป์เอเชีย 4 สมัย ที่เข้ามาเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งเมื่อสี่ปีที่แล้วภายใต้การทำทีมของ Akira Nishino พวกเขาเข้าใกล้รอบก่อนรองชนะเลิศมากที่สุดแล้ว เพราะนำเบลเยียม ไปก่อนถึง 2-0 ก่อนจะโดนพลิกนรกแซง 3-2 ในทดเวลานาทีสุดท้าย พลาดโอกาสไปแบบน่าเสียดายมาก มาหนนี้ Hajime Moriyasu ที่รับไม้ต่อมาจาก Nishino และเพิ่งพาทีมคว้ารองแชมป์เอเชียนคัพ เมื่อปี 2019 ขนผู้เล่นฝีเท้าดีที่ค้าแข้งในยุโรปมามากมาย เช่น Ko Itakura, Takehiro Tomiyasu, Takumi Minamino, Takefusa Kubo, Takuma Asano และ Daizen Maeda เป็นต้น เสริมด้วยผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง Eiji Kawashima, Maya Yoshida, Hiroki Sakai และ Yuto Nagatomo ที่จะมาคอยประคองรุ่นน้อง พร้อมด้วยนักเตะฟอร์มแรงจาก Brighton & Hove Albion อย่าง Kaoru Mitoma ที่ดูเหมือนจะเป็นอาวุธลับของญี่ปุ่นชุดนี้ ถึงโอกาสจะไม่มีไม่เยอะ เพราะต้องสู้กับทีมอย่างสเปน และเยอรมนี แต่เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะลุ้นหรือแอบหวังให้ทัพ ‘ซามูไรบลู’ สร้างเซอร์ไพรส์ผ่านเข้ารอบต่อไปได้อยู่เหมือนกัน

 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์